Home » “ดิสก์เบรก 4 ล้อ” ของจำเป็นที่ต้องมีในรถยุคใหม่…จริงหรือ
Bust Technic เคล็ดลับเรื่องรถ

“ดิสก์เบรก 4 ล้อ” ของจำเป็นที่ต้องมีในรถยุคใหม่…จริงหรือ

รถทุกคันต้องการเบรกเพื่อที่จะสั่งหยุดพละกำลัง ความเร็วที่ใช้ขับเคลื่อน หลายครั้งหลายหนเราเห็นว่าคนจำนวนไม่น้อย มาถกเถียงกันเรื่องประสิทธิภาพในการเบรก ความเชื่อของการเบรกด้วยระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ ถูกฝังหัวคนไทยว่ามันดีที่สุด เมื่อขับขี่

ระบบเบรก ตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบัน มีวิธีการสั่งหยุดเพียง 2 แบบ คือ ระบบดิสก์เบรก และ ระบบเบรก แบบดรัมเบรก

ระบบดิสก์เบรก เป็นระบบที่ใช้แม่ปั้มเบรกตั้งแยกออกมาคอยจับชุดจานที่หมุนตามชุดดุมล้อ เมื่อสั่งหยุดชุดปั้มจะทำการจับจานเบรกเพื่อสร้างแรงเสียดทานลดความเร็วและหยุดในที่สุด  ส่วนระบบดรัมเบรกเป็นความเหมือนที่แตกต่าง ตัวชุดดรัมเบรก จะหมุนตามชุดล้อทั้งหมด โดยภายในมีกลไกเพื่อกางผ้าเบรกออกไปหาผนังทางด้านข้างเพื่อสร้างแรงเสียดทานจนหยุดเช่นกัน  … ทั้งคู่ทำหน้าที่เหมือนกัน แต่ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงอยากได้ระบบดิสก์ 4 ล้อมากกว่า

ระบบดิสก์เบรก เริ่มเป็นที่นิยมมาสักระยะโดยเริ่มติดตั้งในรถยนต์ที่ขายมาตั้งแต่ยุค 70 และขยายตัวมาเรื่อย จนปัจจุบัน รถรุ่นใหม่ทุกรุ่นอย่างน้อยที่สุดจะต้องมีระบบดิสก์เบรก ติดตั้งไว้ทางด้านหน้าของตัวรถ เพื่อแรงรองรับแรงกดจากน้ำหนักโครงสร้างเมื่อคุณสั่งห้ามล้อ

แต่คุณคงพอสังเกตได้ว่า รถยนต์หลาบรุ่นแม้จะใหม่ล่าสุดจากโชว์รูมยังให้ระบบดรัมเบรกทางด้านหลัง และหลายคนไม่ชอบใจมันเท่าไร

ก่อนที่คุรจะค่อนขอดโดยอ้างอิงเหตุผลส่วนตัว อย่าลืมว่าระบบดรัมเบรก เป็นระบบที่ใช้มายาวนาน พวกมันได้รับการพิสูจน์หลายอย่างในการใช้งานตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบัน มีคนจำนวนไม่น้อยคิดว่าระบบดรัมเบรกที่ยังใช้กันอยู่เพราะว่า บริษัทรถยนต์ต้องการลดต้นทุนการผลิตจึงทำออกมาแบบนั้น แล้วรถสมรรถนะสูงต่างก็ใช้เบรก 4 ล้อกันแทบทั้งสิ้น เพื่อสร้างแรงหยุดสูงสุดให้เกิดขึ้นเมื่อใช้ความเร็ว

อันที่จริแล้วคุณต้องเข้าใจก่อนว่า เมื่อกดเบรกเกิดอะไรขึ้นบ้าง ???

เมื่อเราเบรกรถยนต์ น้ำมันมในวงจรเบรกจะเพิ่มแรงดันเพื่อให้ลูกสูบเบรกในแม่ปั้ม และกลไกลเบรกทำงาน ทุกครั้งที่เราเบรก การถ่ายแรงพุ่งเป็นแรงเฉื่อยเพื่อหยุดรถ จะตกมาทางด้านหน้าตัวรถเสมอ ทำให้น้ำหนักเกือบทั้งหมดของรถตกมาเป็นภาระของเบรกหน้า จึงเป็นสาเหตุที่บริษัทรถยนต์ใช้เบรกหน้าแบบดิสก์เบรก เพื่อให้มาประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากระบบดิสก์เบรก สามารถระบายความร้อนและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว

