ทุกวันนี้กระแสโลกาภิวัฒน์ทางด้านการสื่อสารอันรวดเร็ว ทำให้สื่อและคนจำนวนมากเลือกที่จะใช้ศัพท์ย่อต่าง ๆ มากมาย เพื่อทำให้ทุกอย่างง่ายและสะดวกขึ้น  หลายครั้งหลายหนผู้เขียนเองยังต้องงงกับ บรรดาคำศัพท์เฉพาะทั้งหลาย และวันนี้ ผมว่าน่าจะเป็นเวลาอันดีที่เราจะมา ทำความเข้าใจทบทวนศัพท์ย่อวงการรถยนต์ โดยเฉพาะใครที่กำลังสับสนอยู่  

คำว่า   MPV – SUV   และ   Crossover หรือบางคนก็เรียกว่า   CUV    เป็นศัพท์เฉพาะที่ใช้ท่ามกลางหมู่คนที่มีความรู้เรื่องรถ เมื่อพูดถึงรูปแบบรถยนต์อเนกประสงค์ที่มีมากมายเกลื่อนตลาดในวันนี้ เราลองมาดูสิ่ง่าแต่ละแบบต่างกันอย่างไรบ้าง

MPV  (Multi Purpose Vehicle)

รถยนต์อเนกประสงค์แบบ   MPV   เป็นรถที่มีมานานมาก และได้รับความนิยมในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศอเมริกา เราเรียกรถแบบนี้ว่า  “มินิแวน”

รถมินิแวน เป็นรถที่มีทรวดทรงเป็นกล่องมีช่วงตัว2 ช่วงหรือมากวก่านั้นตามแต่ขนาด โดยจุดเด่นคือการเปิด-ปิดทางด้านท้ายที่เป็นแบบฝาท้ายคล้ายรถยนต์แบบแฮทช์แบ็ค มีความสูงมากกว่าเก๋งทั่วไป โดยมากตัวรถจะออกแบบให้มีความสูงเป็นพิเศษเพื่อให้มีความโปร่งโล่งสบายในการโดยสาร

จุดเด่นของรถ   MPV  อยู่ที่ฟังชั่นการใช้งาน ซึ่งสะดวกครบครันมากกว่ารถยนต์เก๋งทั่วไป การอำนวยความสะดวกดังกล่า วทำให้มันเป็นรถที่เหมาะในการใช้งานได้แทบทุกรูปแบบที่คุณนึกออกก ไม่ว่าจะต้อนรับญาติผู้ใหญ่ ใช้ไปส่งลูก หรือขนสิ่งของไปทำกิจกรรมในวันว่าง

ปัจจุบันรถอเนกประสงค์แบบนี้ได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์ขึ้น บ้างติดตั้งประตูแบบสไลด์เปิดข้างเพื่อประหยัดพื้นที่ในการขึ้นลงแลมีความสะดวกสบายมากว่า พื้นโดยสารมักจะต่ำในระดับเดียวกับรถเก๋ง  และบางครั้งคุณอาจจะพบว่า บางสื่อเรียกรถแบบนี้ว่า   MUV   ก็ไม่ต้องแปลกใจ มันคือรถประเภทเดียวกัน  เพียงแต่มีการเปลี่ยนศัพท์ให้จำง่ายขึ้นว่า   “Multi- Utility Vehicle” 

รถกลุ่มนี้ปัจจุบันในประเทศไทย มีไม่เยอะนับรุ่นพอไหว ตัวอย่างเช่น   Toyota Innova, Honda Mobilio,Suzuki Ertiga, และ   Toyota Sienta

SUV

ช่วงนี้เชื่อว่าหลายคนน่าจะได้ยินคำว่า   SUV   ค่อนข้างบ่อย เนื่องจากกำลังเป็นรถที่ได้รับความสนใจจากตลาดในปัจจุบัน

SUV   เป็นคู่คนละขั้วกับ   MUV   พวกมันเกิดขึ้นตอบโจทย์ความต้องการของคนที่ทำกิจกรรมวันว่างมากขึ้น มันเริ่มต้นด้วยพื้นฐานรถกระบะก่อนในยุคแรก เราจึงอาจจะได้ยินบางคนเรียกรถกลุ่มนี้ด้วยศัพท์จากบางค่ายรถที่นิยามให้เข้าใจง่าย ว่า   PPV   ซึ่งย่อมาจาก  “Pick Up Passenger Vehicle” ทั้งที่มันน่าจะเหมาะมากกว่ากับรถยนต์กระบะ 4 ประตูทั้งหลาย 

