ในยุคการแข่งขันทางการตลาดสูงลิ่ว บริษัทรถยนต์ดูจะมุ่งการทำรถยนต์ที่สร้างออกมาตอบสนองการขับขี่ตามความต้องการของลูกค้า โลกยุคใหม่แห่งความสบายและเต็มไปด้วยเครื่องมืออำนวยความสะดวกกำลังค่อยๆ กัดกินวิญญาณหัวใจนักขับขี่ทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกียร์ธรรมดา
ในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา รถยนต์เกียร์ธรรมดาถูกทอนบทยาทความสำคัญลงไปอย่างมาก ชุดเกียร์ที่ให้ความสามารถตามต้องการขับได้ดั่งใจที่ผู้ขับขี่ปรารถนา ถูกแทนที่ด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติที่มีความชาญในการขับขี่มากขึ้นเรืื่อยๆ และมีศักยภาพในการความประหยัดน้ำมันมากขึ้น จนคนเริ่มลืมเรือนเกียร์ธรรมดาไปและ ผู้ผลิตรถยนต์ก็อาศัยจังหวะนี้ค่อยๆ ไล่ปลดเกียร์ธรรมดาออกไป จนไลน์การผลิตตามอายุขับรถที่ถึงเวลาต้องเปลี่ยนรุ่น จนวันนี้ในตลาดรถใหม่มีรถเกียร์ธรรมดาเหลือไม่กี่รุ่น และพวกมันอาจจะถึงเวลาที่ต้องไปจริงๆ
การหายไปของเกียร์ธรรมดาเกิดขึ้น ด้วยปัจจัยสำคัญหลายประการมากมาย เริ่มจากความต้องการของคนขับรถยุคใหม่ที่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องความสนุกสนาานในการขับขี่จากการต้องมานั่งขึ้นลงเกียร์อีกต่อไป พวกเขาอยากเพียงเหยียบคันเร่งให้แรงทะลุใหม่ หลังติดเบาะเร้าใจก็เพียงพอต่อความต้องการ
แต่ประเด็นหลักสำคัญอีกด้วยที่เกียรืธรรมดาถูกลดบทบาทสำคัญลงไป มาจากการวิศวกรรมสุดโบราณ ถึงเกียร์ธรรมดาจะมีความทนทานและตอบสนองการขับขี่ได้ดี ส่งกำลังหมดครบทุกเม็ดไม่ไปตกหล่นที่ไหน เมื่อเทียบกับเกียร์อัตโนมัติ
ทว่าเกียร์อัตโนมัติรุ่นใหม่ ก็มีดีในเรื่องความสามารถในการรับแรงบิดจากเครื่องยนต์ได้มากกว่าเกียร์ธรรมดา แถมการมีหน่วยประมวลผลแบบเดียวกับเครื่องยนต์ รวมถึงต่อเชื่อกับหน่วยประมวลผลเครื่องยนต์ได้ด้วยในยุคนี้ ทำให้ชุดเกียร์มีความฉลาดในการใช้งาน พวกมันสามารถเรียนรู้พฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้ได้
แถมความสามารถในการติดตั้งอัตราทดเกียร์ที่มากกว่าเกียร์ธรรมดา เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ เช่นเกียร์ 9-10 สปีด สร้างความเป็นไปได้ในการขับขี่มากกว่า ผลิตเกียร์ธรรมดาที่มีอัตราทดเยอะ แถมเมื่อใช้แล้วยังอาจสร้างความสับสนอีกต่างหาก ยิ่งกว่านั้นเกียร์อัตโนมัติยุคใหม่ออกแบบให้สามารถเลือกอัตราทดได้ตามต้องการด้วย ทำให้ลูกค้าเหมือนมีเกียร์ธรรมดาในตัวระหว่างการขับขี่
ตลอดจนเครื่องยนต์ยุคใหม่มีการลดขนาดลง เพื่อเพิ่มศักยภาพทางด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมและประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันให้สูงที่สุดเท่าที่จะมากได้ เช่นเดียวกับในอีกด้านเครื่องยนต์ศักยภาพสูงต่างมีความสามารถในการขับขี่เพิ่มสูงขึ้น รถสปอร์ตสมรรถนะสูงสมัยนี้มาพร้อมกำลังถึง 400 แรงม้า เป็นพื้นฐาน และคงจะดีกว่าถ้าคุณสามารถขับสบายๆ ก็ได้ หรือจะซิ่งก็ได้ตามต้องการ
