กลายเป็นเรื่องอารมณ์เสีย ทุกครั้งที่เราคิดว่า วันถัดไปราคาน้ำมันที่เราจำเป็นต้องใช้จะขึ้นราคา บ้างขึ้น 40 สตางค์บ้าง 60 สตางค์บ้าง เราหลายคนต่างมองว่า มันคงจะดีกว่าถ้าเราเร่งเติมน้ำมันในวันนี้ เพราะอย่างน้อยที่สุดเราจะไม่ซื้อของที่แพงกว่าในวันถัดไป
นโยบายการขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันกลายเป็นเรื่องปกติ ของบรรบริษัทผู้ค้าน้ำมัน ที่จำเป็นต้องปรับราคาให้เหมาะสมสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ที่มีผลต่อทางด้านราคาจำหน่าย
ไม่ว่าอะไรเป็นสาเหตุต่อการขึ้นราคาน้ำมัน สิ่งหนึ่งที่เรามักจะพบเสมอ คือ ก่อนวันที่น้ำมันขึ้นราคา รถจะเยอะตามปั้มเป็นพิเศษ อันเป็นผลจากปัจจัยทางด้านจิตวิทยาของราคาขายสินค้า แต่เราเคยถามตัวเองไหมครับว่า การเติมน้ำมันที่ถูกกว่า 40 สตางค์ เราเหมือนได้ของถูกว่า แต่คุ้มค่ามากกว่าแค่ไหน
ก่อนจะตอบว่า เติมน้ำมันถูกกว่า เราคุ้มค่ามากกว่าแค่ไหน เราคงต้องทราบราคาน้ำมันที่ขึ้นราคาก่อนว่า เพิ่มราคาจากเดิมไปมากเพียง
จากที่ผมค้นหาข้อมูลการขึ้นราคาน้ำมัน พบว่า จะมีการขึ้นราคาอยู่เพียง 40 และ 60 สตางค์ เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นในการตรวจสอบความคุ้มค่า ผมขอเอาฐาน การขึ้นราคาน้ำมัน 40 สตางค์เป็นการแสดงความคุ้มค่าให้ดู
หลังจากนั้น ผมเริ่มหาความแตกต่างระหว่างจำนวนลิตรที่เราได้จากการเติมน้ำมัน โดยเอามูลค่าจริงที่จริงที่เราได้จากการเติมน้ำมันมาคำนวนหา จำนวนลิตรที่เราได้จากการเติมน้ำมันในวันนี้ เปรียบเทียบกับวันพรุ่งนี้ โดยสมมุติให้คุณเติมแก๊สโซฮอล 95 มูลค่า 500 บาท แล้วกัน
ราคาขายปี (บาท/ลิตร) | มูลค่าที่เติม (บาท) | จำนวนลิตรที่ได้ | |
ก่อนขึ้นราคา | 28.85 | 500 | 17.33 |
น้ำมันหลัง | 29.25 | 500 | 17.09 |
ความแตกต่าง | 40 สตางค์ (+40 สต) | 0.24 |
จากการคำนวณผมพบว่า น้ำมันที่เพิ่มราคาขึ้น 40 สตางค์ จะทำให้คุณได้น้ำมันน้อยลง ประมาณ 0.24 ลิตร หรือ ประมาณ 1ขวดน้ำอัดลมเล็ก ฟังแล้วคงคิดว่าเยอะอยู่ใช่ไหม แต่มันใช้ขับเคลื่อนรถที่เราใช้ได้ไกลเท่าไร กับน้ำมันขนาดนี้
ถ้าผมสมมุติให้รถที่ใช้งานปัจจุบันมีอัตราประหยัดเฉลี่ย 13 กิโลเมตร/ลิตร น้ำมันจำนวน 0.24 ลิตร จะไปไกลแค่ไหน
ในการนี้ผมขอแปลหน่วยจากลิตร มาเป็นซีซี โดย 1 ลิตร เท่ากับ 1000 ซีซี ถ้า 0.24 ลิตร เท่ากับ 240 ซีซี
ดังนั้นสัดส่วนของ 240 ซีซี เท่ากับ 1,000/240) = 4.16 ส่วนของปริมาตรน้ำมันจำนวนเต็มลิตร (1/4.16)
