ในบรรดาเทคนิคการแต่งรถกระบะขั้นพื้นฐาน เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยคงจะเคยได้ยิน เรื่องราวของการอุด EGR มาไม่น้อย หลายคนเชื่อแนวทางดังกล่าวไม่ได้ให้ไอเสียวนกลับเข้ามาเผาไหม้ จะสร้างความแรงเติมเต็มสมรรถนะในการขับขี่มากขึ้น และชี้ว่า ระบบนี้ไม่มีประโยชน์ใดๆ นอกจากรักษาสิ่งแวดล้อมเท่านั้น
ด้วยความเข้มงวดของมาตรฐานไอเสียยุคใหม่ EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation กลายเป็นระบบที่ถูกติดตั้งเข้ามาเพิ่มสำหรับ เพื่อนำไอเสียที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ส่วนหนึ่งไปวนเผาไหม้ซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความสะอาดมากขึ้น โดยจะดูดเอา 5-15% ของไอเสียที่เผาไหม้แล้ว ผ่านชุมวาล์ควบคุม ละการลดความร้อน ไปยังฝั่งท่อไอเสีย ก่อนจะเผาไหม้ซ้ำอีกครั้งตามขั้นตอนปกติ
การติดตั้ง EGR เป็นมาตรฐานมากขึ้น และบังคับเครื่องยนต์ดีเซลทุกรุ่นต้องติดตั้ง เพื่อให้ได้ค่าไอเสียตามกำหนด ตั้งแต่กฎไอเสียระดับ Euro 3 ขึ้นมา และเป็นมาตรฐานที่ต้องมีในรถที่ต้องการผ่านระดับยูโร 4
ประเด็นเรื่อง อุด EGR เป็นที่กล่าวถึงมากในบ้านเรา ด้วยความชอบในการแต่งรถ และ ส่วนหนึ่งบ้างมาจากคำแนะนำผู้เชี่ยวชาญทางด้านเครื่องยนต์ อาทิ ช่างเครื่อง หรือคนที่มีความรู้เรื่องรถยนต์บางท่าน โดยกล่าวอ้างว่า เมื่อทำการอุด EGR แล้ว จะขับดีขึ้น มีอัตราดีขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากไม่มีการเจือปนของไอเสียที่ย้อนกลับมาเผาไหม้อีกครั้ง
ข้อเท็จจริงดังกล่าวได้รับการกล่าวอ้างจากกลุ่มคนที่ทำการอุดระบบ EGR ว่าเป็นความจริงและสามารถรู้สึกได้ทันทีเมื่ออุดระบบหมุนวนไอเสีย หลายคนบอกว่า รถมีอัตราเร่งช่วงต้นดีขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้
หลักการทำงานของระบบ EGR นั้น แม้ว่าจะมีการต่อท่อทางถาวรไว้กับไอเสียที่ออกจากห้องเผาไหม้ แต่ว่าก็ไม่ได้ทำงานตลอดเวลาอย่างที่เข้าใจกัน
Work flow ของเครื่องยนต์ดีเซล และระบบหมุนวนไอเสีย พอสังเขป
ระบบหมุนวนไอเสียจะทำงานเมื่อถึงจุดที่ระบบสังการเครื่องยนต์เห็นเหมาะสมว่า แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ระบบจะไม่ทำงานในช่วงรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ เนื่องจากการมีแก๊สไอเสียรวมด้วยในหาเผาไหม้อาจะทให้รอบเครื่องยนต์ไม่นิ่ง ทำให้วาล์ว EGR ส่วนใหญ่แล้ว จะเปิดโดยดูตามการเปิดของลิ้นเร่ง หรือ ลิ้นปีกผีเสื้อในระหว่างการขับขี่
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ระบบ EGR ถูกติดตั้งเข้ามาในรถยนต์เครื่องดีเซลสมัยใหม่ คือความพยายามในการสร้างอุณหภูมิในห้องเผาไหม้ให้เหมาะสม
ในยามเราขับขี่ทุกครั้งที่มีการคายไอเสียและดูดอากาศใหม่เข้ามาจะมีการสูญเสียความร้อนในห้องเผาไหม้ ไอเสียที่ผ่านระบบ EGR ได้รับการหล่อเย็นในระดับหนึ่งยังมีอุณหภูมิสูงมากจะให้ความร้อนในห้องเผาไหม้ในระดับหนึ่ง ทำให้จุดระเบิดได้เร็วขึ้น เนื่องจากมีความร้อนสะสมกับเขม่าที่ได้รับการหมุนวนกลับมา แม้ว่าจะมีการระบายความร้อนออกระดับหนึ่งแล้วก็ตาม
หากไอเสียที่หมุนวนกลับมา ไม่มีได้มีการกรองคราบเขม่าที่เกิดจากการเผาไหม้ แถมยังมีออกซินเจนและไนโตรเจนในปริมาณที่น้อยลงกว่า เมื่อเทียบกับ การบรรจุอากาศบริสุทธ์จากภายนอก 100% ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เครื่องยนต์ทำงานดีขึ้นเมื่อหลายคนบอกกับคุณว่า พวกเขาอุดระบบ EGR และตัดสินใจไม่ใช้ไอเสียหมุนวนไอเสีย
