Home » “รถสปอร์ต” ตลาดนี้ที่ห่างหาย ….
บทความ สกู๊ปเด็ด

“รถสปอร์ต” ตลาดนี้ที่ห่างหาย ….

ท่ามกลางกระแสการแข่งขันในงานมอเตอร์โชว์ปี 2018 บรรดารถยนต์ที่ดูจะมาแรงขายดีเป้นพิเศษ ดูท่าจะไม่พ้นบรรดารถยนต์จากแบรนด์ยุโรปชั้นนำที่เข้ามาทำตลาด เทขายกันอย่างสนุกสนาน สวนทางกับสิ่งที่ใครเขาว่าเศรษฐกิจเมืองไทยขาลง ชี้ให้เห็นถึงกำลังซื้อที่เยอะแยะมากมายอุ่นหนาฝาคั่งของคนไทย 

บรรยากาศความสนุกดังกล่าว ดูจะเป็นที่ฮือฮาทันทีหลังจากค่ายรถยนต์ชั้นนำจากญี่ปุ่นประกาศเปิดตัวพร้อมขายรถยนต์สปอร์ตตำนานแห่งยุค   Nissan  GT-R   ในประเทศไทย หลังจากที่มีการพูดถึงมายาวนาน และสาวกหลายคนอยากให้มาขาย ด้วยที่ผ่านมารถยนต์รุ่นนี้ถูกนำเข้ามาขายโดยตัวแทนจำหน่ายนำเข้าอิสระ หรือที่รู้จักกันในนาม   Grey Market   แม้จะมีรถให้ได้ขับในราคไม่แพง แต่ก็สุ่มเสี่ยงต่อการนำเข้าไม่ถูกต้อง หรือรถเป็นสเป็คสำหรับประเทศอื่น ซึ่งกับบรรดารถสปอร์ตทีี่ใช้งานแบบเหยียบลูกสูบแทบกระเด้นออกมาข้างนอกก็ถือว่า มีความเสี่ยงพอสมควรในแง่การใช้งาน  

การมาของ   Nissan GT-R   โดยนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย เป็นการยืนยันถึงการเติบโตของกลุ่มตลาดรถยนต์ระดับไฮเเอนด์ ซึ่งแม้แต่บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นยังต้องขอไปแจมด้วย ถึงจะมีหลายกระแสว่าราคารถมาแอบแรงไปสักหน่อย ด้วยราคาค่าตัว 13.5 ล้านบาท แต่นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดกระแสเบิกทางรถสปอร์ตให้เข้ามาขายในไทยก็ได้ 

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา   Mercedes AMG   สร้างกระแสร้อนสปอร์ตคาร์ในประเทศไทย ด้วยการเปิดตัวรถยนต์สปอร์ตผลิตในประเทศ   Mercedes AMG C43 Coupe   เคาะราคาขายต่ำลงกว่ารุ่นนำเข้าถึง 1 ล้านบาท และมีแผนจะเปิดตัวในปีนี้ ด้วยรถยนต์  AMG   ทั้งไลน์ อัพ ซึ่งก่อนห้านี้เมื่อช่วงปีที่แล้ว เปิดตัว   Mercedes AMG GT-R   เจ้ายักษ์เขียวในประเทศไทย ด้วยราคาค่าตัว 17.4 ล้านบาท 

 

ส่วนทางด้านคู่แข่งขาประจำ   BMW   เบิกทางสายสปอร์ตยกตระกูล   M   มาวางจำหน่ายให้คนไทยมีโอกาสจับจองด้วย   BMW M5   ใหม่  และเตรียมเปิดตัว   BMW M4 CS   ด้วยเช่นกัน 

กลับมาทางด้านค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ในเวลานี้ดูเหมือนนอกจากนิสสันแล้ว ค่ายรถยนต์ Subaru  จะเป็นเพียงบริษัทเดียวที่ทำตลาดกลุ่มนี้มายาวนานต่อเนื่อง ด้วยรถสปอร์ตรุ่นเริ่มต้น  Subaru BRZ   แต่ถ้าอยากแรงมากขึ้นอีก ก็มี   Subaru  WRX  และ  WRX STi   ให้เลือกคบได้ตามกำลังทรัพย์ที่ลูกค้ามี ราคาสนนสูงสุดที่ 3 ล้านกว่าบาทเท่านั้น 

