MG HS โฉมปัจจุบัน คือรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่หากนับอายุการตลาด ก็ต้องถือว่าอยู่ในระดับนานพอที่จะต้องถูกปรับโฉมใหญ่ได้แล้ว และในที่สุด “ว่าที่โฉมใหม่” ของมัน ก็ดูเหมือนจะปรากฏตัวออกมาแล้ว โดยประเดิมทดสอบให้เห็นกันก่อนในประเทศออสเตรเลีย

จากข้อมูลโดย Drive.com.au สื่อฯออสเตรเลียเจ้าใหญ่ ระบุว่ามีคนพบเห็นรถยนต์ปริศนารุ่นหนึ่งกำลังถูกนำมาวิ่งทดสอบบนถนนสาธารณะในบริเวณเมืองซิดนีย์ ของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งหากดูจากทรวดทรงของตัวรถแล้ว เราก็จะพบว่ามันมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกับตัวรถในเอกสารสิทธิบัตรที่ทาง MG เคยยื่นจดเอาไว้ และใช้ชื่อประกอบเอกสารว่ามันคือ “MG eHS” รุ่นใหม่เป็นอย่างมาก

eHS ชื่อนี้อาจไม่คุ้นหูชาวไทยเท่าไหร่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันคือชื่อของ MG HS PHEV ที่ทางค่ายใช้ทำตลาดในทวีปยุโรป และนั่นจึงหมายความว่าตัวรถในภาพสิทธิบัตรที่ทุกท่านเห็นกันอยู่ในขณะนี้ อันที่จริงก็สามารถตีความว่ามันคือภาพโฉมใหม่ของตัวรถ HS PHEV ที่ขายอยู่ในบ้านเรา ณ เวลานี้ได้ด้วย

และหากเทียบหน้าตากันแบบจุดต่อจุด เราก็จะพบว่าร่างใหม่ของมัน จะมาพร้อมกับเส้นสายที่ถูกปรับให้ดูทันสมัยขึ้นมาก ทั้งจากไฟหน้ากับไฟท้ายที่ถูกปรับใหม่ ให้เป็นแบบเล็ก แล้วเรียวยาว และยังมีเส้นเชื่อมคาดกลางจากด้านซ้ายไปด้านขวาเหมือนกันทั้งคู่ โดยในฝั่งไฟหน้า จะใช้แถบโครเมียมคาดกลาง และฝั่งไฟท้าย จะใช้แถบไฟ LED เพื่อต่อกันกับคู่ไฟท้าย ให้กลายเป็นไฟท้ายลักษณะ Cross Tail Light ตามสมัยนิยม

นอกนั้นในส่วนกันชนหน้าเอง ก็มีการปรับปรุงให้มาพร้อมกับกระจังหน้าที่ทำหน้าที่เป็นช่องดักลมขนาดใหญ่กว่าเดิม แต่ยังคงใช้กรอบรูปทรงเดิมกับตัวรถ MG HS โฉมล่าสุด ไม่เว้นแม้กระทั่งกรอบช่องดักลมด้านข้าง ที่เป็นจุดติดตั้งชุดไฟตัดหมอก ไม่ใช่แถบไฟ DRL แนวตั้งอีกต่อไป และที่ขาดไม่ได้ คือช่องดักลมใต้กันชนหน้าที่ดูเล็กลงกว่าเดิม เพราะต้องแบ่งพื้นที่ให้ช่องกระจังหน้าที่ใหญ่ขึ้น แต่มันยังคงเป็นตำแหน่งสำหรับการติดตั้งชุดเรดาร์เซนเซอร์สำหรับตรวจจับวัตถุด้านหน้ารถดังเดิม

ขณะเดียวกัน ในส่วนของรายละเอียดด้านข้าง ช่วงครึ่งล่างตัวรถ ยังไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนเส้นสายอย่างมีนัยยะสำคัญมากมายนัก นอกไปเสียจากการกรีดเส้นไหล่จากหัวไปท้ายที่ดูมีมิติชัดเจนยิ่งขึ้น ชุดล้อใหม่ที่ดูสปอร์ตมากขึ้น ตามด้วยการย้ายตำแหน่งการติดตั้งกระจกมองข้าง จากบริเวณกรอบกระจกบานข้าง ณ ตำแหน่งกระจกหูช้าง มาไว้ที่ตัวบานประตูใต้แนวกระจกบานข้างแทน และปรับงานออกแบบกระจกบานข้างคู่ท้ายใหม่ ให้ดูเล็กเรียวกว่าเดิม เพื่อรับกับเส้นแนวหลังคาด้านท้ายที่ถูกปรับให้ดูลาดเรียวลงเล็กน้อย เพื่อเพื่อความปราดเปรียวให้กับตัวรถ

