Home » เปิดกลขโมยรถใหม่ …เน้นซิวรถใช้กุญแจ   Keyless
keyless-entry-device-being-used
Bust topic เคล็ดลับเรื่องรถ

เปิดกลขโมยรถใหม่ …เน้นซิวรถใช้กุญแจ   Keyless

ทุกวันนี้ด้วยเทคโนโลยีที่มีมากมายในปัจจุบัน อาจจะทำให้หลายคนต่างมองถึงความสะดวกสบายมากกว่าเรื่อความปลอดภัย แต่วันนี้คุณควรจะตระหนักว่า รถคุณอาจจะตกอยู่ในอันตรายมากกว่าที่คิด

เรื่องนี้ที่นำมาฝากกำลังเป็นที่กล่าวถึงในต่างประเทศ และทำให้บริษัทรถยนต์หลายเจ้าปวดเศียรเวียนเกล้าอย่างนัก เมื่อโจรขโมยรถยุคใหม่ อาจจะเชิดลูกค้าได้ง่ายกว่าที่พวกเขาบอกคุณว่ารถยนต์ของพวกคุณไม่น่าจะตกเป็นภัยโจรขโมยรถยนต์เหมือนแต่ก่อน

ศูนย์ประกันภัยอาชญากรรมแห่งชาติเพิ่งจะเปิดเผยว่า ต่อไปนี้รถยนต์ที่ใช้ระบบกุญแจ   Keyless   มาพร้อมระบบปุ่มสตาร์ท จะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เมื่อมีรายงานว่า โจรขโมยรถมีอปกรณ์ทที่ทางการเรียกว่า  “Mystery Device” ที่สามารถทำให้ขโมยรถได้ง่าย และขับออกไปเหมือนเจ้าของรถ

อุปกรณ์ดังกล่าวทำงาน ใน  2  ขั้นตอน   โดยขั้นตอนแรก จะลอกสัญญาณจากกุญแจที่เจ้าของรถ ในระยะ 10  ฟุต หรือ  3   เมตร โดยประมาณ จากนั้นอุปกรณ์ดังกล่าวจะเห็บโคดสัญญาณไว้แล้วใช้นการเปิดรถให้กับโจร และสามารถขับออกไปได้เหมือนคุณเป็นเจ้าของรถ

เมื่อเร็วๆนี้ ทางหน่วยงานดังกล่าวเพิ่งจะร่วมกับทาง  Car Max ในรถยนต์   35   รุ่นชั้นนำ โดยในจำนวนนี้กว่า   19   คัน สามารถเปิดรถและเข้าไปในห้องโดยสารได้ และ อีก   18   คัน สามารถขับรถยนต์คันดังกล่าวไปได้เลย

นายโรเจอร์ มอร์ริส โฆษกของ ทางหน่วยงานดังกล่าว เปิดเผยว่า นี่เป็นสงครามครั้งสำคัญระหว่างผู้ผลิตและโจรขโมยรถ  โดยเขาแนะนำใหจอดรถในที่คนพลุกพล่าน และ สังเหตความผิดปกติรอบตัวทุกครั้งที่เดินจากรถ 

ล่าสุดทางหน่วยงานประกันภัยอาชญากรรมได้ ให้หน่วยงานภายนอกมาเอาอุปกรณ์ดังกล่าวลองทดสอบเพิ่ม แต่เขาเชื่อว่าอุปกรณ์ดังกล่าว น่าจะยังมีอีกในต่างประเทศ

ทั้งนี้ เมื่อไม่นานมานี้ในเยอรมันทาง   ADAC   กล่าวเปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่ระบบกุญแจแบบ   Keyless   จะถูกปลดรหัสและทำให้เกิดการโจรกรรมได้ง่าย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการโจรกรรมรถยนต์ได้ขึ้น แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกทีมีการพูดถึงอุปกรณ์ขโมยรหัสกุญแจลอกสัญญาณดังกล่าวอย่างชัดเจน

 

ที่มา Autonews

 

ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ …. เนื้อหาดีๆ ต้องแบ่งปันต่อ แล้วอย่าลืมถูกใจ เพื่อรับข่าวสารยานยนต์ดีๆ จากทีมงานคุณภาพ Ridebuster – ส่องรถ ….

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.