Portofino ซูเปอร์คาร์ทรงโรดสเตอร์จากค่ายม้าลำพอง คือตัวแปรสำคัญที่ทำให้ยอดขายของ Ferrari พุ่งแซงหน้ายอดปีที่ผ่านมาๆ เพราะคนรวยทั่วโลกต่างแห่กันซื้อ
ปกติแล้วบรรดารถหรูระดับไฮเอนด์กับพวกรถซูเปอร์คาร์ตัวล้ำๆ มักทำยอดขายต่อปีไม่ได้จำนวนมากมายเท่าไหร่ ยิ่งในช่วงสองปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจทั่วโลกเกิดภาวะสั่นคลอนไปทั่ว ถึงอย่างนั้น บรรดากลุ่มผู้มีอันจะกินทั่วโลกก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะล่าสุดค่ายม้าลำพอง Ferrari ออกมาประกาศชัดเจนว่าแค่ช่วงแรกของปี 2019 สามารถขายรถได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์
คำว่าคนรวยก็ยิ่งรวยขึ้น คนจนก็ยิ่งจนลงคงไม่ผิดอะไรหากจะกล่าว เนื่องจากปี 2018 สองค่ายรถระดับซูเปอร์คาร์ทั้ง Lamborghini กับ McLaren ซึ่ง Ferrari เองก็ไม่น้อยหน้าจึงได้ประกาศว่าปีที่แล้ว พวกเขาก็ทำยอดขายได้ทะลุเป้าที่ตั้งไว้เช่นเดียวกัน
คำถามต่อมาคือรถคันไหนกันคือตัวแปรที่ส่งให้ยอดขายรวมของค่ายม้าลำพองสูงลิ่ว คำตอบคือ Ferrari Portofino ซูเปอร์คาร์ทรงโรดสเตอร์เปิดประทุน ที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ โดยมันถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Entry Level ที่มีราคาเบาสบายให้ลูกค้าเศรษฐีกระเป๋าหนักซื้อหาง่าย และมีข้อดีตรงขับไปไหนมาไหนได้ทุกวัน
เมื่อดูเจาะไปที่ไตรมาสแรกของปี 2019 พบว่าค่ายม้าลำพองมียอดขายโตขึ้น 14% ตัวดันยอดเป็นผลของการเปิดตัว Ferrari Portofino ที่พกขุมพลังเบนซิน V8 อันมีราคาต่ำกว่า 2 แสนเหรียญสหรัฐฯ (ราว 6,400,000 บาท)
โดยปีนี้เฟอร์รารี่ส่งมองโรดสเตอร์รุ่นเครื่อง V8 ไปแล้วกว่า 2,610 คัน เทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2018 มีเพียง 2,128 คัน โตขึ้นถึง 23% โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ โตเพิ่ม 27% แต่ก็ยังสู้ฝั่งเอเชียอย่าง จีน ฮ่องกง และไต้หวัน อันมียอดขายพุ่งสูง 79% ไม่ได้
ขณะเดียวกัน ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจอีกว่าลูกค้านิยมเลือกเครื่องเบนซิน V8 ทำให้รถที่ใช้ขุมพลังบล็อกนี้โตขึ้น 30.6% ส่วนเครื่องเบนซิน V12 รุ่นคลาสสิกของค่ายกลับโตเพียง 4.1% เท่านั้น แสดงให้เห็นว่าลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการความแรงสุดๆ เสมอไป
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com