แต่การเบรกอย่างมีประสิทธิภาพควรทำทั้ง 4 ล้อ และน้ำหนักส่วนใหญ่ตกมาอยุ่ทางด้านหน้า เบรกหลังจึงมีหน้าที่เป็นเพียงตัวช่วยในการเบรก มีความร้อนน้อยกว่า และไม่จำเป็นต้องมีแรงเสียดทานสูง เนื่องจากแรงเสียดทานที่สูงเกินไป อาจจะทำรถเกิดการเสียสมดุลขณะเบรก เช่นอาการท้ายปัด จนอาจเกิดอาการเสียหลักเกิดขึ้น จะว่าไปมันมีหน้าที่เพื่อประคองรถเมื่อคุณหยุด ไม่ให้เกิดแรงไถลต่อเนื่อง

ด้วยเหตุดังกล่าวทีมวิศวกรส่วนใหญ่จึงมองว่าระบบดรัมเบรกยังสามารถตอบโจทย์ ด้วยความจริงว่าประสิทธิภาพของดรัมเบรกก็ไม่ได้เลวร้ายการดันหน้าสัมผัสเข้าทางด้านข้างเพื่อช่วยในการเบรก ที่จริงถือว่าค่อนข้างมีประสิทธิภาพแต่เนื่องจากกลไกทั้งหมดอยู่ในฝักจึงมักเกิดความร้อนเมื่อเบรกด้วยความรุนแรง

การย้ายระบบมาไว้ทางด้านหลังจึงเรียกว่าค่อนข้างสมเหตุสมผลในการใช้งาน ประกอบกับเมื่อมาดูเรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา ซ่อมบำรุงง่ายไม่ยุ่งยาก และมีน้ำหนักเบา  ติดตั้งไม่ยุ่งยาก  แถมยังให้ประสิทธิภาพมากกว่า เมื่อเทียบกับดิสก์เบรกที่มีขนาดเท่ากัน ด้วยเหตุนี้อาจกล่าวได้ว่าพลังเบรกจากดรัมเบรกมากกว่า ทำให้พวกมันส่วนใหญ่ยังติดตั้งในรถกระบะ เนื่องจากรองรับการลากจูงและน้ำหนักบรรทุก รวมถึงด้วยการออกแบบให้กลไกอยู่ข้าสิ่งใน ช่วยให้ปกป้อง ดิน กินและแปลกปลอมที่อาจจะทำให้เบรกเสียหายหรือทำงานไม่มีประสิทธิภาพได้

ถึงแม้จะมีข้อดีมากมาย หากดรัมเบรกก็เป็นหอกข้างแคร่เช่นกัน ด้วยการออกแบบให้กลไกอยู่ภายใน ทำให้บางครั้งอาจทำงานไม่ประสิทธิภาพ เช่นคุณเบรกด้วยความรุนแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะเส้นทางลงเขา มีโอกาสสูงที่ดรัมเบรกจะมีความร้อนสูง จนเกิดอาการเบรกเฟด และยังทำให้น้ำมันเบรกเดือดจนเสื่อมประสิทธิภาพในระยะยาว

แต่ถึงหลายคนจะกลัวอาการเบรกเฟดเนื่องจาก หมายถึงคุณเบรกแล้วแต่มันเบรกไม่อยู่ ทว่าเมื่อมาต่อข้อสงสัยว่าระบบดิสก์เบรก4 ล้อดีกว่า หน้าดิสก์หลังดรัมหรือไม่

คงต้องตอบว่า มันไม่ได้สร้างความแตกต่างมากมายอย่างที่เราคิดนัก ระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ มีดีที่สวยงาม และดูมีสมรรถนะสูง กว่าได้ความรู้สึกที่ดูแล้วมั่นใจมากว่า รวมถึงยังง่ายสำหรับช่างซ่อมในการบำรุงรักษาชุดเบรก เมื่อจำเป็นต้องเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ให้กับคุณ

ส่วนระบบหน้าดิสก์หลังดรัม ถ้าถามในเชิงประสิทธิภาพในการเบรก อาจจะต้องกล่าวว่าไม่แตกต่างกัน  อันที่จริงดรัมเบรกมีพื้นที่หน้าสัมผัสใหญ่กว่าในขนาดเท่ากัน อาจจะให้ผลในการหยุดดีกว่าด้วย รวมถึงการซ่อมบำรุงก็ไม่แพง และทนทานใช้งานได้นานจนลืมไปเลยด้วยซ้ำในหลายครั้ง

หากแต่ถ้าคุณผ่านทางเขาบ่อยจำเป็นต้องใช้เบรกหนักบ่อยครั้ง หรือขับขี่ด้วยความเร็วเป็นประจำ ระบบเบรกแบบดิสก์ 4 ล้อ อาจจะเหมาะสมกว่า กลับกันถ้าใช้งานรถทั่วๆ ไป ไม่ได้ขับเร็วมากมายระบบเบรกแบบหน้าดิสก์หลังดรัม ก็ถือว่าเพียงพอแล้วต่อการใช้งาน…

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.