จากที่เมื่อสองสัปดาห์ก่อนมีข่าวว่ารถขับอัตโนมัติของ Uber ขับรถไปชนหญิงที่กำลังจูงจักรยานข้ามถนนจนเสียชีวิต จนถึงวันนี้ทุกคนต่างตั้งคำถามว่ารถที่ขับโดยระบบคอมพิวเตอร์เหล่านี้ีปลอดภัยจริงหรือ? ซึ่งจากที่มีคนสอบถามกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกันก็พบว่า กว่า 75% บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ยอมใช้งานรถประเภทนี้แน่นอน
ทุกคนทราบดีว่ายุคที่รถยนต์สามารถขับขี่ไปยังจุดหมายปลายทางได้ด้วยตนเองกำลังมาถึงในไม่ช้า แต่กว่าจะถึงตอนนั้นมันก็ต้องพิสูจน์หลายสิ่งอย่าง เพื่อให้มนุษย์ผู้ใช้งานยอมรับเปิดใจใช้งาน อย่างไรก็ตามในปัจจุบันอันเป็นยุคเริ่มแรกย่อมเจออุปสรรคหลายสิ่ง เบาหน่อยก็แค่รถขับอัตโนมัติขับไปชนรถคันอื่นที่ขับโดนมนุษย์บนถนน แต่ล่าสุดหนักมากคือมันขับไปชนคนเดินถนนจนเสียชีวิต ก่อให้การกระแสความหวาดกลัวเทคโนโลยีนี้ไปทั่วโลก
โดยล่าสุด Ipsos บริษัทผู้ให้บริการสำรวจเก็บข้อมูลชื่อดังระดับโลกได้เปิดเผยผลล่าสุด ที่ได้สอบถามกลุ่มตัวอย่างจำนวน 21,549 คน จาก 28 ประเทศทั่วโลก ที่มีอายุระหว่าง 18-24 ปี ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมปี 2017 ซึ่งอยู่ในช่วงก่อนเกิดเหตุรถขับอัตโนมัติของอูเบอร์ขับชนหญิงที่กำลังจูงจักรยานข้ามถนนจนเสียชีวิต รวมถึงการที่ Tesla Model X ขับไปชนท้ายรถจนเกิดลุกไหม้แล้วผู้ขับขี่เสียชีวิต
ตามผลวิจัยได้ข้อมูลน่าสนใจออกมาว่า ชาวอเมริกันเพียงหนึ่งในสี่กับชาวแคนาดา 20% เท่านั้นที่ยอมเปิดใจใช้งานรถขับขี่อัตโนมัติ ในขณะที่ภูมิภาคอื่นผู้คนเปิดใจเพิ่มขึ้นเป็น 30% อย่างไรก็ตามกระแสความนิยมรถขับอัตโนมัติยังต้องฟันฝ่าอุปสรรคอีกมาก เพราะตอนนี้มีคนกว่า 24% ที่ต่อต้านเหล่ารถอัจฉริยะเหล่านี้ และแน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ใช้มันแน่นอน ทว่าก็มีอีกกว่า 37% ที่ยอมใช้รถขับขี่กึ่งอัตโนมัติที่สามารถเปิดปิดเพื่อควบคุมรถด้วยตนเองได้ ส่วนอีก 12% บอกว่าสนใจที่จะใช้บริการ car-sharing
จากมุมมองของเราคิดว่า แม้ระบบขับขี่อัตโนมัติที่ถูกติดตั้งบนรถตอนนี้ยังทำงานไม่สมบูรณ์นัก แต่เทคโนโลนีที่พัฒนาต่อเนื่องทุกวันก็จะช่วยให้รถขับขี่อัตโนมัติที่หลายคนคาดหวังไว้ ใกล้จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้นมันยังต้องผ่านข้อพิสูจน์มากมายเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากทุกคน
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com