SUV  ในยุคแรกส่วนใหญ่เป็นกระบะที่มีกระดูกงูในตัวรถ ด้วยความพัฒนาจากกระบะ จึงได้ชื่อว่า “รถตรวจการ” เหมาะกับรถสำหรับใช้ในการเดินทางระยะไกล โดยสารได้ดี และยังผ่านอุปสรรคอันสมบุกสมบันได้ 

ทำให้รถยนต์อเนกประสงค์กลุ่มนี้โดยมาก จะมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล และติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเข้ามาตอบความสามารถในการขับขี่ จนปัจจุบันรถยนต์กลุ่มนี้มีการพัฒนามากมายหลายรูป เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ ทั้งทางด้านขนาด และความสามารถในการขับขี่

 

CUV / Cross Over

เมื่อรถยนต์อเนกประสงคืมีความต้องการมากขึ้น การเพิ่มความสามารถในการขับขี่ก็มากขึ้นตามไปด้วย จากเดิมที่พัฒนาบนพื้นฐานรถกระบะเพียงอย่างเดียว ก็เริ่มมีการตอบสนองมากขึ้นด้วยในการขับขี่ที่มองหาความสบายในการเดินทางมากขึ้น บริษัทผู้ผลิตจึงจับโครงสร้างรถเก๋งมาสร้างรถยนต์ประเภทนี้ แล้วนิยามมันว่า   Crossover  ส่วน   CUV   เอง ก็ย่อมาจากคำว่า   Crossover Utility Vehicle

ในหลายแง่รถ Crossover   และ  SUV  มีความเหมือนกันหลายอย่า งทั้ง การมีระยะต่ำสุดจาดพื้นที่ท้องรถที่สูง ลักษณะตัวรถที่สูงโปร่งและพร้อมลุย แต่เมื่อมาดูกันถึงเนื้อในอย่างระบบขับเคลื่อนสี่อล้อที่ให้ตืดตัวในลักษณะ  AWD   – All Wheel Drive   หรือ   Real time All Wheel Drive   ซึ่งทำงานเมื่อตามต้องการหรือเกิดการลื่นไถล

เมื่อประกับการพัฒนาโครงสร้างรถจากรถเก๋ง ที่มีลักษณะโครงสร้างหลักในตัวหรือ  Unibody   ก็ทำให้มันมีความแตกต่างจาก  SUV   พอสมควร

คำว่า   Crossover ในความของฝั่งตาน้ำข้าง มันหมายถึงการขับรถทางไกลอาจจะเป็นระยะหลายพันกิโลเมตร เช่นการขับรถข้ามทวีปในอเมริกา  ก็ยิ่งตอกย้ำว่ารถยนต์ประเภทนี้เกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ในแง่การโดยสารดีกว่ารถยนต์อเนกประสงค์แบบ   SUV

ด้วยการใช้โครงสร้างแบบรถเก๋งทำให้มันนั่งสบายขึ้น ลุยได้บ้างเล็กน้อย แข็งกระด้างน้อยลง นิ่มนวลยามอยู่บนถนนมากขึ้น ในทางกลับกัน หากต้องการขับในที่มีอุปสรรคทางขุรขระมากๆ โครงสร้างแบบรถเก่งจะมีอาการบิดตัวมากกว่า มีความแข็งแรงน้อยกว่า ในแง่ของการใช้งาน มันจึงเหมาะเพียงบนถนนทั่วไป และเส้นทางลูกรัง หรือทางออฟโรดขั้นพื้นฐาน ที่ไม่ต้องปีนป่ายมากมาย ไม่ต้องใช้ความสามารถจากความแข็งแรงของตัวรถมากนัก

จริงยุ่ที่รถครอสโอเวอร์บางรุ่นมีความสามารถใกล้เคียง  SUV   และความนุ่มนวลมากกว่า รวมถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบใหม่ อาจจะทำให้มันขับขี่ได้ดีใกล้เคียง แต่หากลุยบ่อย แบบไปเป็นประจำ นั่งหัวสั่นหัวคลอนตลอด 2-3 ชั่วโมงรถอเนประสงค์ประเภท   SUV   จะตอบโจทย์กว่า

 

รถยนต์อเนกประสงค์ในวันนี้ต้องยอมรับว่ามันมีความมากมายหลากหลายลงตัวต่อการใช้งานมากขึ้น รถยนต์อเนกประสงค์ประเภทใหม่ๆ ล้วนเกิดมาสนองผู้ใช้งาน แต่ท้ายสุดก็อยู่ที่ผู้ซื้อแหละครับว่า แบบไหนที่จะเหมาะกับเรา และลงตัวกับงบประมาณในกระเป๋าที่มี

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง นักทดสอบรถยนต์ และ คอลัมนิสต์ เว็บไซต์   Ridebuster.com  ติดตามผลงานการเขียน และข้อมูลที่น่าสนใจได้ทาง  Facebook 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com