การที่คนๆ หนึ่งจะซื้อหารถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งาน พวกเขามองถึงเรื่องความรักโลกจริงๆ หรือคิดถึงผลประโยชน์ด้านราคาที่มีการสนับสนุนในหลายประเทศ?
ทุกครั้งที่มีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ เราจะเห็นว่าบรรดาผู้ผลิตมักเน้นหนักไปที่เรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมันก็เป็นความจริงที่เราทุกคนทราบดีว่า รถพลังถ่านเหล่านี้ไม่ปล่อยของเสียขณะใช้งาน โดยความจริงที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็คือ คนส่วนใหญ่ (ในต่างประเทศ เช่น ยุโรป จีน) หันไปคบหากับรถยนต์ไฟฟ้าเพราแรงจูงใจด้านราคาเพื่อรักษาเงินในกระเป๋า มากกว่าการรักษ์โลก
ข้อมูลล่าสุดจากยุโรปเผยให้เห็นถึงความจริงของคนที่ซื้อรถพลังไฟฟ้ามาใช้งาน ด้วยปัจจัยหลักด้านราคาซึ่งได้รับการอุดหนุนด้านภาษีจากรัฐบาลในหลายประเทศ ที่มุ่งมั่นจะเปลี่ยนประเทศของพวกเขาให้กลายเป็นชาติอันมีสิ่งแวดล้อมสะอาด อากาศบริสุทธิ์
Gregory Guillaume ประธานบริหารและหัวหน้าฝ่ายออกแบบของ เกีย กล่าวได้น่าสนใจในงานเปิดตัวรถไฟฟ้า 2 คันใหม่ว่า “คุณเชื่อไหมว่าคนส่วนใหญ่ที่หันมาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในทวีปยุโรป พวกเขาไม่ได้แคร์ว่ามันจะช่วยป้องกันปัญหาโลกร้อน หรือลดมลพิษทางอากาศ แต่ใส่ใจเรื่องราคารถที่มีการสนับสนุนทางภาษีจากรัฐฯ ต่างหาก”
ตลอดสองปีที่ผ่านมาเกียได้ศึกษาถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่มีต่อปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ โดยพบว่าหัวข้อเรื่องการช่วยเหลือด้านราคารถไฟฟ้าที่ถูกกว่ารถเครื่องสันดาปจากรัฐฯ เป็นเหตุผลอันดับหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อรถ เพราะประเด็นเรื่องการช่วยรักษาโลกใบนี้ ตลอดจนสมรรถนะการขับขี่ถูกจัดลำดับความสำคัญรองลงมา
ในบางประเทศเช่น เนเธอร์แลนด์ ถือว่าได้เป็นชาติที่มีการผลักดันให้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นที่แพร่พลายมากที่สุด เพราะรัฐบาลได้ปรับเปลี่ยนกฏหมายแทบทุกปี ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนให้คนซื้อหารถไฟฟ้า ทั้งเรื่องการอุดหนุนทางราคา การจัดที่จอดฟรี หรือแม้กระทั่งการนำรถไฟฟ้าไปวิ่งบนเลนของรถบัส ในขณะที่รถเครื่องสันดาปต้องทนติดอุดอู้บนท้องถนน เหล่านี้เป็นต้น
นอกจากนี้ ทางการเนเธอร์แลนด์ยังออกมาตรการขึ้นภาษีรถเครื่องสันดาปปกติ ยกตัวอย่างเช่น Kia Stinger ขายที่เยอรมนี ราคา 44,490 ยูโร (ราว 1,500,000 บาท) แต่พอเป็นรถคันเดียวกันทว่าขายในเนเธอร์แลนด์ กลับตั้งราคาไว้ถึง 62,995 ยูโร (ราว 2,100,000 บาท) เห็นได้ว่าราคารถไฟฟ้ามีการอุดหนุนให้ถูกจนประชาชนจับต้องได้ แล้วไปตั้งกำแพงภาษีสูงๆ จนรถเครื่องสันดาปแพงใครก็เห็นต้องคิดหนักก่อนซื้อ
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าคุณซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่เนเธอร์แลนด์ คุณจะรับเงินคืนภาษี อาทิ ภาษีขาย ค่าจดทะเบียน ค่าภาษีรถประจำปี ซึ่งรวมแล้วมีมูลค่า 10,000 ยูโร (ราว 330,000 บาท) ไปเลยฟรีๆ ข้อเสนอดีแบบนี้ ได้รถดีราคาประหยัด ได้สิทธิ์ใช้งานต่างๆ ที่มากกว่ารถเครื่องสันดาป จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมคนที่นั่นจึงเปลี่ยนมาใช้รถใส่ถ่านเป็นจำนวนมาก
มากกว่าไปการสนับสนุนจากทางรัฐบาลของแต่ละประเทศแล้ว ทางสหภาพยุโรปเองก็มีมาตรการในการบังคับให้บริษัทรถยนต์ จะต้องผ่านกฏเกณฑ์เรื่องค่ามลพิษทั้งไอเสียและเสียงอันเข้มงวด ที่มีการปรับปรุงบ่อยครั้งทุก 3-4 ปี บีบให้ค่ายรถเข้าไปสู่ปลายทางเดียวกันนั่นก็คือ ต้องเปลี่ยนมาขายรถไฟฟ้าทั้งไลน์อัพในอนาคตอันใกล้
อย่างไรก็ดี จุดเปลี่ยนที่จะผลิกวงการรถยนต์ไฟฟ้าให้แพร่หลายไปไกลกว่าปัจจุบัน คงเป็นเรื่องแบตเตอรีที่ต้องมีต้นทุนในการผลิตจำนวนมากๆ ได้ราคาถูกลง รวมถึงความเร็วในการชารจ์ไฟฟ้า ตลอดจนความสามารถในการขับขี่ระยะทางไกลขึ้น เหล่านี้หากมีครบถ้วนทุกประการผู้บริโภคก็จะหันมาซื้อรถชนิดนี้เองโดยไม่ต้องมีการสนับสนุน
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเราทีมงาน Ridebuster.com