Toyota เผยตอนนี้กำลังลงทุนพัฒนารถเซลล์เชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้รถพลังไฮโดเจนเหล่านี้ผลิตได้ปริมาณมาก วิ่งได้ไกล และมีประสิทธิภาพสูงสุด
ข่าวคราวรถเซลล์เชื้อเพลิงหรือ Fuel Cell ในยุคปัจจุบันดูแผ่วลงกว่าเมื่อ 4-5 ปีที่แล้วมาก ถ้าหากยังจำได้ตอนนั้นค่ายรถจากทั้งญี่ปุ่นทั้งโตโยต้ากับฮอนด้า สองค่ายต่างมีรถเซลล์เชื้อเพลิงที่เรียกว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน โดย Honda FCV ถือเป็นรถพลังไฮโดเจนในยุคแรก ต่อมาเมื่อปีก่อนจึงได้เปิดตัว Honda Clarity Fuel Cell เพียงแต่อวดโฉมเพื่อให้ประชาชนรู้จักเท่านั้น ด้านโตโยต้าที่เปิดตัว Toyota Mirai ไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทว่าจนถึงปัจจุบันยอดขายของรถรุ่นนี้มีน้อยกว่า 6,000 คัน
สาเหตุหลักที่ทำให้ Mirai ไม่สามารถเข้าไปจอดในโรงรถของลูกค้ามาจาก ราคาเริ่มต้นที่สูงถึง 60,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1,980,000 บาท) คิดก่อนหักส่วนลดจากรัฐบาล โดยเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ขนาดหรือประเภทเดียวกันที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินและดีเซล หรือแม้แต่รถเครื่องไฮบริด Mirai ก็ยังแพ้อย่างสิ้นเชิงในแง่ของราคา
อีกหนึ่งปัญหาสำคัญไม่แพ้ราคารถนั่นก็คือค่าใช้จ่ายในการผลิตเซลล์ก่อกำเนิดพลังงาน อันเป็นหัวใจหลักในการเปลี่ยนไฮโดเจนให้เป็นกระแสไฟฟ้า โดยข้อมูลจากทางโตโยต้าเผยว่ามีราคาสูงถึง 11,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 363,000 บาท) แต่ในอนาคนอันใกล้เจ้าตัวสร้างพลังงานนี้จะมีราคาถูกลงเหลือ 8,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 264,000 บาท) เนื่องจากมีการใช้วัสดุราคาแพงอย่าง แพลตตินัม ไทเทเนียม และคาร์บอนไฟเบอร์ ในปริมาณลดลงพร้อมกับดีไซน์รูปแบบใหม่
ข้อมูลที่ทางหัวหน้าทีมออกแบบ Toyota Mirai เปิดเผยแก่สื่อมวลชน ก็คือ โตโยต้ามีแผนจะลดค่าไฮโดเจนให้ถูกลง จากนั้นจึงเพิ่มปริมาณการผลิตจากเดิมที่ใช้แรงงานคนประกอบ เปลี่ยนมาเป็นรูปแบบผลิตโดยเครื่องจักรในโรงงานเพื่อให้รถเซลล์เชื้อเพลิงจำนวนมาก ที่สำคัญไม่แพ้กันก็ต้องลดค่าใช้จ่ายแล้วทำราคารถให้ซื้อหาได้ง่าย นอกจากนี้ยังเพิ่มความหลากหลายด้วยการทำรถ fuel Cell ทั้งในแบบเอสยูวี รถบัส รวมถึงรถบรรทุก และท้ายที่สุดคือเพิ่มประสิทธิภาพการวิ่งจากเดิม 50% จากเติมครั้งหนึ่งวิ่งได้ 500 กม. กลายเป็น 700-750 กม. โดยในปีค.ศ. 2025 โตโยต้าจะทำให้รถชนิดนี้วิ่งทะลุ 1,000 กม.ให้ได้
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com
