ท่ามกลางกระแสความต้องการรถยนต์อเนกประสงค์ที่มากขึ้น รถเก๋งกลุ่มคอมแพ็คคาร์ก็ดูยังเป็นที่สนใจของคนจำนวนไม่น้อย ด้วยราคาที่ไม่แพง และความคุ้นเคยต่อคนไทยมายาวนาน 2 ปีที่ผ่านมา การเข้ามาของ Honda Civic ใหม่ ฉีกตลาดกระจุย ด้วยการทำการบ้านมาเป็นอย่างดี จนได้รับควาทมนิยมต่อเนื่อง
การผันมาสู่รุ่นใหม่ของ Honda Civic ในช่วง 2 ปีที่ผ่าน สร้างกระแสให้คนจำนวนไม่น้อยที่ต้องการรถคันใหม่ สนใจเจ้าคอมแพ็คคาร์จากค่ายฮอนด้า ด้วยการออกแบบที่เปลี่ยนไป ฉีกจากเดิมที่เหมือนเพียงแต่หน้าทาปาก
หากรุ่นใหม่มีการออแบบที่ลงตัว ดูสปอร์ตทันสมัยมากขึ้น ด้วยการตบแต่งที่น่าดึงดูใจตั้งแต่ด้านหน้า ที่มาพร้อมกระจังหน้าและกันชนหน้าใหม่ ตลอดจนบั้นท้ายที่ใส่เอกลักษณ์ไฟท้ายแบบ LED เข้ามาเสริมทัพ
ตัวรถในเวอร์ชั่นใหม่นี้ ยังมาพร้อมรุ่น RS สปอร์ตเต็มขั้น ยกระดับความจำเจเดิมๆ ไปสู่ความสปอร์ตด้วยชุดแต่งรอบคันเสริมรายละเอียดต่างจากรุ่นปกติ ด้วยกระจังหน้าสีดำ ล้ออัลลอยลายพิเศษ และ ติดตั้งสปอร์ยเลอร์ท้าย มันยิ่งดูดีมากขึ้นเมื่อทาง ฮอนด้าแนะนำสีใหม่ , สีแดง Ralli Red เข้ามาเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้า สะกดเสน่ห์ทุกมุมมองเรื่องความสปอร์ต ครบจบลงตัวในคันเดียว
รับกุญแจมา หนนี้ทางฮอนด้า ติดตั้งลูกเล่นใหม่ๆ ในระบบกุญแจรีโมทที่เราคุ้นเคย นอกจากใช้งานในการเปิด-ปิดประตู โดยเพียงสัมผัสแล้ว ยังสามารถใช้ในการสตาร์ทรถ พร้อมเปิดแอร์เย็นฉ่ำไว้ต้อนรับ เหมาะสมมากกับเมืองไทย
วิธีการใช้ไม่ยาก เพียง
1.กดปุ่มล็อครถซ้ำอีกครั้ง
2.กดปุ่ม Remote Engine Start เป็นลูกศรหมุนวน
จากนั้นรอสักครู่ รถจะสตาร์ทการทำงานเครื่องยนต์ ให้ และเมื่อคุณเข้าสู่รถ เพียงเหยียบเบรก แล้ว กดปุ่มสตาร์ทปกติ ก็พร้อมออกเดินทางทันที
หนนี้เป็นครั้งที่เท่าไรแล้ว ก็ไม่ทราบกับ Honda Civic เข้ามาในห้องโดยสารก็ยังพรั่งพร้อมความทันสมัย ตั้งแต่ตรงหน้าคนขับที่มาพร้อมเรือนไมล์ดิจิตอลเต็มระบบ บอกได้ทั้งความเร็วรอบเครื่องยนต์ รวมข้อมูลที่จำเป็นยามขับขี่
การบังคับเลี้ยวเป็นหน้าที่ของพวงมาลัย 3 ก้าน บนพวงมาลัย มาพร้อมระบบ Cruise Control และ อีกด้านเป็นปุ่มเครื่องเสียง จัดมาให้ครบครัน ปุ่มสตาร์ทจัดวางไว้ทางด้านขวาคนขับ ส่วตรงหลางให้จุดเครื่องเสียงที่ทำงานผ่านหน้าจอภาพ ให้ความทันสมัย โดยหน้าจอนี้ยังใช้ในการควบคุมระบบปรับอากาศ และแสดงภาพจากกล้องถอยหลัง และกล้องมองข้าง Honda Lane Watch ถัดลงหัวเกียร์จับถนัดใช้งานง่าย มีระบบเบรกมือไฟฟ้ามาให้ใช้งานเสร็จสรรพ
