ในช่วงปีที่ผ่านมาวงการรถจักรยานยนต์บ้านเราอาจจะคึกคักด้วยรถมอเตอร์ไซค์ต่างๆมากมายหายรุ่น แต่ที่ดูแล้วเติบโตสุดทะลุเพดาน จนแบรนด์ต่างพยายามสร้างการแข่งขันระหว่างกัน ดูท่าจะไม่พ้นการออกมาของบิ๊กสกู๊ตเตอร์ พิกัด 300 ซีซี ที่ทำให้คนจำนวนไม่น้อยสนใจ

การเติบโตของตลาดบิ๊กสกู๊ตเตอร์เกิดขึ้น ด้วยส่วนหนึ่งการจราจรในเมืองหลวงติดขัดมากมายในช่วงระยะหลังจากโครงการรถยนต์ไฟฟ้า กอปรกับ กระแสความนิยมของบิ๊กไบค์ ทำให้กระแสความต้องการคนยุคใหม่ มองหารถจักรยานยนต์คันเดียวที่สามารถใช้ได้ครอบคลุมหลากลาย ทั้งบิดจ่ายกับช้าวแถวบ้าน ขับทำงานในเมือง หรือจะเป็นการออกทริปกับเพื่อในวันหยุด รถคลาส 300 ซีซีทำได้ครบเครื่อง รวมถึงยังขับง่ายด้วย

จุดเริ่มต้นจักรยานยนต์ขนาด 300 ซีซี ย้อนกลับไปเมื่อ 3-4 ปี ก่อน  Honda   เป็นรายแรกที่ตัดสินใจเพิ่มบิ๊กสกู๊ตเตอร์ 300 ซีซี เข้ามาทำตลาด ด้วยความหวังว่ามันจะตอบโจทย์ลูกค้าระดับไฮเอนด์ที่ต้องการมอเตอรไซค์สไตล์หรูไว้ใช้งานบ้าง   Honda Forza 300  เปิดออกมาพร้อมด้วย ความใหญ่โตและหรูหรา

มันถูกใจคนจำนวยมากที่ต้องการรถมอเตอร์ไซค์ขี่สบายขับได้ครบทุกวัน   Yamaha Forza 300  จึงพอที่จะขายได้บ้างแม้ว่าตลาดสกู๊ตเตอร์เมืองไทยจะเดินดีในกลุ่มเล็กมากกว่ากลุ่มขนาดใหญ่ก็ตาม แต่ในเวลานั้นตลาดก็ดูจะสนใจ โดยเฉพาะ   Suzuki   ที่ตามมาอย่างทันควันด้วย   Suzuki Burgman  200   ใช้เครื่องยนต์เล็กกว่าแต่ฟังชั่นครบเครื่องไม่แพ้กัน

เวลาผ่านในที่สุดปีนี้  Honda   ได้ฤกษ์เปิดตัว   Yamaha  Forza 300 ใหม่ ตั้งแต่ต้นปี แต่ที่ออกมาเขย่าบัลลังค์ฮอนด้า หนีไม่พ้นยามาฮ่าที่ส่งเจ้า ยามาฮ่า เอ็กซ์ แม็กซ์ เข้าทำตลาดอย่างรวดเร็วเช่นกัน

การประชันกันของ 2 สกู๊ตเตอร์ 300 ซีซีใหม่ทำให้คนจำนวนไม่น้อยสนใจ จนเราเห็นบิ๊กสกู๊ตเตอร์หนาตามากขึ้น โดยเฉพาะฝั่งยามาฮ่า เรียกว่า ขายดีจนเห็นเกลื่อนเมือง เมื่อเทียบกับฮอนด้า ฟอร์ซ่าที่ก็มาเรื่อยๆ ขายได้ตามความต้องการของลูกค้า

เกมสกู๊ตเตอร์ 300 ซีซี ดูจะไม่จบง่ายๆ เมื่อทายามาฮ่าวางแผนว่าจะมี 300 ซีซี 3 ล้อออกมาขายในปีหน้า ผ่านต้นแบบ   Yamaha 3 ct  concept   เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน  Eicma  ที่ผ่านมา และมีแววจะมาเข้าเมืองไทยในปีหน้าในฐานะรถที่ขายทั่วโลกของบริษัท

อย่างไรก็ดี แม้ว่าตลาด สกู๊ตเตอร์ 300 ซีซีจะได้รัความนิยมมาก แต่ก็ยังติดปัญหาสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องของบริการทางการเงินแก่ลูกค้าที่สนใจ เนื่องจากมอเตอร์ไซค์ตั้งแต่ 50-300 ซีซี ในปัจจุบันถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็ก- ขนาดกลาง

ส่วนใหญ่จะใช้หลักการให้บริการสินเชื่อคล้ายกัน ทำให้มุลค่ารถค่อนข้างสูง แถมยังต้องมีการดาวน์ในมูลค่าที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน ยกตัวอย่าง บางร้าน  Yamaha X Max 300   ต้องดาวน์สูงถึง 30,000 บาท และผ่อนอีกเดือนละ 5,000 บาท โดยประมาณ ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงมาก เมื่อเทียบกับการไปซื้อรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยใกล้เคียงกับรถยนต์คิดเป็นรายปี

ทำให้คนจำนวนไม่น้อยไม่ตัดสินใจซื้อหรือประวิงดูว่า มีตัวเลือกอื่นที่เหมาะสมหรือไม่ ทำให้ สกู๊ตเตอร์ 300 ซีซี กลายเป็นตลาดที่ต่างจากตลาดรถมอเตอร์ไซค์แบบอื่นๆ เพราะผู้ซื้อต้องสมยอมที่จะผ่อนแพงกว่าบิ๊กไบค์ และยอมรับสภาพดอกเบี้ยสูงกว่ารถบิ๊กไบค์ ทั้งที่บิ๊กไบค์มีความน่าสนใจกว่าก็ตาม

ตลาดสกู๊ตเตอร์ 300 ซีซี กำลังเป็นตลาดใหม่ที่กำลังจะพลิดวงการมอเตอร์ไซค์ด้วยความเชื่อมันที่มีต่อสินค้า และความต้องการจากภาวะปัจจัยต่างๆ มากมาย แต่ตลาดนี้จะไปได้หรือไม่ อาจต้องขึ้นอยู่กับบริการสินเชื่อด้วยว่า จะช่วยเหลือให้ลูกค้าไม่ต้องช้ำหยักจากดอกเบี้ยเดียวกับรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กมากแค่ไหน

เพราะรถกลุ่มนี้ราคาไม่ถูก และกำลังซื้อมีไม่มาก ..ถ้าได้การปล่อยสินเชื่อที่ดี อาจทำให้น่าสนใจมากกว่านี้สำหรับหลายคน