ผลวิจัยล่าสุดเปิดเผยว่า การขับรถพลังไฟฟ้าในสภาพอากาศเย็น ทำให้ระยะทางที่วิ่งได้ลดลงมากกว่าขับรถในอากาศร้อน ซึ่งส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการวิ่งโดยตรง
หลายคนมีความสงสัยว่าแท้จริงแล้วอากาศเย็นหรือร้อน แบบไหนจะทำให้รถไฟฟ้ามีประสิทธิภาพการใช้งานมากกว่า ล่าสุดสมาคมรถยนต์แห่งอเมริกัน (AAA) ได้ออกมาเปิดเผยผลวิจัยว่าอุณหภูมิหนาวเย็น และอากาศร้อน อย่างไหนจะส่งผลต่อระยะทางการวิ่งของรถไฟฟ้ามากกว่ากัน
จากผลทดสอบพบว่าที่อุณหภูมิ -6.6 องศาเซลเซียส ระยะทางที่วิ่งได้ของรถไฟฟ้าจะลดลงมากถึง 41% สาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ อาทิ การใช้พลังไฟฟ้าเพื่อสร้างความร้อนให้ภายในห้องโดยสาร
นอกจากนี้ การศึกษายังค้นพบอีกว่าอากาศเย็นสร้างผลกระทบต่อรถระยะการวิ่งของรถไฟฟ้า มากกว่าการขับขี่รถในสภาพอากาศร้อน เพราะเมื่ออุณหภูมิของแบตเตอรีพุ่งไปถึง 35 องศาเซลเซียส เพื่อใช้พลังงานในการเดินเครื่องปรับอากาศ ระยะทางวิ่งได้จะลดลงเพียง 17% เท่านั้น
หากเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายเมื่อรถไฟฟ้าต้องวิ่งในอากาศเย็น กับอากาศร้อน ทาง AAA เปิดเผยว่าในอุณหภูมิ -6.6 องศาเซลเซียส เจ้าของต้องชาร์จไฟเข้ารถเพิ่มราว 24.27 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 752 บาท) ทุกระยะทางที่วิ่งไป 1,600 กม. สำหรับรถไฟฟ้าที่วิ่งในอุณหภูมิ 35 องศาเซลเซียส เจ้าของรถต้องจ่ายค่าชาร์จไฟเพิ่ม 7.94 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 246 บาท)
นี่ทำให้เราทราบว่าหากรถไฟฟ้ามีความนิยมแพร่หลายในไทย ค่าใช้จ่ายก็จะไม่สูงมากนักหากขับรถในสภาพอากาศของบ้านเรา
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com