ในช่วงหลายปีทีผ่านมา บริษัทรถยนต์ชั้นนำทั้งหลายต่างปวดเศียร์เวียนเกล้ากับ ยอดขายรถยนต์ที่ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง หลายบริษัทเชื่อว่ามาจากการอิ่มตัวของตลาด แต่งานวิจัยทางการตลาดชิ้นใหม่ที่เพิ่งเปิดเผยล่าสุดกลับ แสดงผลที่น่าสนใจว่ามาจากบริการเรียกรถส่วนตัว
ผลการศึกษาล่าสุดจาก IHS Markit เปิดเผยว่า การตกต่ำของตลาดรถยนต์ในปัจจุบัน เป็นผลมาจากบริการเรียกรถยนต์ส่วนตัวใช้บริการ ประเภทเดียวกับ Uber และการสนองบริการดังกล่าวกำลังจะทำให้ยอดขายรถยนต์ทั่วโลก ตกต่ำลง เนื่องจากคนรุ่นใหม่ อาจจะไม่คิดซื้อหารถยนต์อีกต่อไป
ตามการวิจัยดังกล่าวระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ยอดขายรถยนต์ทั่วโลก 80 ล้านคันต่อปี อาจจะลดลงเหลือเพียง 54 ล้านคัน ต่อปี ในอีก 23 ปีข้างหน้า
ส่วนการเติบโตของรถยนต์กลุ่มไฮบริดเสียบปลั้กจะมียอดขายเพียงร้อยละ 14 น้อยกว่ากลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่คาดการณ์ว่าน่าจะมียอดขายถึงร้อยละ 19 ส่วนที่เหลือยังคงเป็นรถยนต์ประเภทเครื่องยนต์สันดาปภายใน ซึ่งน่าจะยังครองใจคนทั่วโลกเหมือนเคย คิดเป็นร้อยละ 62 แต่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในจะได้รับความนิยมลดน้อยลง ตั้งแต่ช่วงปี 2020
นาย แดเนียล เยอกิ้น รองประธานของ IHSS Markit กล่าวเปิดเผยต่อรายงานชิ้นใหม่ของบรอษัทว่า ในอนาคตคนจะเดินทางด้วยรถยนต์มากขึ้น แต่จะมีคนที่ต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์สักคันน้อยลง นี่จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทรถยนต์ จะต้องมองถึงการสร้างคุณภาพของตัวรถมากขึ้นกว่าปัจจุบัน และการเปลี่ยนแปลงนี้กำลังเริ่มต้นขึ้น และอยู่ในจุดเพิ่งเริ่มเท่านั้น
ที่มา IHS Markit
ช่วยเป็นกำลังใจให้ทีมงาน