Royal Enfield หรือเรียกสั้นๆ ว่า RE ในหมู่นักเลงมอเตอร์ไซค์สายคลาสสิก ได้เปิดโชว์รูมวิภาวดีเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าแล้ว หลังจากรุกตลาดประเทศไทยมาเป็นเวลาเกือบสองปี ซึ่งช่วงแรกพวกเขามีโชว์รูมที่เดียวบริเวณย่านทองหล่อ และก็มีลูกค้าจำนวนมากร้องขอให้ขยายโชว์รูมและศูนย์ไปยังโซนอื่นบ้าง ทึ่สำคัญคือปลายปีนี้ในงาน Motor Expo 2017 พวกเขาเตรียมนำรถทัวริ่งสายลุย Himalayan มาเปิดตลาดให้ลูกค้าได้จับจอง
ก่อนหน้าการมาของรถสายเลือดอังกฤษแต่ผลิตอินเดีย บรรดาไบค์เกอร์ผู้คลั่งไคล้ความคลาสสิกมีตัวเลือกอาชาคู่กายระดับราคาไม่เกิน 2 แสนบาทเพียงหยิบมือ แต่เมื่อแบรนด์ RE มาพวกเขาก็เริ่มตีตลาดด้วยราคาที่ไม่แพงนัก ขณะเดียวกัน 2 ล้อที่จำหน่ายก็จัดว่าคงความดั้งเดิมตามแบบฉบับรถคลาสสิก ได้แก่ การใช้เครื่องยนต์ 1 สูบ ขนาดความจุ 500 ซีซี ปราศจากระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ซับซ้อน แน่นการขับขี่แบบชิวๆ ประหยัดน้ำมัน และสามารถซ่อมแซมได้ง่ายแถมจ่ายเงินน้อย
เมื่อเวลาล่วงเลยไปจำนวนประชากร Royal Enfield ที่แล่นอยู่ทั่วประเทศก็พุ่งสูงเกือบ 2 พันกว่ากัน จำเป็นจะต้องมีโชว์รูมและศูนย์บริการเพื่อรองรับการเติบโตของกลุ่มผู้ใช้ โดยคุณ สมรรถ รอบบรรเจิด ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรอยัล เอนฟิลด์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ได้กล่าวว่า “การเปิด ‘รอยัล เอนฟิลด์ วิภาวดี เอ็กซ์คลูซีฟ สโตร์’ นับเป็นอีกย่างก้าวสำคัญของรอยัล เอนฟิลด์ ประเทศไทย สะท้อนให้เห็นกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าตลอดระยะเวลา 20 เดือนแรกของแบรนด์ในประเทศไทย ซึ่งการขยายศูนย์บริการนับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เพื่อรองรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ โดยเรามุ่งมั่นมอบบริการหลังการขายที่สมบูรณ์แบบ ขณะเดียวกันยอดขายราว 45% ของเรามาจากลูกค้านอกเขตกรุงเทพฯ โดยการขยายศูนย์บริการใหม่ทั้ง 7 แห่งในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศภายในปี 2561”
ยิ่งไปกว่านั้นคุณสมรรถยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า “ยอดขายมอเตอร์ไซค์ของเรา 70% เป็นรุ่น Classic โดยส่วนใหญ่ลูกค้าที่เข้ามาหาเราจะมีสไตล์ที่ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นพอพวกเขามาดูและลองขี่รถ ก็สามารถตัดสินใจได้ทันทีว่าเอาคันนี้แหละ อย่างไรก็ตามสำหรับลูกค้าที่ชอบรถสายลุย ช่วงสิ้นปิีในงาน Motor Expo 2017 เราจะนำทัวริ่งสายลุยอย่าง Himalayan ซึ่งตอนนี้เราได้เปิดราคารุ่นเริ่มต้นไว้ที่ 1.698 ส่วนรุ่นสูงสุดอยู่ที่ 1.918 แสนบาท โดยผลตอบรับก็มีผู้สนใจจับจองเป็นจำนวนมาก และเราคาดว่าในปีหน้า Himalayan จะทำยอดขายได้ 30% จากยอดของ RE ทั้งหมด”
เหนือสิ่งอื่นใดคือเรื่องการตลาดของแบรนด์ RE ที่พยายามรุกเปิดตลาดใหม่ๆ โดยพวกเขาได้เดินกลยุทธ์จัดกิจกรรมโรดโชว์ไปยังสถานที่ต่างๆ เช่น อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้าทั้งในกทม. และต่างจังหวัด รวมถึงตลาดสุดแนวยามค่ำคืน เพราะต้องการให้ลูกค้ารู้จักและได้สัมผัสกับรถคันจริงให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตามเราหวังว่าแบรนด์ RE จะสามารถสร้างฐานให้มั่นคงในไทย เพื่อรักษากลุ่มลูกค้าเก่ารวมถึงเจาะตลาดลูกค้าใหม่ ยิ่งไปกว่านั้นก็เอาใจช่วยให้พวกเขานำรถรุ่นใหม่ๆ มาป้อนสู่ตลาดมอเตอร์ไซค์บ้านเราให้ร้อนฉ่ายิ่งๆ ขึ้นไป
ช่วยเป็นกำลังใจให้เรา
