รถกระบะเป็นที่นิยมอย่างมากของคนไทย คนจำนวนไม่น้อยเลือกกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อ ด้วยความต้องการอยากจะใช้วันว่างเพื่อการท่องเที่ยว ล่องป่าเขาธรรมชาติออันสวยงามของประเทศไทย ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไร หากความจริงคือคนซื้อรถขับเคลื่อนสี่ล้อโดยมากอาจจไม่มีปนะสบการณ์ในการฝ่าฟันทางโหดมากมาย เราส่วนใหญ่ใช้ชีวิตในเมืองเสียด้วยซ้ำ
เส้นทางออฟโรดพูดอาจจะดูง่าย เพราะการขับเข้าป่าใช้ความเร็วไม่มากเท่ากับเราขับบนถนน แต่มันเต็มไปด้วยอุปสรรค์ต่างๆ มากมายเหนือที่คุณจะคิดได้ การเอารถไปลุยแล้วกลับมาอย่างปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญมาก ที่เราสมควรจะคิดถึงเพราะกลางป่าเขาไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก บ้างไม่มีสัญญาณมือถือติดต่อได้ คุณพึ่งตัวเองเพียงอย่างเดียว ท่ามกลางการขับขี่ที่สุดแสนอันตราย
รู้จักปลายทาง
ก่อนจะไป ผมมักแนะนำคนที่ต้องการไปขับออฟโรดเสมอว่า ต้องทราบสภาพเส้นทางของปลายทาง และถ้าเป็นไปได้ควรทราบว่า สภาพอากาศเป็นอย่างไร
สาเหตุที่เราสมควรจะรู้สภาพเส้นทางก่อนล่วงหน้า ก็เพื่อเราจะได้ทราบว่าเราที่ใช้สามารถเดินทางเข้าไปได้ โดยปลอดภัยหรือไม่ เป็นเครื่องการีนตรว่าคุณจะเข้าไปยังปลายทางได้อย่างแน่นอน ถ้าเข้าไม่ได้ หรือไปไม่ถึงสู้หาปลายทางอื่นน่าจะดีกว่า
ส่วนสภาพอากาศจำเป็นต้องศึกษาเอาไว้บ้า งเพราะบางสถานที่ คุณสามารถเดินทางเข้าไปได้ในฤดูหนึ่ง และในอีกฤดูหนึ่งมันโหดถึงใจ ชนิดเข้าไปนิดเดียวก็แทบอยากจะกลับออกมาแล้ว ยกตัวอย่างเช่น “เขากระโจม” คุณมาเที่ยวได้สบายในหน้าแล้ง(ฤดูร้อน) แต่ในหน้าฝนชุ่มฉ่ำ ทางที่เคยขับง่ายๆ ก็กลายเป็นทางสุดโหดไปโดยปริยาย ใครใช้รถเดิมขับเคลื่อนสี่ล้อจำเป็นต้องศึกษาสภาพปลายทางที่จะไปให้ดี
รู้จักรถ
หลายคนซื้อรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ แล้วมักคิดว่า มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแล้วจะขับไปไหนก็ได้ ไปได้หมด ราวกับมันเป็นเทพพระเจ้าแห่งการลุย
เรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิดมหันต์อย่างแรง โดยเฉพาะคนที่อ่อนประสบการณ์ขับออฟโรด ถึงแม้นว่าเราจะมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและมันปีนป่ายได้ดี แต่ก้จำต้องประเมินความสามารถของตัวรถ และเราเองด้วยว่าจะสามารถกับเส้นทางมากขนาดไหน
เวลาผมไปลุยออฟโรดจะประเมินการขับขี่แบ่งเส้นทางที่เราขับออกเป็นทั้งหมด 5 ระดับ โดยระดับที่ 4 และ 5 เป็นเส้นทางที่ต้องมีการแต่งรถเข้าช่วย เช่นอาจจะต้องยกสูงกว่าปกติ หรือ ต้องติดตั้งยางลุยโคลนพิเศษ จึงจะสามารถเข้าถึงเส้นทางดังกล่าวได้
สำหรับรถธรรมดากระบะขับเคลื่อนสี่ล้อธรรมดาทั่วไป จะสามารถเข้าไปลุยได้ในระดับ 3 เท่านั้น ระดับ 3 สำหรับผมเป็นเส้นทางที่มีดินแน่น ไม่เป็นโคลนเลน มีหินให้ปีนป่าย และลุยน้ำในระดับที่ไม่สูง หรือไม่มีกระแสน้ำที่พัดผ่านเชี่ยวมาก เส้นทางแบบนี้โดยมากจะมีอยู่ตามอุทยานแห่งชาติในประเทศไทย ถือเป็นเสน้ทางที่เหมาะสำหรับการฝึกขับออฟโรดขั้นเริ่มต้น สำหรับคนที่เพิ่งจะมีรถขับเคลือนสี่ล้อ
รู้จักเจ้าถิ่น -มีเพื่อนไปด้วย
เป็นเรื่องที่ดีถ้าคุณจะชวนเพื่อนไปขับออฟโรดด้วยกัน ผมไม่ได้บอกว่า คุณจะเบื่อวันเหนื่อยล้าแล้วขับรถเข้าป่าคนเดียวไม่ได้ แต่มันดีกว่าถ้าคุณไปกับเพื่อน มีก๊วน แก๊ง ที่จะช่วยคุณได้ยามพลาดท่าเสียที เช่นคุณอาจจะเกิดบังเอิญรถติดหล่ม หรือเสียกลางป่า
คุณจะได้มีเพื่อนช่วยรอ .. .เอ้ย!! ไม่ใช่ มีเพื่อนช่วยพาคุณกลับออกมาอย่างปลอดภัย สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียวแน่นอน
แต่กรณีถ้าคุณไม่มีเพื่อนคบค้าสมาคม อินดี้อยากบินเดี่ยว เป็นไปได้ให้ไปทำความรู้จักคนเล่นออฟโรดในพื้นที่เอาไว้บ้างก็ดี ขอเบอร์โทรศัพท์ติดเครื่องไว้บ้างยามต้องการความช่วยเหลือ เมื่อเกิดฉุกเฉิน
ติดเครื่องมือที่จำเป็นไป
การเข้าป่า เราจำนวนไม่น้อย จะนึกถึงอุปกรณ์ที่เราต้องใช้ในระหว่างการพักเมื่อถึงปลายทาง แต่มีน้อยคนมากจะนึกถึงอุปกรณ์สำหรับการพารถไปลุย สิ่งที่คุณเตรียมเวลาเอารถไปลุย มี
-ยางอะไหล่
-พลั่ว
-เชือกหรือเคเบิ้ล ลากรถ
-ที่เติมลมยางพกพา
เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่สมควรต้องมีติดรถเอาไว้เมื่อตัดสินใจจะเข้าป่า อุปกรณ์เหล่านี้จะมีประโยชน์มากเวลาที่คุณลำบาก เช่นคุณยางรั่ว ก็เปลี่ยนยางอะไหล่ ,ถ้าติดก็มีเชือกลาก แล้วขอความช่วยเหลือ จากเพื่อนร่วมคณะได้ ส่วนที่เติมลมพกพาติดไว้ ในกรณีต้องลดแรงดันลมยาง เช่นการลุยทางทราย แล้วคุณต้องเติมลมยางกลับไปใหม่ เป็นต้น
การไปขับออฟโรด เป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้ แม้จะไม่มีทักษะเลย เพียงแต่คุณจำเป็นต้องรู้ล่วงหน้า คาดการณ์สถานการณ์และเตรียมพร้อมในการขับขี่