นั่นเท่ากับ น้ำมันที่เราจะได้เพิ่มจากการเติมน้ำมันที่ถูกกว่า 40 สตางค์ จะสามารถขับเคลื่อนได้ไกล 13./4.16 = 3.125 กิโลเมตรเท่านั้น
ผมลองคำนวณในเรื่องเดียวกัน ด้วยการขึ้นราคาน้ำมัน 60 สตางค์
ราคาขายปี (บาท/ลิตร) | มูลค่าที่เติม (บาท) | จำนวนลิตรที่ได้ | |
ก่อนขึ้นราคา | 28.85 | 500 | 17.33 |
น้ำมันหลัง | 29.45 | 500 | 16.97 |
ความแตกต่าง | 60 สตางค์ (+60 สต) | 0.36 |
สูตรคำนวณเดิม แปลงน้ำมันลิตร เป็น ซีซี แล้วหาสัดส่วนจำนวนเต็ม 1,000/360 = 2.77 ส่วนจากจำนวนเต็มลิตร (1/2.77)
เมื่อมาคำนวณระยะทางจากจำนวนน้ำมันที่ได้เพิ่มถ้าคุณเติมก่อนน้ำมันขึ้น 60 สตางค์ คุณจะได้ระยะทางเพิ่ม 13 /2.77 =4.69 กิโลเมตร
สรุป การเติมน้ำมันก่อนขึ้นราคาในวันถัดไป
น้ำมันที่ได้เพิ่มถ้าเติมก่อน (ลิตร) | ระยะทางที่ได้เพิ่ม (กิโลเมตร) | |
ขึ้น 40 สตางค์ | 0.24 (240 ซีซี) | 3.125 |
ขึ้น 60 สตางค์ | 0.36 (360 ซีซี) | 4.69 |
หลายคนอาจจะแย้งว่า เรื่องนี้น่าจะคุ้มกว่าถ้าเราเติมน้ำมันเต็มถัง น่าจะได้น้ำมันเพิ่มขึ้น และคุ้มค่ามากกว่า ก็อาจจะจริง
ลองคำนวณด้วยวิธีเดียวกัน โดยสมมุติให้รถที่ใช้ มีถังน้ำมัน 60 ลิตร และติดแดงเมื่อเหลือน้ำมันเพียง 5 ลิตร นั่นเท่ากับต้องเติมน้ำมันทั้งสิ้น 55 ลิตร
ราคาขายปี (บาท/ลิตร) | จำนวนที่ต้องเติม | มูลค่าที่เติม (บาท) | |
ก่อนขึ้นราคา | 28.85 | 55 | 1586.75 |
น้ำมันหลัง | 29.25 | 55 | 1608.75 |
ความแตกต่าง | 40 สตางค์ (+40 สต) | 22 บาท |
จากตารางจะเห็นว่า ถ้าเราเติมน้ำมันด้วยจำนวนลิตรเท่าเดิม ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น 40 สตางค์ จะมีผลเพียง 22 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีผลกระทบมากมายนัก ก็ประมาณว่าคุณเสียมันฝรั่งห่อ 20 บาท ไป 1 ห่อ ในขณะที่ระยะทางก็ได้เท่าเดิม เนื่องจากจำนวนน้ำมันที่ได้เท่ากัน
ดังนั้นการเป็นกระต่ายตื่นตูมน้ำมันขึ้น ….ถามว่าคุ้มค่าไหม อาจไม่ได้คุ้มเลย ถ้าต้องเสียเวลาออกไป และปั้มแถมบ้านคุณไกลกว่า 2 กิดลเมตร เพราะกำไร จะหายวับไปในทันตา
ผมเข้าใจว่ามันฟังดูเลวร้าย โห!! ขึ้นตั้ง 40 สตางค์ – 60 สตางค์ คุณอาจรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ต้องรีบไปเติมน้ำมัน แต่ในขณะที่คุณไปนั่งรอเข้าแถวเติมน้ำมันแบบที่คนอื่นก็ทำ บางทีสิ่งที่เราคิดว่าคุ้มค่าแล้วที่เสียเวลาและวนไปเติม อาจไม่ได้คุ้มค่าอย่างที่เราเข้าใจกันไปเอง
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง