Skyactiv เจนฯ 2 เปิดตัวแล้ว สำหรับ Mazda 3 2019 ที่ใหม่หมดทั้งคัน ด้วยเครื่อง Skyactiv-X ใส่ระบบ GVC Plus และปรับปรุงความปลอดภัย i-Activsense
Mazda เปิดตัวรถยนต์นั่งไซส์ C-Segment รุ่นขายหลัก Mazda 3 2019 ตัวถังแฮทช์แบ็ค 5 ประตู กับ ซีดาน 4 ประตู ที่งาน LA Auto Show 2018 ทำเอาหลายคนที่เฝ้ารอคอยการมาถึงของ มาสด้า 3 เจนเนเรชั่นที่ 4 รู้สึกยินดีปรีดาไปตามกัน เพราะไม่ใช่รูปลักษณ์สดใหม่ที่โฉบเฉี่ยวขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น ทว่ายังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมายไปทุกส่วน
หลายคนที่ติดตามข่าวคงทราบดีว่า Mazda 3 2019 ได้รับการถ่ายทอดความงดงามภายนอกภายใน มาจากรถต้นแบบ Kai Concept ซึ่งใช่ว่ารถเวอร์ชั่นจำหน่ายจริงจะเหมือนหมดต้นแบบเสียทีเดียว แต่ยังคงเอกลักษณ์โดดเด่น โดยเฉพาะรุ่นแฮทช์แบ็ค 5 ประตู จะเห็นได้ชัดเจนที่สุด ส่วนรุ่นซีดาน 4 ประตูนั้น มีสัดส่วนท้ายรถคล้ายกับรถต้นแบบ Vision Coupe มากกว่า
เริ่มจากด้านหน้า รถทั้ง 2 ตัวถังเรียกว่าตกแต่งมาบนทิศทางเดียวกัน คือ มีฝาประโปรงหน้ายาวที่ลากมาจรดตรงกระจังหน้ารูปทรงเข้มสไตล์สปอร์ด ส่วนโคมไฟหน้านี่ถูกรมดำภายใน เข้ากันดีกับไฟหน้าแอลอีดีที่มีแนวไฟ DRL อยู่ในโคมเดียวกัน ทั้งนี้ โคมไฟตัดหมอกจะอยู่บริเวณด้านล่างติดช่องอากาศ เรียกว่าถ้ามองผ่านๆ จะคิดว่ามาสด้า 3 ใหม่ไม่มีไฟตัดหมอก
ความแตกต่างด้านดีไซน์ระหว่าง Mazda 3 2019 ตัวถังแฮทช์แบ็ค กับซีดาน จะเด่นชัดที่สุดบริเวณแนวเสาหลังคา C-pillars ของตัวแฮทช์แบ็ค เพราะหากเป็นตัวถังซีดานเสานั้นจะมีขนาดเล็กให้อารมณ์ต่างกัน ทั้งนี้ ล้ออัลลอยมีให้เลือกเริ่มจากไซส์ 16 ไปจนถึง 18 นิ้ว
อีกสิ่งที่ทีมออกแบบ Mazda 3 เจนฯ สี่ ใส่ใจเป็นพิเศษ คงเป็นเรื่องการออกแบบด้านข้างให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Vortex Effect ซึ่งเป็นการเล่นแสงและเงา เวลามองตัวรถจากด้านข้าง แบบว่าแสงที่สาดลงบนตัวรถ จะช่วยขับมิติเวลารถต่างมุมให้มีอารมณ์หลากหลาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเวลาดูด้านข้างรถช่วงล้อหน้ากับล้อหลัง
ไม่เสียเวลามาดูด้านท้ายรถ จะพบว่าตัวแฮทช์แบ็ค 5 ประตู มีสปอยเลอร์ท้ายที่ติดตั้งบนแนวหลังคา พร้อมกันนี้มันยังพิเศษด้วยสีพิเศษเฉพาะตัวถัง โดยมาสด้าเรียกว่า Polymetal Gray
เมื่อมองดูด้านหลังรถจะรู้สึกว่ามันต่างจากมาสด้า 3 เจนฯ ที่แล้ว เริ่มด้วยการย้ายที่ยึดแผ่นป้ายทะเบียนไปอยู่บริเวณแนวกันชนท้าย รวมถึงชุดท่อไอเสีย 2 ท่อ กับไฟตัดหมอกหลังในระดับต่ำ เพื่อต้องการโชว์ไฟท้าย 2 วงกลมทรงเพรียวยาวให้ชัดเจน
ห้องโดยสารภายในถูกออกแบบมาในสไตล์ “น้อยแต่มาก” ตามนิยามของ Kodo Design ขั้นที่ 2 โดยแผงแดชบอร์ดจะถูกแยกระหว่างโซนผู้ขับขี่กับผู้โดยสาร ตรงกลางมีจอระบบสาระบันเทิงขนาด 8.8 นิ้ว ด้านล่างลงมามีชุดควบคุมเครื่องปรับอากาศ ส่วนช่องลมแอร์ออกนั้นจะอยู่แนวเดียวกับปุ่มควบคุมระบบแอร์ และปุ่มควบคุมระบบ i-Activsense จะอยู่บริเวณคันเกียร์เช่นเดิม
