ท่ามกลางความนิยมในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ แนวคิดใหม่ๆ ถูกใส่เข้ามาเพื่อเพิ่มมุลค่าประกอบกับสนองความต้องการการขับขี่ของลูกค้า และปีนี้ ซูบารุในแถวเอเซียพร้อมส่งรถไฮบริด Subaru Forester e Boxer

Subaru Forester e Boxer เป็นการต่อยอดรถอเนกประสงค์ยอดนิยม ด้วยรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการประสิทธิภาพในการขับขี่มากขึ้น ทั้งด้านสมรรถนะและการประหยัดน้ำมัน

ตัวรถพัฒนาบนพื้นฐานของ Subaru Forester ใหม่ แบบเดียวกับรุ่นประกอบขายในไทย ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่องาน Motor Expo 2018 บนพื้นฐานรุ่น Eyesight

ภายนอกและภายในตัวรถคล้ายคลึงกับรุ่นปกติ ด้วยล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้ว มาพร้อมยาง 225/55/R18 ตอบโจทย์ด้วยประตูท้ายไฟฟ้า พร้อมการออกแบบตัวรถที่ไม่ได้แตกต่างจากรุ่นปกติ ยกเว้นตรา e- Boxer บ่งบอกความพิเศษทางด้านหลัง

ด้านในห้องโดยสาร ยังความเป็นรถนั่งสบายตลอดการเดินทาง คงการโดยสาร 5 ที่นั่งไว้เหมือนเดิม มาพร้อมโหมดการขับขี่ S/ Drive และ โหมด Eco-C ตอบเรื่องการช่วยเหลือความประหยัดจากรถเพิ่มเติม ด้านเรือนไมล์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเดิม ยกเว้นจอแสดงข้อมูลตรงกลาง สามารถจะบอการทำงานของระบบไฮบริดในระหว่างการขับขี่ได้เพิ่มเติมจากข้อมูลดั้งเดิม

ใต้เรือนร่างอเนกประสงค์ไฮบริดคันนี้ ยังคงมาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Direct injection พร้อมระบบ Mild Hybrid ติดตั้งควบคู่กับ มอเตอร์ไฟฟ้าในชุดเกียร์ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ส่งกำลังด้วยชุดแบตเตอร์รี่ลิเธียมไอออน เพอิ่มประสิทธิภาพทั้งการขับขี่และความประหยัด

ตัวเครื่องยนต์ทำกำลังลดลงเหลือเพียง 145 PS สูงสุดที่ 6,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 188 นิวตันเมตรสูงสุดที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่วนตัวมอเตอร์ไฟฟ้าทำกำลังสูงสุด 13.6 PS และ ทำแรงบิดสูงสุด 65 นิวตันเมตร ตอบโจทย์ในการขับขี่

แง่การใช้งาน ทางซูบารุเปิดเผยว่า ระบบจะใช้ตอบการขับขี่ในหลายส่วนสำคัอาทิการออกตัว จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยสร้างแรงบิดในเบื้องต้นเพื่อออกตัวได้ง่ายขึ้น นั่นทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเมื่อใช้ในการขับขี่ออฟโรด โดยทำงานผสานกับ X Mode ตลอดจน โหมดการขับขี่ทั้ง S-I Drive ที่มาให้ในรถ นอกจานี้ในการขับขี่ด้วยระบบ Adaptive Cruise Control ผู้ขับขี่ยังสามารถตั้งให้รถตอบความประหยัดได้ ด้วยปุ่ม Eco-C หรือ Eco Cruise Control เพื่อสร้างความประหยัดสูงสุดในการเดินทาง

ตามข้อมูลทีมีการเปิดเผย Subaru Forester e Boxer ทำอัตราประหยัดตามโหมดการทดสอบ JC08 ได้ถึง 18.6 ก.ม./ลิตร และได้ 14.0 ก.ม./ลิตร ในโหมด WTLC ใหม่ โดยขับในเมืองประหยัด 11.2 ก.ม./ลิตร ,ชานเมือง 14.2 ก.ม./ลิตร และนอกเมืองได้ 16.0 ก.ม./ลิตร

สำหรับประเทศไทย Subaru กล่าวว่ากำลังตัดสินใจว่าจะนำรถรุ่นนี้มาขายหรือไม่ โดย นาย เกลน ตัน กล่าวว่า ขอดูกระแสการตอบรับรถยนต์ Suabru Forester ในไทยปีนี้

แต่ยืนยันว่าโรงงานใหม่มีความพร้อมอยู่แล้ว สำหรับรถยนต์ Subaru Forester e Boxer เนื่องจากสามารถนำเข้ามาติดตั้งเสริมในรถที่ผลิตในประเทศไทย

อ่านและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับระบบแบบ Mild Hybrid ได้ที่นี่