Lexus RX 300 2019 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ปรับโฉมตามญี่ปุ่นมาติดๆ โดยเจ้าเอสยูวีระดับหรูคันนี้ได้เพิ่มอุปกรณ์มากกว่ารุ่นก่อน ด้านราคาอยู่ระหว่าง 4.23-5.35 ล้านบาท

ไม่ต้องพูดพรรณนาให้มากความสำหรับความสวยหรูของเอสยูวีรุ่นใหญ่ Lexus RX 300 2019 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ภายนอกมีการปรับบริเวณกระจังหน้า Spindle Grille ดีไซน์ใหม่ ออกแบบให้มีความพิถีพิถันทุกรายละเอียด เช่นเดียวกับไฟหน้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไฟหน้าของ Lexus LC รถสปอร์ตของค่าย ต่อมาเป็นขอบกระจังหน้ารมดำ หันกลับมองด้านหลังจะเห็นไฟท้ายพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED Sequential ส่วนกันชนด้านหลังตกแต่งด้วยอลูมินัมสปอร์ตดุดัน

ต่อกันที่ภายห้องโดยสารซึ่งได้ปรับให้ดูเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน รวมถึงมีการใส่ใจเรื่องวัสดุ และระบบสาระบันเทิงมากขึ้น โดยสิ่งที่ได้เพิ่มจะมี จอแสดงผลข้อมูล Electro Multi Vision (EMV) ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว…แสดงข้อมูลการขับขี่อย่างเด่นชัด ช่วยให้ควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้นทั้งจากตำแหน่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า (เฉพาะรุ่น Premium และ F Sport) ระบบควบคุมส่วนกลาง Remote Touch Interface สั่งงานด้วยปลายนิ้วเสมือนควบคุมสมาร์ทโฟน อีกทั้งรองรับ Apple Car Play และ Android Auto ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกค้าเคยบ่นว่าทำไมถึงไม่ใส่มาให้ และปิดท้ายด้วยระบบเปิดฝาท้ายไฟฟ้าพร้อม Kick Sensor

ประเด็นเทคโนโลยีความปลอดภัย คราวนี้ RX 300 จัดเต็มมาแน่นกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกันจากฝั่งเยอรมัน เพราะมีตั้งแต่ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ BladeScan Adaptive High-beam System (AHS) กับเทคโนโลยีปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ มาพร้อมกับเทคโนโลยี BladeScan ช่วยกระจายลำแสงไฟหน้ากับวัตถุด้านหน้ารถอย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น จากนั้นใส่ระบบช่วยรักษาช่องทางวิ่ง Lane Tracing Assist (LTA) และจบกันที่ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control 

สำหรับเครื่องยนต์ในรุ่น RX 300 ให้เป็นขุมพลังเบนซินเทอร์โบคู่ 4 สูบเรียง ขนาด 2.0 ลิตร รหัส 8AR-FTS มอบกำลังสูงสุด 238 แรงม้า (PS) ที่ 4,800 – 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,650 – 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD

โหมดการขับขี่ (Driving Mode Select) สามารถปรับเปลี่ยนได้ 4 แบบ ได้แก่ โหมด Normal, ECO, Sport และ Sport S+ (รุ่น F-Sport)