ส่วนทางด้านฟอร์ด บริษัทรถยนต์จากอเมริกาก็เล็งเห็นกำลังซื้อของคนไทย หลังจากพบว่า ลูกค้า   Ford Ranger   นำรถรุ่นท๊อปไปแต่งเต็มเพียบ จนเป็นจุดกำเนิดของ   Ford Ranger Raptor   ที่เตรียมเข้ามาทำตลาดในไทยในเร็วๆ นี้ โดยจะเปิดราคาขายในงาน มอเตอร์โชว์ปีนี้ 

อย่างไรก็ดี ในรอบๆ ประเทศไทย มีการวางจำหน่ายรถยนต์สปอร์ตจากบรรดาบริษัทรถยนต์ชั้นนำมามาย อาทิ   Honda   ซึ่งเปิดขายรถยนต์อย่าง   Honda  Civic  Type R   ในประเทศ ฟิลลิปปินส์ และบางประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในสิงคโปรเปิดขาย   Honda  NSX   ซุปเปอร์คาร์คลาสเดียวกับ Nissan  GT-R   อีกด้วย 

Honda-NSX-sg002

อย่างไรก็ดี ในบรรดาแบรนด์รถยนต์จากญี่ปุ่นชั้นนำในบ้านเรา ส่วนใหญ่ยังดูเหมือนจะกล้าๆ กลัวกับการทำตลาดรถสปอร์ต เนื่องจากรถเหล่านี้ส่วนใหญ่ จะเป็นรถที่นำเข้าทั้งคันตรงจากญี่ปุ่น ทำให้ราคาค่าตัวถีบสูงขึ้นไปอีกเท่าตัว เมื่อต้องนำมาจำหน่ายในไทย ยังไม่นับการต้องผ่านกฎข้อบังคับต่างๆในประเทศไทย ที่มีการกำหนดไว้อย่างเข้มงวด ทั้งในเชิงภาษีอากรขาเข้า และสรรพสามิตร 

แต่เป็นที่น่าแปลกที่ถึงแม้รถเหล่าานี้จะมีราคาแพงเท่าไรก็ตาม มันก็ยังมีคนซื้อไว้เป็นคู่ใจยามซิ่ง เนืื่องจากสามารถเก็บไว้แล้วมีราคาค่าตัวในอนาคต  และข้อพิสูจน์หนึ่งคือการเปลี่ยนมือของรถสปอร์ตในตลาดมือสอง ที่ไม่เคยจากหาย แสดงให้เห็นถึงความต้องการรถสปอร์ตใหม่ๆ สู่ตลาด ซึ่งสมควรจะมีหลายระดับช่วงราคา เพื่อตอบโจทย์กำลังการซื้อของคนบ้ารถ ที่อาจจะมีกำลังซื้อไม่เท่ากัน

การมาถึงของ   Nissan GT-R   จะเป็นบทพิสูจน์ที่ดีว่า ความต้องการรถสปอร์ตในประเทศไทย มีสูงมากน้อยเพียงใด แม้ราคาค่าตัวของมันจะไม่ได้ถูก อย่างที่หลายคนตั้งเป้ามุ่งความหวังเอาไว้ อาจจะเป็นรถที่แพงที่สุด ตั้งแต่นิสสันนำเข้ามาจำหน่ายในไทย หากด้วยความกล้าของนิสสัน นับเป็นความน่าชื่นชมอย่างยิ่งที่ทำให้เราคนไทยได้มีโอกาสซื้อรถสปอร์ตป้ายแดงจากโชว์รูม  ซึ่งในวันหน้า เราน่าจะได้เห็นรถสปอร์ต จากอีกหลายค่าย ถ้านิสสันประสบความสำเร็จ 

 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com



 

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.