Home » 6 เรื่องดูแลรถให้ขับ “ประหยัดน้ำมัน” ได้ดั่งใจ
testdrive-focus-ecoboost-14
Bust Technic เคล็ดลับเรื่องรถ

6 เรื่องดูแลรถให้ขับ “ประหยัดน้ำมัน” ได้ดั่งใจ

ทุกวันนี้ ราคาน้ำมัน เริ่มกลับเข้ามาสู่ยุคราคาแพงอีกครั้ง หลังจากกรัฐบาลประกาศไม่ให้เผยแนวโน้มการขึ้นหรือปรับลดราคา ทำเอาเราหลายคนเริ่มลำบากเห็นอีกทีราคาน้ำมัน เพิ่มทะยานสูงถึงระดับ  30 บาทเสียแล้ว  ที่ผ่านมาเราพูดถึงวิธีการขับประหยัดไปมากมาย พวกมันจะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไม่มากก็น้อย และวันนี้เราจะมาพูดถึงในแง่การดูแลรักษารถยนต์ที่มีผลต่อความประหยัดน้ำมันโดยตรงกันบ้าง 

 

1.ลมยาง 

พื้นฐานที่สุดที่จะทำให้รถคุณอาจซดน้ำมันมากขึ้น หนีไม่พ้น แรงดันลมยาง ในรถของคุณ คนจำนวนไม่น้อยชอบละเลย การดูแลลมยาง และไม่หมั่นสังเกตพวกมัน จนบางครั้งรู้อีกทีก็สายเสียแล้ว 

ระดับลมยางที่ลดลง 8 ปอนด์ มีผลมากต่อการประหยัดน้ำมัน ถึงร้อยละ 5  เนื่องจากลมยางอ่อน จะทำให้มีการกดลงของหน้าสัมผัสยางมากขึ้น และทำให้ รถกินน้ำมันมากกว่าปกติโดยไม่จำเป็น ซึ่งการตรวจสอบลมยางนั้น ควรทำทุก  30 วัน เพื่อให้แรงดันลมยางคงที่ และเหมาะสมในการใช้งานตลอดเวลา

Nitrogen-tire001

2.เลือกน้ำมันเครืื่องให้ถูกต้อง 

พูดถึงการดูแลรถคนจำนวนมากพยายามจะเลือกน้ำมันเครื่องที่ตัวเองคิดว่า ดี ทั้งที่ความจริงแล้วน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมต่อการขับขี่ จะแนะนำโดยผู้ผลิตรถยนต์คันนั้น ไว้ในคู่มือเรียบร้อยแล้ว การใช้น้ำมันเครื่องที่มีความหนืดมากหรือน้อยไปไม่ถือว่าเป็นผลดีในการทำงานของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะบางคนชอบใช้น้ำมันเครืื่องที่มีค่าทนความร้อนสูง หรือ มีตัวเลขความหนืดสูงมาก อาจส่งผลต่อความประหยัดน้ำมันโดยตรง 
ยกตัวย่างเช่นถ้าคุณใช้น้ำมัน 10W-30   ในรถยนต์ของคุณแทนที่จะใช้ 5 W30   อาจส่งผลต่อความประหยัดเพิ่มขึ้นถึง 1-2 %  

engineoil (2)

3.อย่าปล่อยให้รถหน้าเยิน

คนจำนวนไม่น้อย คิดว่าถ้ารถบุบนิดหน่อย คงจะไม่มีปัญหาในการใช้งาน ความจริงแล้วรถปัจจุบันทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ถูกออกแบบโดยอาศัยหลักการอาศพลศาสตร์ ซึ่งมีผลต่อความประหยัดโดยตรง การบุบหรือผิดรูปของกันชนหน้า – หลัง เพียงเล็กน้อย อาจส่งผลต่อความประหยัดได้เหมือนกัน ดังนั้นหากพบว่ากันชนรถผิดรูป จากเดิน สมควรจะต้องเร่งลงมือจัดการทันที 

 

4.อย่าลืมกรองอากาศ 

กรองอากาศ อาจดูเหมือนไม่เกี่ยวกับการประหยัดน้ำมัน แต่ อากาศที่ไหลผ่านยากขึ้น เป็นผลทำให้ ระบบจัดการควบคุมเครื่องยนต์จะพยายามสั่งจ่ายน้ำมันเพิ่มขึ้น เพื่อให้กำลังเครื่องยนต์เท่าเดิม และนั่นเป็นผลทำให้พวกมันซดน้ำมันมากขึ้นโดยไม่จำเป็น ตามปกติกรองอากาศสมควรเปลี่ยนทุกๆ 2 – 3 หมื่น กิโลเมต รแล้วแต่สภาพการใช้งาน คุณอย่ามองข้ามของเล็กๆ ชิ้นนี้ 

 

5.อย่าเติมน้ำมันออกเทนสูงเครื่องยนต์ไม่ต้องการ 

คนจำนวนไม่น้อย พยายามคิดเอาเองว่า น้ำมันออกเทนสูงก็เหมือนการกินอาหารชั้นดี  ความจริงนั่นเป็นความเข้าใจผิดมหันต์ น้ำมันออกเทนสูงไม่ได้มีประโยชน์ดับรถ ถ้ารถคุณไม่ได้เป็นรถที่มีกำลังอัดสูง หรือ เครื่องเทอร์โบ พวกมันแพงกว่าอย่างน้อยก็ 30 สตางค์ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างน้ำมันออกเทน 91 -95 ซึ่งการที่คุณต้องเสียเงิน โดยไม่ได้ประสิทธิภาพใดๆ กลับมา ก็เป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ 

how-to-fuel (3)

6.ตรวจสอบช่วงล่าง 

บางคนอาจจะคิดว่าช่วงล่างไม่น่าจะเกียวกับการประหยัดน้ำมัน แต่ความจริงพวกมันสำคัญมากกว่าที่คุณคิด  ระบบช่วงล่าง อาจมีหน้าที่เกาะถนนและซับแรงกระแทก แต่ภายใต้หน้าที่ต่างๆ เหล่าานั้น พวกมันรับรองการขับเคลือนของชุดล้อ ซึ่งหากช่วงล่างเกิดสึกหรอ ไม่เพียงรถจะไม่เกาะถนน หรือขับได้ดีเท่าเดิม พวกมันยังอาจทำให้รถคุณซดน้ำมันมากขึ้น เนื่องจากมีการฉุดลากมากขึ้นในระหว่างการขับเคลื่อน โดยไม่จำเป็น 

 

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง นักทดสอบรถยนต์ และ คอลัมนิสต์ เว็บไซต์   Ridebuster.com  ติดตามผลงานการเขียน และข้อมูลที่น่าสนใจได้ทาง  Facebook 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.