แม้ว่ากระแสรถยนต์ซีดานกลางจะถดถอยลงตามลำดับ กลายเป็นรถยนต์อเนกประสงค์เข้ามาจับจองพื้นที่ในใจใครหลายคน แต่ในที่สุด โตโยต้า ประเทศไทย ก็ออกมายืนยันการเตรียมทำตลาดรถยนต์   Toyota  Camry  ใหม่ในไทย และมีกำหนดการเปิดตัวในวันที่ 29 ตุลาคมนี้

 Toyota  Camry   ใหม่ เปิดตัวมาได้ระยะใหญ่แล้วในเวทีโลก โดยการกลับมาครั้งนี้ ทางโตโยต้าวางหมากด้วยการพัฒนาบนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ที่เรียกว่า   TNGA   หรือ   Toyota  New Global Architecture   ซึ่งจะใช้ในรถลายรุ่นต่อจากนี้ และเพียงจุดเริ่มต้นนี้ก็น่าสนใจ และเราจะพาคุณไปสำรวจพร้อมกันว่า ซีดานกลางใหม่โตโยต้าจะเปลี่ยนไปขนาดไหนกัน

ตั้งแต่เปยโฉมในอเมริกา หลายคนต่างตื่นเต้นกับแนวทางการออกแบบของ   Toyota Camry   ใหม่ ที่เปลี่ยนไป ภายใต้แนวทางการออกแบบสู่ภาพลักษณ์ความสปอร์ตมากขึ้น ตั้งแต่ด้านหน้าไปจรดด้านท้าย

แนวทางการออกแบบใหม่นี้ผสานแนวความคิดสปอร์ตน่าใช้งาน พร้อมคุมการออกบบให้ตรงตามหลักการอากาศพลศาสตร์ในหลายจุด เช่นไฟหน้าเล็กเรียว การวางครีบข้างเพื่อช่วงเพิ่มความเร็วของอากาศที่กระจกมองข้างและไฟท้ายรถ การติดตั้งสปอร์ยหลังขนาดเล็กทรงตูดเป็ด  มาพร้อมล้ออัลลอยทูโทน ขนาดใหญ่  และมีสีทูโทนให้เลือกคล้ายใน   Toyota  C-HR  สะท้อนความสปอร์ตอย่างชัดเจน

ภายในห้องโดยสารผิดกับภายนอกด้วยการสอดรับเทคโนโลยีเข้าปในการใช้งานในปัจจุบัน ทางโตโยต้าจึงจับเอาความคิดการออกแบบทันสมัยมาใช้ ยกเอาความรู้สึกเชยระเบิดที่คุ้นพบในซีดานกลางปัจจุบันออกไปเสียหมดจนน่าจะผิดหูผิดตา เมื่อวางขายจริง

การออกแบบภายในที่ทันสมัย เริ่มจากการออกแบบภายในที่มีเสน่ห์ ยังคงเล่นลายไม้เป็นธรรมเนียมที่ขาดไม่ได้ในรถกลุ่มนี้ คอนโซลหน้าปรับให้มีความรู้สึกมนๆ  จอกลางเป็นแบบ บิวท์อิน เพิ่มความรู้สึกโดนตาตรงใจกับคนยุคใหม่

ส่วนตรงคนขับให้ไมล์เรืองแสงที่ดูสปอร์ต มาพร้อมกับพวงมาลัย 3 ก้าน  ส่วนช่วงคอนโซลกลางมีคันเกียร์ที่ย่อขนาดลงให้รู้สึกสปอร์ตมากขึ้น มาพร้อม 3 โหมดการขับขี่ให้เลือก ทั้ง   Normal,Sport   และ   Eco   รวมถึงยังมีระบบเบรกมือไฟฟ้า และ เบรก Hold   ใช้ในการขับขี่

และทางด้านเบาะนั่งยังคงเน้นภาพลักษณ์ของความสบายในการเดินทางสูงสุด ด้วยชุดเบาะขนาดใหญ่ และเบาะตอนหลังที่มาพร้อมที่เท้าแขน

ทางด้านการขับขี่ในอเมริกา มี 3 เครื่องยนต์ได้แก่ เครื่องยนต์   V6  3.5  ลิตร   คาดว่ารุ่นนี้ไม่มาขายในไทย ส่วนที่เหลือจะติดตั้งเครื่องยนต์รุ่นใหม่   Dynamic Force   ขนาด 2.5  ลิตร  ให้กำลังสูงสุด 203 แรงม้า และทำแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ส่งลงเกียร์ 8 สปีด รุ่นใหม่เน้นตอบสมรรถนะในการขับขี่

ส่วนทางในญี่ปุ่นเน้นตอบโจทย์ด้วยรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด โดยนำเครื่องยนต์รุ่นเดียวกัน มาเพิ่มกำลังอัดเพื่อประสิทธิภาพในการจุดระเบิดสูงสุด ทั้งยังเปลี่ยนเป็นการทำงานในแบบ  Atkinson cycle  จนทำให้ตัวเครื่องยนต์มีกำลังเพียง 174 แรงม้า และให้แรงบิดเพียง 220 นิวตันเมตร  เมื่อติดตั้งเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้ามันมีกำลังขับรวม 211 PS และจากการทดสอบในญี่ปุ่นตามโหมด   JC08  ,Toyota  Camry  รุ่น X   สามารถประหยัดถึง  33.4 ก.ม./ลิตร

ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีเปิดตัวในตลาดไหนมาก่อน แต่เป็นไปได้สูงที่ประเทศไทย จะเป็นประเทศแรกในโลกที่จะมี   โตโยต้า คัมรี่ เครื่องยนต์2.0 ลิตร ตามกระแสความนิยมในเมืองไทยมาช้านาน

เครื่องยนต์บล็อกนี้เปิดตัวออกมาแล้วในปีที่ผ่านมา โดยเครื่องยนต์   Dynamic  Force  2.0 ลิตร เป็นเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด โดยพื้นฐานก็เหมือนเครื่องยนต์ 2.5 ลิต รเพียงแต่มีกำลังน้อยกว่าสนองตอบต่อความประหยัดมากขึ้น โดยมันจะมีกำลัง 168 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 205 นิวตันเมตร  ปัจจุบันเครื่องตัวนี้อยู่ใน   Toyota  Corolla Hatchback  และ   Toyota C-HR   ในประเทศจีน เท่านั้น

อย่างไรก็ดีที่น่าสนใจใจมากกว่าเครื่องยนต์ใหม่ ก็เห็นทีจะไม่พ้นระบบ   Toyota  Safety  Sense  ที่คาดว่าจะใส่ให้มาเป็นมาตรฐานในทุกรุ่น หลังจากแนะนำใน   Toyota  C-HR   ในแพ็คเกจ จะประกอบไปด้วย ระบบเตือนการหลุดเลน ,ระบบเตือนจุดบอด, ระบบเตือนจุดบอดขณะถอยหลัง ระบบตรวจสอบเหนื่อยล้อคนขับ รวมถึง  Radar Cruise Control  พร้อมระบบเบรก ป้องกันการทางด้านหน้าด้วย

โตโยต้า คัมรี่ใหม่ในไทย จะเป็นอย่างไร เราจะได้ลุ้นกันในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ว่าเจ้าหรูยอดนิยมบ้านเราจะกลับมาด้วยสเป็คไหน งานนี้รับรองว่าสนุกแน่นเห็นทีจะต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด

[ngg src=”galleries” ids=”204″ display=”basic_thumbnail”]