และฝั่งด้านท้ายรถ นอกจากรูปทรงไฟท้ายที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ลักษณะฝาท้ายเอง ก็มีการปรับใหม่ ให้มีเส้นสันตัดกลาง คล้ายกับสปอยเลอร์ทรงตูดเป็ด ปรับกรอบพื้นที่ติดตั้งป้ายทะเบียน ให้เว้าลงไปถึงแนวกันชนหน้า ซึ่งดูสะอาดตาและโปรงกว่าเดิม ตามด้วยชายล่างกันชนท้าย ที่มีการปรับเอาชุดดิฟฟิวเซอร์หลังออกไป และออกแบบใหม่ให้ดูเรียบง่ายกว่าเดิมแต่ยังคงทันสมัยและลงตัวกับงานออกแบบด้านหน้า

อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าแท้จริงแล้ว ตัวรถโฉมใหม่ของ MG HS ในครั้งนี้ จะยังคงใช้พื้นฐานเดียวกันกับอีกหนึ่งรถยนต์แบรนด์ลูกภายใต้ชายคา SAIC Motor บริษัทแม่ของ MG ในปัจจุบัน นั่นคือ Roewe RX5 โฉมล่าสุด ซึ่งมีการเปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศจีนมาตั้งแต่ปี 2022 ซึ่งทั้งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะ HS โฉมที่ยังขายอยู่ในตอนนี้ ก็ใช้พื้นฐานร่วมกับ RX5 เจเนอเรชันแรกเช่นกัน

และหากอิงข้อมูลจาก Roewe RX5 เจเนอเรชันล่าสุด เราก็จะพบว่ามันคือตัวรถอเนกประสงค์ที่ใหญ่กว่า MG HS ร่างปัจจุบัน ในทุกๆด้าน ทั้ง ด้านยาว 81 มิลลิเมตร, ด้านกว้าง 14 มิลลิเมตร, ด้านสูง 21 มิลลิเมตร, และฐานล้อก็ยาวกว่า 45 มิลลิเมตร

นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารของเจ้า RX5 ยังมีลูกเล่นคือชุดจอระบบอินโฟเทนเมนท์และจอแสดงผลข้อมูลตัวรถที่เชื่อมต่อเป็นแผงเดียวกันจนได้ขนาดใหญ่ถึง 27 นิ้ว ซึ่งทาง MG อาจนำมันมาใช้ด้วย หรืออาจจะไม่ก็ได้ ?

แต่ในด้านขุมกำลังตัวรถของ Roewe RX5 เจเนอเรชันล่าสุด คาดว่าทาง MG จะยังคงหยิบมาใช้ในรถ HS ของตนเองเช่นเดิม โดยในคราวนี้ ก็จะมีตัวเลือกทั้ง เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 188 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร

ขณะที่รุ่นขุมกำลัง PHEV ที่มีการเสริมมอเตอร์ 245 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร เข้ามา ก็จะทำให้ตัวเลขแรงบิดสุทธิเมื่อทั้งสองขุมกำลังทำงานร่วมกัน ได้ตัวเลขออกมาที่ 570 นิวตันเมตร ทว่าในฝั่งตัวเลขแรงม้าสูงสุด กลับไม่ได้มีการเปิดเผยตัวเลขไว้แต่อย่างใด

ส่วนแบตเตอรี่ที่ให้มา จะมีขนาด 12.3 kWh ซึ่งตามการทดสอบบนมาตรฐาน NEDC มันจะสามารถจ่ายกระแสไฟสำหรับการวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนได้ไกลสุด 61 กิโลเมตร/ชาร์จ

อย่างไรก็ดี จากคำโปรยของ MG UK หรือ MG สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นบ้านเกิดดั้งเดิมของแบรนด์จริงๆ ระบุว่า MG HS PHEV รุ่นใหม่ จะต้องมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในคลาส ดังนั้นขนาดแบตเตอรี่สำหรับระบบ PHEV ในตัวรถ MG HS รุ่นใหม่ จึงจะต้องมีขนาดอย่างน้อยที่ 20 kWh

และนั่นจะทำให้มันสามารถรองรับการจ่ายไฟสำหรับการวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนได้ไกลสุดไม่น้อยกว่า 113 กิโลเมตร ตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP ซึ่งเป็นมาตรฐานที่แข็งกว่า NEDC อยู่พอสมควร

ด้านกำหนดการเปิดตัว MG HS รุ่นใหม่ เจเนอเรชันใหม่ คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดภายในช่วงกลางปีนี้ เนื่องจากมันมีกำหนดจะต้องถูกวางขายในประเทศออสเตรเลียช่วงครึ่งหลังของปี 2024

ส่วนประเทศไทยเรายังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆออกมาในตอนนี้ แต่ก็คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในสิ้นปีนี้เป็นอย่างเร็วเช่นกัน

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่