Fomm One รถไฟฟ้าขนาดเล็กรุ่นแรกที่ประกอบในไทย พร้อมด้วยจุดเด่นลอยน้ำได้ โดยความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 80 กม./ชม. ชาร์จจนเต็มใช้เวลา 6 ชั่วโมง และวิ่งไกลสุด 160 กม. สนนราคา 6.64 แสนบาท
หากพูดถึงรถไฟฟ้าทุกคนจะพอนึกออกทันทีว่า ยานพาหนะชนิดนี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากกว่ารถเครื่องสันดาป รวมถึงไม่ต้องมีการบำรุงรักษา โดยล่าสุดเจ้ารถไฟฟ้าไซส์มินินามว่า Fomm One ได้เปิดตัวเป็นทางการพร้อมให้จับจอง ด้วยการชูจุดเด่นที่ต่างจากรถใส่ถ่านในตลาด
สิ่งที่ Fomm One มอบให้ลูกค้าอาจไม่เหมือนค่ายรถยักษ์จากต่างชาติ เพราะรถคันนี้ถูกออกแบบเพื่อใช้งานในเมืองเป็นหลัก ขนาดความยาว 2,585 มม. กว้าง 1,295 มม. และสูง 1,560 มม. รูปร่างหน้าตาจึงมีความน่ารักผสมผสานกับความทันสมัย ซึ่งช่วยให้การมุดลัดเลาะไปตามซอกแซกทำได้สะดวก กรณีที่จะมีคนนั่งไปด้วยก็จุผู้โดยสารได้ถึง 4 คน ทว่าคนนั่งเบาะหลังจะอึดอัดซักหน่อย
ทางผู้ผลิตกล่าวว่าเจ้าจิ๋วขับขี่ได้มั่นคงไม่ต้องกังวล เนื่องด้วยช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบปีกนก ด้านหลังก็เป็นปีกนกเช่นกันแต่เพิ่มชุดช่วงล่างอิสระแบบมัลติลิงค์เข้ามา
ประเด็นที่คนสนใจอยากรู้ลำดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องที่ว่าเจ้า Fomm One มีสมรรถนะเพียงพอต่อการใช้งานจริงหรือไม่ โดยข้อมูลจากผู้ผลิตระบุว่า เจ้าจิ๋ว 2 ประตู ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าในดุมล้อหน้าทั้ง 2 ข้าง ให้กำลังสูงสุด 13 แรงม้า ส่วนแรงบิดสูงถึง 560 นิวตันเมตร ซึ่งถีบให้รถวิ่งได้เร็วสูงสุด 80 กม./ชม.
ทั้งนี้ การชาร์จแบตเตอรี 4 ลูกบริเวณใต้เบาะคนขับกับคนนั่ง ขนาดความจุรวม 11.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จด้วยไฟบ้านธรรมดาผ่านปลั๊กแบบ Type 2 ใช้เวลา 6 ชั่วโมงก็จะได้ไฟฟ้าเต็มแบ็ตฯ และเป็นพลังงานให้รถวิ่งได้ไกล 160 กม.
จากการทดสอบจริงบนสนามโกคาร์ท ณ มอเตอร์สปอร์ตแลนด์ ก็พอจะบอกเล่าอาการรถได้ดังนี้ สำหรับการบังคับควบคุมรถจะแตกต่างจากรถยนต์หรือรถไฟฟ้าทั่วไป โดยพวงมาลัยลักษณะครึ่งวงกลมจะมีก้านคันเร่งติดอยู่ด้านหลังทั้งซ้ายและขวา บริเวณพื้นห้องโดยสารมีเพียงแป้นเบรกเท่านั้น ส่วนมาตรวัดความเร็วดิจิตอลจะอยู่ตรงกลางบนคอนโซลหน้า
การออกตัวด้วยเป็นไปอย่างนุ่มนวลด้วยการใช้นิ้วชี้เกี่ยวคันเร่งเข้าหาตัว กรณีต้องการให้รถพุ่งแบบทันใจจะต้องเกี่ยวคันเร่งทั้งซ้ายขวาพร้อมกัน สำหรับการเบรกนั้นทำได้ 2 วิธี คือ ปล่อยนิ้วหรือมือออกจากคันเร่งสองข้าง แล้วรถจะมีเอ็นจิ้นเบรกมาหน่วงชะลอรถ ต่อมาเป็นการเบรกด้วยแป้นเท้า ทว่าเมื่อใดต้องการหยุดกระทันหันต้องปล่อยคันเร่งพร้อมกับเหยียบเบรก
สำหรับใครที่สงสัยว่าเวลาถอนคันเร่งหรือเบรกแล้วจะเปิดอะไรขึ้นไหม จากที่เราสอบถามทีมงาน Fomm ก็ตอบมาแล้วว่า รถจะไม่มีการชาร์จไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบ็ตฯ เรียกว่าใช้ออกไปอย่างเดียวเท่านั้น
ตอนที่เราได้ขับบนสนามโกคาร์ทสัมผัสได้ว่า พวงมาลัยมีความหน่วงมือค่อนข้างมาก แต่ด้วยวงเลี้ยวที่แคบก็ช่วยให้การขับรถหลบสิ่งกีดขวางในความเร็วต่ำทำได้ง่าย ครั้นเมื่อวิ่งด้วยความเร็ว (40 กม./ชม.) แล้วเข้าโค้งตัวรถก็ไม่ได้โยนยวบแต่อย่างใด รู้สึกว่าเสถียรภาพตัวรถมีมากพอต่อการขับขี่ปกติ ทั้งนี้ ความเร็วสูงสุดที่เราทำได้บนสนามจะอยู่ที่ 50 กม./ชม.
มาถึงจุดเด่นอีกประการที่ทางผู้ผลิตมั่นใจอย่างมาก นั่นก็คือความสามารถในการลอยตัวในน้ำได้ กล่าวคือ Fomme One สามารถลอยบนน้ำได้เหมือนเรือ การขับเคลื่อนด้วยเองไปข้างหน้าหรือถอยลัง ทำด้วยการปั่นล้อคู่หน้าอันมีวงล้อลักษณะคล้ายใบพัดเรือ ช่วยปั่นกระแสน้ำเพื่อถีบตัวรถจนเคลื่อนที่ ทว่าการใช้งานจริงนั้นจะไม่ได้รวดเร็วเหมือนการขับบนบก แต่ก็มั่นใจได้ว่าต่อให้น้ำจะท่วมสูงขนาดไหน เจ้าจิ๋วพลังไฟฟ้าคันนี้จะลุยผ่านไปได้แน่นอน
ก่อนจากกันขอกล่าวย้ำราคาค่าตัวของ Fomm One อีกซักเล็กร้อย ด้วยเงิน 644,000 บาท คุณสามารถเป็นเจ้าของรถไฟฟ้าร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่เหมาะกับการใช้งานในเมือง มีค่าใช้จ่ายในการใช้งานต่ำ และมีจุดเด่นเรื่องการแล่นลอยบนน้ำได้ทุกที่
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com
[ngg src=”galleries” ids=”771″ display=”basic_thumbnail”]