ครม อนุมัติการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรแบบใหม่ ตามการปล่อยไอเสีย หรือ ภาษี Co2 รถจักรยานยนต์ เริ่มบังคับใช้มีผลเดือนม.ค. 62 จ่อราคาขายบิ๊กไบค์ราคาพุ่ง
วานนี้ (7 พ.ค. 62 ) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติอนุมัติการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรรถจักรยานยนต์รูปแบบใหม่ จากการวัดตามขนาดกระบอกสูบ เป็นการวัดค่าการปล่อยไอเสีย
จากการอนุมัติมติดังกล่าว ส่งผลให้ ในอนาคตเมื่อมีการบังคับใช้ ภาษี Co2 มอเตอร์ไซค์ดังกล่าวราคาจำหน่ายรถจักรยานยนต์จะต้องมีการปรับตัวสูงขึ้น โดยกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กประเภท Moped สำหรับครอบครัว จะมีราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยคันละ 200 บาท และรถมอเตอร์ไซค์ออฟโรด จะมีราคาขยับขึ้น สูงถึงคันละ 1,500 บาท
แต่ที่ส่งผลกระทบที่สุด คือตลาดบิ๊กไบค์ อาจจะทำให้ราคาเพิ่มขึ้นคันละ 100,000 บาท สำหรับรถกลุ่ม 1,000 ซีซี ขึ้นไป และกลุ่ม 500 ซีซี เพิ่มคันละ 10,000 บาท (คำนวนโดยทีมงาน Ridebuster จากราคาค้าปลีกปัจจุบัน)
ทั้งนี้ตามระเบียบใหม่ จะมีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรเป็น 4 แบบ ได้แก่
1) รถจักรยานยนต์แบบพลังงานไฟฟ้า จะคิดอัตราภาษีอยู่ที่ร้อยละ 1
2) รถจักรยานยนต์ทั้งแบบที่ใช้น้ำมันและแบบไฮบริด แยกเป็น
- ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 10 กรัมต่อกิโลเมตร อัตราภาษีอยู่ที่ร้อยละ 1
- ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 10 กรัมต่อกิโลเมตรแต่ไม่เกิน 50 กรัมต่อกิโลเมตร อัตราภาษีอยู่ที่ร้อยละ 3
- ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 50 กรัมต่อกิโลเมตร แต่ไม่เกิน 90 กรัมต่อกิโลเมตร อัตราภาษีอยู่ที่ร้อยละ 5
- ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 90 กรัมต่อกิโลเมตร แต่ไม่เกิน 130 กรัมต่อกิโลเมตร อัตราภาษีอยู่ที่ร้อยละ 9
- ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 130 กรัมต่อกิโลเมตร อัตราภาษีอยู่ที่ร้อยละ 18
3) รถจักรยานยนต์ต้นแบบที่ผลิต หรือ นำเข้ามาเพื่อนำไปวิจัย พัฒนา หรือ ทดสอบสมรรถนะ ที่ไม่เคยขายในท้องตลาดเป็นการทั่วไปในประเทศ และไม่เคยได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิตมาก่อน หรือเคยได้รับยกเว้นภาษีสรรพสามิตมาแล้ว แต่ไม่เลิกการวิจัย พัฒนา หรือ ทดสอบสมรรถนะ จะไม่เสียภาษี
4) รถจักรยานยนต์อื่นๆ นอกเหนือจากนี้ คิดอัตราภาษีร้อยละ 20
ที่มา Voice TV