นอกจากนี้จากปากคำช่างเครื่องยนต์ผู้เชี่ยวชาญ หลายอู่ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การอุดระบบ EGR มีข้อดีในเรื่องการสร้างความสะอาดแก่ท่อร่วมไอดี เนื่องจากไอเสียของเครื่องยนต์มักจะมีคราบเขม่าน้ำมัน ซึ่งเมื่อใช้รถไปนานๆ อาจจะก่อเป็นคราบน้ำมันเกาะตามผนังท่อร่วมไอดี เมื่อใช้ไปนานๆ และทำให้กำลังตกในที่สุด รวมถึง อาจจะสร้างปัญหาต่อลิ้นเร่งของรถด้วยในระยะยาว
อย่างไรก็ดี จากข้อมูลในต่างประเทศชี้ว่า แม้ว่าการอุดระบบ EGR ด้วยวิธีการบ้านๆ คือหาแผ่นปิด เพื่อบล็อกทางเดินอากาศ เมื่อท่อทางวนไอเสียเปิดขึ้นมา อาจจะทำร้ายเครื่องยนต์ด้วยในทางอ้อม
ประการแรก สิ่งที่ใช้รถไม่ทราบหลายคนอาจไม่ทราบมาก่อน คือการทำงานของเครื่องยนต์ในปัจจุบัน อาศัยหน่วยประมวลผลกลางในควบคุมสั่งจ่ายระบบน้ำมัน และควบคุมการจุดระเบิด ซึ่งระบบหมุนวนไอเสียเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทางทีมวิศวกร ใช้เวลาคิดคำนวณ เพื่อหาการจุดระเบิดที่เหมาะสม เช่นประมาณที่ต้องจ่ายน้ำมันให้เหมาะสมกับอากาศที่เข้าสู่ห้องเผาไหม้ในเวลานั้น และด้วยไอเสียมีส่วนผสมของคราบเขม่า และการกำจัดต้องใช้ความร้อน
การสั่งจ่ายน้ำมันจึงถูกปรับเหมาะสม และหากเราไปอุดตัดปัจจัยดังกล่าว อาจจะทำให้เกิดการจ่ายน้ำมันบางเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ในระยะยาว
นอกจากนี้ การไม่หมุนวนไอเสีย แม้ว่าจะไม่มีการกำหนดกฎหมายอย่างชัดเจน ต่อผู้ที่ทำการปรับแต่งดัดแปลงแก้ไขตัวรถ อันก่อให้เกิดการปล่อยไอเสียมากขึ้น แต่แน่นอนว่ามันทำให้มีการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ ที่มีส่วนต่อโรคระบบทางเดินหายใจ และ ทำลายชั้นบรรยากาศ จนเกิดภาวะโลกร้อนนั้นมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
แถมรายงานจากต่างประเทศชี้ว่า การที่แก๊สไอเสียไม่หมุนวน อาจจะสร้างภาระในการทำงานให้กับหน่วยกรองไอเสีย Diesel Particulate Filter (DPF) มากขึ้น เนื่องจากเขม่าจากการเผาไหม้ยังมีขนาดใหญ่กว่าการเผาไหม้ที่มีการหมุนวนไอเสีย และอาจทำให้ต้องมีการเผาไหม้เขม่าจากตัวกรองบ่อยขึ้น ด้วยความร้อนระหว่างการขับขี่ทำให้กินน้ำมันมากขึ้น
ดังนั้นหากคุณกำลังชั่งใจเรื่องการอุดระบบ EGR เราลองมาดูในมุมที่ต่างกัน สรุปเป็นข้อๆ ดังนี้
ผลดี
อุด EGR | ไม่อุด EGR |
1.ได้กำลังจากเครื่องยนต์มากขึ้น (เล็กน้อย -ไม่เคยมีการวัดพิสูจน์) | 1.ไม่เสียเงินปรับแต่ง |
2.ท่อร่วมไอดี หัวฉีด และลิ้นเร่ง มีความสะอาดมากกว่า เมื่อใช้ไปในระยะเวลานานๆ | 2.ปล่อยก๊าซอันตรายในไอเสียน้อยกว่า |
3.น้ำมันเครื่องดำช้าลง เนื่องจากเขม่าในการเผาไหม้น้อยกว่า | 3.ไม่เสียการรับประกันเครื่องยนต์ |
4.มีความประหยัดน้ำมันตามที่บริษัทผู้ผลิตเปิดเผย |
ผลเสีย
อุด EGR | ไม่อุด EGR |
1.เครื่องยนต์อาจถูกปฎิเสธการรับประกันคุณภาพ เพราะถือเป็นการปรับแต่งรถ | 1.ต้องทำความสะอาดท่อร่วมไอดี และลิ้นเร่ง เมื่อใช้รถไปนานๆ |
2.เสียเงินปรับแต่ง | 2.เมื่อใช้ไปนานๆ รถจะมีกำลังตกลงจากความสกปรกของท่อร่วมไอดี |
3. อุปกรณ์กรองไอเสีย อาจจะเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ | 3.เสียค่าดูแลระบบ EGR ในระยะยาว (ถ้าเกิดเสีย) |
4.มีแนวโน้มกินน้ำมันมากกว่า เนื่องจากส่วนผสมสู่ห้องเผาไหม้มีปัจจัยเปลี่ยนไป และเครื่องยนต์ไม่ได้มีการปรับแต่งค่าอย่างถูกต้อง | |
5.ปล่อยก๊าซอันตราย ต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของคน |
การ “อุด EGR” เป็นสิทธิของแต่ละคนที่พึงจะกระทำได้กับรถที่ตัวเองใช้ในการขับขี่ การจะตัดสินใจทำหรือไม่ สมควรจะศึกษาความเหมาะสมให้ดี เพราะเราไม่มีทางรู้หรอกว่า มันมีผลในระยะยาวหรือไม่ มันอยู่ที่คุณจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง ว่า แบบใดจะได้ประโยชน์มากกว่ากัน