ภาพการห่างหายของเกียร์ธรรมดาในยุคนี้ค่อนข้างชัดขึ้นตามลำดับรถยนต์ในอดีตที่เคยมีเกียร์ธรรมดา จำพวกรถอีโค่คาร์ต่างทำให้เราประจักษ์มากขึ้ว่า เกียร์ธรรมดาจะมาถึงจุดจบแล้วในอนาคตอันใกล้ การแนะนำรถนั่งขนาดเล็กรุ่นใหม่ อาทิ Toyota Yaris / Yaris Ativ, Mazda 2 พวกมันไม่มีเกียร์ธรรมดาให้เลือก หรือจะเป็นกลุ่มคอมแพ็คคาร์ที่เดิมทีมีรุ่นเกียร์ธรรมดา ก็ไม่มีให้คบหาอีกต่อไป จนแม้แต่รถแท็กซี่สมัยนี้ยังต้องหันมาใช้เกียร์ออโต้
เกียร์ธรรมดาอาจยังรอดตายอยู่ในรถบางรุ่นก็จริง แต่เหมือนรอวันประหารโดนคาดออกไปเมื่อเปลี่ยนรุ่นใหม่ เช่น Subaru WRX Sti ที่อาจจะเป็นรถสปอร์คยุคสุดท้ายของเกียร์ธรรมดาจากซูบารุ หรือจะเป็น Honda Jazz ที่จะเป็นซิตี้คาร์ 1500 ซีซี รุ่นสุดท้ายที่มาพร้อมเกียร์ธรรมดา พร้อมความสปอร์ตที่พอเลือกได้
ในกระบะเกียร์ธรรมดาเริ่มมีตัวเลือกน้อยลงเรื่อยๆ และ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา รถกระบะใหม่ๆ มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ และลูกค้าสนใจเลือกมากกว่า เนืื่องจากต้องการความสะดวกสบายในการใช้งาน ที่สำคัญรุ่นท๊อปทั้งหมดเป็นเกียร์อัตโนมัติไร้เงาเกียร์ธรรมดาให้ได้เห็น ยกตัวอย่างเช่น Ford Ranger Raptor ใหม่ ใช้เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และไม่มีรุ่นเกียร์ธรรมดาให้เลือก เช่นเดียวกับ Toyota Supra ใหม่ ก็จะไม่มีรุ่นเกียร์ธรรมดาเช่นกัน
ส่วนในต่างประเทศ บริษัทรถยนต์ชั้นนำอย่าง BMW M Performance ออกมาเปิดเผยว่า พวกเขามั่นใจว่าเกียร์ธรรมดา จะหายไปในอีก 6-7 ปีข้างหน้า หรือในราวๆ ปี 2025 (กลางทศวรรษหน้า) นายปีเตอร์ ควินตัส รองประธานฝ่ายขาย BMW M Performance ระบุว่า ตอนนี้เกียร์ยุคใหม่ชาญฉลาดมาก เรามีอัตราทดเกียร์ได้มากเท่าที่ต้องการและเห็นสมควร รวมถึงศักยภาพเกียร์ธรรมดามาถึงขีดสุดแล้ว เกียร์ดีๆ 1 ลูกสามารถรับกำลังสูงสุดได้เพียง 450 แรงม้า เท่านั้น มันไม่พอแล้วสำหรับรถสปอร์ตยุคนี้
กาลเวลาและความทันสมัยทางด้านเทคโนโลยีกำลังทำให้เราลืมเลือนเกียร์ธรรมดา ที่อาจจะถึงวาระสุดท้ายของมันแล้วในเวลานี้ ถึงแม้หลายคนจะมองภาพเกียร์ธรรมดาเป็นระบบส่งกำลังคร่ำครึโบราณ แต่ใครที่เคยสมันผัสพวกมันต่างคงชื่นชอบความสนุกสนานเร้าใจในการขับขี่ ทุกครั้งที่ได้กระแทกคลัทช์สับเกียร์ มันเหมือนส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณการขับขี่ที่หายไป …อย่างน่าเสียดาย
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง นักทดสอบรถยนต์ และ คอลัมนิสต์ เว็บไซต์ Ridebuster.com ติดตามผลงานการเขียน และข้อมูลที่น่าสนใจได้ทาง Facebook
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com