2020 Land Rover Defender ตำนานเอสยูวีตรวจการณ์กลับมาใหม่ในมาดรถโมเดิร์นเต็มรูปแบบ ที่สำคัญคืออัดแน่นเทคโนโลยีทุกด้าน และจุดเด่นเรื่องลุย 4X4 ยังคงอยู่
แลนด์ โรเวอร์ แบรนด์รถยนต์ตรวจการณ์ที่แสนจะโด่งดังและมีตำนานสืบเนื่องจากอดีตถึงปัจจุบัน ได้เผยโฉม 2020 Land Rover Defender คันใหม่ ซึ่งฉีกสไตล์การออกแบบจากความคลาสสิก กลายเป็นเอสยูวียุคใหม่รูปลักษณ์สุดทันสมัย พร้อมด้วยเทคโนโลยีเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ชั้นเลิศท่วมคัน
Defender โฉมล่าสุดถูกสร้างบนแพล็ตฟอร์ม D7x ที่มีความทนทานแข็งแกร่งพร้อมรับทุกสถานการณ์ ขณะเดียวกัน Defender 110 อันเป็นตัวถัง 5 ประตู ฐานล้อปกติ มาพร้อมเบาะนั่ง 5+2 ที่นั่ง กับระดับตกแต่ง 4 รุ่น ได้แก่ Explorer, Adventure, Country และ Urban แน่นอนว่า Defender 90 รุ่นฐานล้อสั้นเพื่อการพาณิชย์ยังคงมีผลิตออกมาเหมือนเดิม เพื่อเอาใจลูกค้าสายลุยที่นำรถไปใช้งานแบบสมบุกสมบัน
ภายนอกของ Defender ใหม่ มีการออกแบบไปในทิศทางโมเดิร์นตามสมัยนิยม แต่ยังคงความบึกบึนเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์รถตรวจการณ์ยี่ห้อแลนด์ โรเวอร์อย่างครบถ้วน เริ่มจากรูปทรงของรถที่เป็นกล่องเหลี่ยม ตัวรถมีหลังคาสูง ระยะจากพื้นถึงใต้ท้องรถ ตลอดจนมุมเข้าหาและมุมจากทั้งด้านหน้าและหลังมีการยกระดับขึ้น เหล่านี้ช่วยให้การปีนป่านอุปสรรคหรือเส้นทางเส้นโหดทำได้ง่ายดาย
นอกจากการออกแบบที่เน้นถึงการใช้งานด้านลุยเป็นหลักแล้ว Defender ใหม่ ก็ได้เสริมความสวยงามด้วยโคมไฟหน้าแอลอีดีที่มีแถบไฟเดย์ไทม์อันมีลักษณะเฉพาะตัว ใครเห็นก็อาจบอกว่ามันน่ารักและแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน เหนือสิ่งอื่นใด ทางผู้ผลิตยังคงติดตั้งล้อยางอะไหล่ไว้ที่ฝาประตูท้ายตามแบบรถสายลุยดั้งเดิม ส่วนด้านบนก็ให้หลังคากระจกรับแสงส่องห้องโดยสารตอนหลังแบบ Alpine windows
ภายในห้องโดยสารยกเครื่องใหม่ละทิ้งความเก๋า แล้วแทนที่ด้วยความทันสมัยกับวัสดุชั้นดีตกแต่งมาให้เต็มตา ด้านระบบสาระบันเทิง Pivi Pro มาพร้อมหน้าจอสัมผัส 10 นิ้ว ทางผู้ผลิตเคลมว่าระบบใหม่นี้ทำงานเร็วขึ้นและใช้งานได้ง่ายกว่าเดิมมาก 50% และยังมีฟีเจอร์เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก เช่น สมาร์ทโฟน มาครบถ้วน
มาถึงเรื่องขุมพลังที่จะมาประจำการบน Defender ใหม่ มีเครื่องดีเซล 2 แบบ เครื่องเบนซินเทอร์โบ 4 สูบ 1 เครื่องเบนซิน 6 สูบเรียง แบบ Mild-Hybrid หนึ่งบล็อก และเครื่องเบนซินปลั๊กอินไฮบริดมาตามหลังอีกหนึ่งในปี 2020
เริ่มด้วยเครื่องเบนซินเทอร์โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร สร้างกำลังสูงสุด 296 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร จากนั้นเป็นคิวของเครื่องดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร 2 ระดับความแรง ให้กำลังสูงสุด 197-237 แรงม้า แรงบิดเท่ากันที่ 430 นิวตันเมตร ส่วนเครื่องเบนซิน 6 สูบเรียง พ่วงระบบ Mild-Hybrid มอบพลัง 394 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร โดยทุกขุมพลังจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
ในส่วนของระบบขับเคลื่อนอันเป็นจุดเด่นประจำกาย Defender ใหม่ เป็นหน้าที่ของขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AWD ซึ่งมาพร้อมชุดห้องเกียร์ฝาก (Transfer case) แบบ 2 สปีด ที่ผู้ขับขี่สามารถสั่งล็อคเพลากลางได้ด้วยตนเอง หรือจะให้ระบบใช้งานดิฟล็อคหลังก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้น หากช่วงล่างปกติไม่เพียงพอแก่การลุย ยังเพิ่มออปชั่นช่วงล่างแบบถุงลมเพิ่มได้อีกต่างหาก
ไม่เพียงระบบขับเคลื่อนเท่านั้นที่ Defender ตั้งใจมอบให้ลูกค้า ทางวิศวกรได้ติดตั้งระบบยกความสูงของตัวรถที่เรียกว่า world-class off-road geometry มาบนรุ่น Defender 110 ที่จะยกความสูงจากใต้ท้องรถถึงพื้นขึ้นอีก 27 เซนติเมตร ช่วยให้มุมเข้าหา มุมข้าม และมุมจาก เพิ่มระดับเพื่อให้ผ่านทุกอุปสรรคได้แบบปลอกกล้วยเข้าปาก นอกจากนี้ ความสามารถในการลุยน้ำของรถคันใหม่นี้อยู่ที่ความสูง 90 เซนติเมตร (900 มิลลิเมตร) แล้วปิดท้ายด้วยระบบกล้องมองภาพพื้นถนนด้านหน้า ที่จะฉายภาพจริงบริเวณใต้ท้องรถด้านหน้า เพื่อให้ผู้ขับขี่มั่นใจว่าจะไม่ทำให้แคร้งเครื่องไปขูดหรือกระแทกกับก้อนหิน
ท้ายสุดเป็นเรื่องของราคาจำหน่าย Defender โฉมปี 2020 ซึ่งที่ตลาดสหรัฐอเมริกาตั้งราคาเริ่มต้นไว้ 49,900 ดอลลาร์ (ราว 1,527,700 บาท) สำหรับรุ่น Defender 110 ตัว 5 ประตู ฐานล้อปกติ ส่วนรุ่น 90 ฐานล้อสั้นยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ ใครที่สนใจอยากชมและสัมผัสรถคันจริงขอเรียนเชิญไปที่งาน Frankfurt motor show 2019
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเราทีมงาน Ridebuster.com