เรื่องการปรับท่านั่งให้พร้อมขับขี่ ควบคุมด้วยไฟฟ้าปรับตามใจฉันได้ 8 ทิศทาง ฝั่งคนนั่ง 4 ทิศทาง เบาะนั่งตอนหลังดูนั่งสบาย มีที่เท้าแขนให้ตรงกลาง เสียดายเบาะนั่งลังปรับพับไม่ได้ แลกกับความนั่งสบาย จนพร้อมหลับเอาง่าย ๆ ส่วนท้ายรถเป็นที่จุสัมภาระขนาดใหญ่ และลุก มันมากพอจะใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ หรือคุณอาจจะลองใส่จักรยานเสือหมอบที่ถอดล้อทั้ง 2 ล้อเข้าไปก็พอจะทำได้
ใต้เรือนร่างที่ดูงดงามวันนี้ ฮอนด้าใจดี ให้ Honda Civic Ralli Red ใหม่ รุ่น Turbo RS มาขับ เรียกว่ามันครบครันเร้าใจด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า สูงสุดที่ 5,500 รอบต่อนาที และ ทำแรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,700 ยามไปจน 5,500 รอบต่อนาที ทั้งหมดส่งลงชุดเกียร์ CVT ใหม่ ให้อัตราทด 2.645-0.405 ปั่นลงเฟืองท้าย 4.810
เขียนเรื่องวิศวกรรมเสียมาก เมื่อลองขับขี่จริง Honda Civic ให้ความสนุกสนาานในการขับขี่ เหยียบติดเท้าไปตามต้องการดั่งใจประสงค์พอสมควร แม้ว่าจะนั่งกันเต็มลำ 4 คน ผู้โดยสารพร้อมสัมภาระ ก็ยังมั่นใจในอัตราเร่ง ไม่มีอาการอืดให้เห้น
หน้าที่ระบบบังคับเลี้ยวเป็นของระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแบบใหม่ DP-EPS มีอัตราวงเลี้ยวแคบสุด 5.3 เมตร ถือว่าปกติสำหรับรถกลุ่มนี้ พวงมาลัยใหม่ นอกจากจะเบาลงแล้ว มันยังตอบสนองในการขับขี่ดีขึ้น การบังคับเลี่ยวได้ดังใจทันความคิดมากขึ้น ถึงจะยังแอบมีอาการหน่วงช้าเล็กๆ เวลาหักพวงมาลัยเร็วอยู่บ้างยามเข้าโค้งก็ตามตาม
เรื่องช่วงล่างรถคันนี้น่าแปลกใจสักหน่อย หลังจากหลายปีการวางจำหน่ย ตั้งแต่ที่มีโอกาสขับครั้งแรกในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแน เซอร์กิต มาจนถึงบัดนี้ ระบบช่วงล่างแบบ แม็คเฟอร์สันสตรัท ประจำการคู่หน้า และระบบมัลติงลิงค์ติดตั้งไว้ทางด้านหลัง ดูเหมืออนจะถูกปรับเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นเดิมที่ขายในช่วงปีแรกๆ
จากที่สังเกตเดิมที Honda Civic Turbo RS จะออกแนวแน่นหนึบ คล้ายรถซิ่ง นั่งสบายแต่อาจไม่ใช่กับลูกค้าชอบนัก แต่ถ้าคนขับรถเร็วจะรักเลย จนกระทั่งตอนปีกลายมาขับ Honda Civic Hatchback (ไม่ใช่รุ่น RS) จบด้วยคำวิจารณ์ว่า รู้สึกว่าช่วงล่างมันนิ่มไปสำหรับรถเทอร์โบ มาในปีนี้ 2018 , Honda Civic RS เหมือนจะปรับช่วงล่างที่ขับสบายขึ้นและแน่นเหมือนเดิมแต่ไม่กระด้างเท่าปี 2016 ตอนที่เปิดตัวมาครั้งแรก
