Home » 5 เรื่องที่ต้องรู้ เกี่ยวกับ “ใบปัดน้ำฝน”
เคล็ดลับเรื่องรถ

5 เรื่องที่ต้องรู้ เกี่ยวกับ “ใบปัดน้ำฝน”

ช่วงนี้ก็น่าจะเรียกว่าเข้าสู่ช่วง ฤดูฝนอย่างเป็นทางการกันแล้ว ผ่ามาฤดูนี้ทีไร เรื่องราวของ “ใบปัดน้ำฝน” มักจะถูกหยิบยกขึ้นมากล่าาวถึงเสมอ เนื่องจากใบปัดเหล่านี้ช่วยให้คุณมองเห็นทางได้ง่าย ให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดี หากแม้เราจะคุ้นชินกับพวกมันอย่างมาก ทว่าบางทีเรากลับละเลย ไม่ใส่ใจ หรือไม่เข้าใจพวกมัน เลยเมื่อไม่ได้ใช้งาน 

 

1.มีอายุการใช้งาน 

อย่างแรกเลย ของทุกอย่างมีการเสื่อมสภาพและใบปัดน้ำฝน ก้มีอายุการใช้งานของมัน โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะคิดว่าใบปัดน้ำฝนถึงอาการที่จะต้องเปล่ยนเมื่อปัดไม่สะดอาด , ปัดแล้วสะดุด หรือ ปัดแล้วเป็นเส้น ถ้าคุณเห็นสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ถือว่าสายไปแล้ว เพราะพวกมันเสื่อมสภาพไปแล้ว 

จากประสบการณ์ที่คลุกคลีในวงการรถยนต์ และช่างประจำศูนย์รถยนต์หลายยี่ห้อให้คำแนะนำเดียวกัน คือ ใบปัดน้ำฝนควรเปลี่ยนทุก 2 ปี  ยิ่งถ้ารถใครตากแดดบ่อยๆ ควรจะเปลี่ยนทุกปี ด้วยซ้ำไป 

mercedes-benz-review-010 

2.ยกใบปัด ไม่ช่วยรักษาสภาพ 

มีคนจำนวนไม่น้อย มักจะบอกคุณว่า ใบปัดมันเสื่อม เพราะกระจกมันร้อนเลยพังเร็ว นี่เป็นที่มาของคนจำนวนไม่น้อย ที่ยกใบปัดเวลาจอดรถตากแดด 

การยกใบปัด อาจจะถูกออกแบบมาจริง แต่นั่นเพื่อการถอดประกอบ ใบปัดน้ำฝน สำหรับการเปลี่ยน หรือ ดูแลรักษา ที่ก้านใบปัดน้ำฝนจะมีสปริงกด เพื่อ กดใบปัดไว้กับกระจกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และ การยกใบปัด คือ การใช้สปริงนั้น และลองคิดดูถ้าคุณใช้สสปริงนี้ทุกวัน มันย่อมทำให้สปริงมีการล้า และท้ายที่สุด ก้านใบปัดก็จะกดใบปัดน้ำฝนไม่แนบสนิทเหมือนเดิม ทำให้ประสิทธิภาพในการปัดลดลง 

 

3.ปัญหาอาจอยู่ที่กระจก 

บางครั้งด้วยฝุ่นละออง หรือคราบน้ำมันบางอย่าง ทำให้ใบปัดอาจไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ มีอาการปัดไปแล้ว  สะดุดหรือมีเสียงดัง  

ถ้ารถคุณมีอาการแบบนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะมีอาการกระจกฝืด ซึ่ง โดยมาก เกิดจากเจอคราบฝันแน่นบนกระจก โดยเฉพาะ พวกคราบน้ำใันพืช คราบฝุ่นจากการก่อสร้าง ทำให้ใบปัดไม่สามารถรีดน้ำได้ และแม้คุณจะเปลี่ยนใบปัดใหม่ก็ไม่ช่วยแก้ปัญหานี้ เนื่องจากปัญหาอยู่ที่กระจก 

วิธีแก้ปัญหานี้คือ ทำความสะอาดกระจกด้วยแชมพูหรือถ้าตอนนั้นหาไม่ได้จริงก็ซันไลต์ น้ำยาล้างจัน ลูบทั่วกระจกแล้วใช้พาสะอาดเช็ดให้แห้ง จะช่วยแก้ปัญหานี้ในเบื้องต้น แต่ถ้าทำแล้วยังไม่หาย อาจจะต้องทำการขัดกระจก ซึ่งสมควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านงานสีรถยนต์ 

 

4.ตัวช่วยก็มี บางทีไม่ต้องใช้ใบปัดก็ได้ 

ทุกวันนี้เทคโนโลยีก้าวไกลมากแล้ว และมีน้ำยาเคลือบกระจกบางชนิดสามารถช่วยลดน้ำเกาะกระจกเวลาขับขี่ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีราคาไม่แพง และสามารถใช้งานได้นาน ซึ่งน้ำยาเหล่านี้จะต้องเคลือบใช้งานทุก 2-3 เดือน เพื่อคงประสิทธิภาพของน้ำยา และไม่มผลิตต่อยางของใบปัดน้ำฝน แต่อย่างใด 

หลักการของน้ำย่ลดน้ำเกาะกระจก คือเมื่อเราขับด้วยความเร็วระดับหนึ่งลมจะช่วยพัดน้ำให้ปลิวไปจากกระจกหน้ารถ บางครั้งในกรณีที่ฝนไม่ได้ตกหนักมาก คุณอาจไม่จำเป็นต้องเปิดใบปัดด้วยซ้ำไป แต่มันจะทำงานได้ดี ตั้งแต่การใช้ความเร็ว   60 ก.ม. ขึ้นไป จึงจะเห็นประสิทธิผล 

 

5.ใบปัดเปลี่ยนแต่ยางก็ได้ 

ผมเชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยคงทราบเรื่องนี้กันดีแล้ว ว่าใบปัดน้ำฝนสามารถเปลี่ยนแต่ยางก็ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อใบปัดทั้งอัน อย่างไรก็ดีตัวใบปัดเมื่อใช้งานไปนานๆ ก็มีอาการเสื่อมเช่นกัน โดยเฉพาะกรณีรถเก่าจะมาใช้ใบปัดที่ใช้มายาวนานตั้งแต่รถใหม่คงจะเป็นไปไม่ได้ 
แต่ถ้ารถคุณยังใหม่และมีปัญหาเรื่องยางใบปัดเสื่อม ปัจจุบัน สามารถหาซื้อยางใบปัดน้ำฝนอย่างเดียวก็ได้ และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาด้วย 

 

“ใบปัดน้ำฝน” ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สำคัญและไม่ควรจะละเลยในการใช้งานรถในหน้าฝน มันอาจไม่ได้ช่วยให้คุณขับขี่ปลอดภัยมากขึ้นโดยตรง แต่ทัศนวิสัยที่ดี ก็ช่วยให้คุณขับรถได้ปลอดภัยมากขึ้น  

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.