เราอยากบอกว่า Mazda 3 ใหม่ ออกแบบภายในเน้นผู้ขับขี่เป็นพิเศษ หรือเมื่อดูผ่านๆ จะรู้สึกรถย้อนยุคไปช่วงปี 199x เพราะตรงหน้าผู้ขับขี่มีหน้าจอแสดงผลกับมาตรวัดความเร็ว แถมด้วยช่องแอร์ซ้ายขวาที่มีไซส์หันหาคนขับเพียงผู้ดี พร้อมด้วยพวงมาลัยดีไซน์ใหม่ ที่เห็นดูจับต้องสายตาดีเหลือเกิน
นอกเหนือจากความงดงามของห้องโดยสาร มาสด้า 3 ใหม่ ก็ได้รับการปรับปรุงเรื่องเสียงรบกวนเข้ามาภายใน เพราะวิศวกรได้บุวัสดุซับเสียงตามบริเวณต่างๆ หนาขึ้นเป็น 2 ชั้น ขณะเดียวกัน ก็ได้ปรับคุณภาพวัสดุซับเสียงให้ดีกว่าเดิม พร้อมด้วยใส่ยางสูตรใหม่ และตั้งค่าการยืดยุบตัวของสปริงให้ส่งแรงสะเทือนมายังห้องโดยสารน้อยลง
ต่อกันด้วยหัวใจหลักที่มาคราวนี้มากับดวงใหม่ซิงๆ อย่าง เครื่องเบนซิน Skyactiv-X ที่เป็นตัวชูโรง ยิ่งไปกว่านั้นทางผู้ผลิตยังมีแผนส่งขุมพลังเบนซินไฮบริด M Hybrid ออกมาในอนาคต ส่วนเครื่องยนต์บล็อกเก่าอย่าง Skyactiv-G 1.5, 2.0 และ 2.5 กับ Skyactiv-D 1.8 ก็มีให้ตามเดิม โดยจะชนเข้ากับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
ยิ่งไปกว่าหัวใจใหม่ที่แรงแถมประหยัดขึ้น มาสด้าได้ปรับปรุงระบบ i-Activ AWD ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อให้ทำงานได้ดีขึ้น รวมถึงแนะนำระบบ GVC Plus ที่ช่วยให้การเข้าโค้งและขับปกติทำได้นุ่มนวลมั่นใจ พร้อมกันยังได้เซ็ตอัพช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเพอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังเปลี่ยนใหม่เป็นทอร์ชั่นบีม ปลดช่วงล่างแบบอิสระ มัลติลิ้งก์ออกไป
ในแง่ของโครงสร้างใหม่ทางมาสด้าระบุว่า Mazda 3 2019 ถูกทำให้โครงสร้างมีความแข็งแกร่งกว่าเดิม เนื่องจากมีส่วนประกอบของเหล็ก ultra-high-tensile steel ปริมษณ 30% ต่างจากตัวเก่ามีเพียง 3% ช่วยให้ตัวรถโดยรวมแข็งแรงปลอดภัย
ท้ายที่สุดในแง่ระบบความปลอดภัยก็มีจัดเต็มกว่าเดิม ด้วยการเพิ่มระบบ Driver Monitoring ที่จะตรวจอาการของผู้ขับขี่ด้วยกล้องอินฟาเรด พร้อมแจ้งเตือนด้วยไฟแอลอีดีหากคนขับไม่ตอบสนอง ขณะเดียวกัน ยังเพิ่มระบบ Front Cross Traffic Alert (FTA) ระบบ Cruising & Traffic Support (CTS) และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันในความเร็วต่ำ
สำหรับวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Mazda 3 2019 ในประเทศไทย จะเกิดขึ้นช่วงกลางปี 2019 แน่นอนแล้ว เอาเป็นว่ารายละเอียดกับราคาจะเป็นอย่างไรนั้น ขอให้ติดตามกันต่อไป
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com
[ngg src=”galleries” ids=”813″ display=”basic_thumbnail”]