จากที่ขับในเมืองผมรู้สึกว่ามันเป็นรถที่นั่งสบายขึ้นในแง่ของช่วงล่างที่ปรับให้เหมาะสมมากขึ้น เช่นเดียวกับชุดเกียร์ที่นุ่มนวลขับสนุกมากขึ้นจนกลายเป็นรถสปอร์ตย่อมๆ ในราคาไม่ไกลเกินเอื้อม ขับสบายอัตราเร่งดีทุกประเภทเส้นทาง แถมเรื่องการประหยัดน้ำมัน ถือว่าไม่เป็นสองรองใคร ด้วยความสามารถจากเครื่อง 1.5 เทอร์โบ
เมื่อสองปีก่อน เคยทดสอบจริงจังด้วยน้ำมันแก๊สโซฺฮอล 91 สรุปอัตราประหยัด ไว้ดังนี้
ตารางแสดงอัตราประหยัดรถยนต์ Honda Civic Turbo RS (ทดสอบเมื่อปี 2016)
อัตราประหยัดในเมือง | 10.73 ก.ม./ลิตร |
อัตราประหยัดนอกเมือง | 12.23 ก.ม./ลิตร |
Bonn Test Mode | 16.11 ก.ม./ลิตร |
ส่วนอัตราเร่งของ Honda Civic Turbo RS ไม่น้อยหน้ารถสปอร์ต ด้วยอัตราเร่งระดับเลขตัวเดียวแม้ว่าจะนั่งบนรถ 2 คน ส่วนความเร็วปลายล็อคเอาไว้ที่ 207 ก.ม./ช.ม.
ตารางแสดอัตราเร่ง รถยนต์ Honda Civic Turbo RS (ทดสอบเมื่อปี 2016)
ครั้งที่ 1 | ครั้งที่ 2 | ครั้งที่ 3 | เฉลี่ย | |
อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. | 9.146 | 8.884 | 9.070 | 9.033 |
อัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม. | 5.900 | 5.600 | 5.600 | 5.700 |
สำหรับผมการแนะนำรถยนต์ Honda Civic red เข้าสู่ตลาด ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับลูกค้า ที่มองหารถยนต์ที่แปบกแตกต่างจากสีสันเดิมๆ ที่จำเจ ความกล้าของฮอนด้าในครั้งนี้ ทำให้เราเห็นความตั้งใจในการทำตลาดรถ
Honda Civic ในวันนี้อาจเป็นรถที่หลายคนมองข้ามไปบ้างจากกระแสความนิยมรถยนต์อเนกประสงค์ในปัจจุบัน แต่ถ้าคุณมองหารถที่ลงตัวน่าใช้ ครบเครื่องในแง่สมรรถนะการขับขี่ในราคาไม่แพงจนเกินไป เรากล้าพูดว่าในตัวเลือกเก๋งคอมแพ็คคารืที่คุรควรมองในวันนี้ Honda Civic เป็นหนึ่งในรถที่ไม่ควรมองข้าม …
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง นักทดสอบรถยนต์ และ คอลัมนิสต์ เว็บไซต์ Ridebuster.com ติดตามผลงานการเขียน และข้อมูลที่น่าสนใจได้ทาง Facebook
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com
[ngg_images source=”galleries” container_ids=”639″ display_type=”photocrati-nextgen_basic_thumbnails” override_thumbnail_settings=”1″ thumbnail_width=”200″ thumbnail_height=”160″ thumbnail_crop=”1″ images_per_page=”20″ number_of_columns=”3″ ajax_pagination=”1″ show_all_in_lightbox=”0″ use_imagebrowser_effect=”0″ show_slideshow_link=”0″ slideshow_link_text=”[Show slideshow]” order_by=”sortorder” order_direction=”ASC” returns=”included” maximum_entity_count=”500″]