Tesla หันมาเอาจริงเอาจังกับรถกระบะเปิดตัว Tesla CyberTruck เราเชื่อว่าหลายคน คงจะเห็นข้อมูลรถคันนี้กันไปพอสมควรแล้ว วันนี้เราจึงอยากจะจับเฉพาะจุดเด่นไฮไลท์สำคัญของ มาเล่าให้ฟัง
1.ออกแบบโคตรล้ำโลก
ไม่รู้จะเรียกว่าล้ำ!! ดีหรือไม่ แต่นั่น คือสิ่งที่อีลอน มัสก์ ในฐานะ CEO ของ Tesla พยายามแสดงถึงความตั้งใจของทีมออกแบบว่า พวกเขาคิดมาดีแล้ว ที่ออกแบบรถมาเป็นทรงนี้
Tesla Cybertruck ออกมาทรวดทรงที่เห็นแล้ว แม้แต่นักข่าวยังต้องกุมขมับ ตัวรถออกมาในทรง 3 เหลี่ยมเน้นความปราดเปรียวสุดขั้ว รายละเอียดทุกอย่างเรียบง่ายไม่มีการวาดเส้นสายบนตัวถังให้มากความ สื่อบางสำนักในต่างประเทศออกปากแซว่ารถคันนี้ ดูประหลาด และล้ำโลกมาก มากจนไม่คิดว่าจะออกมาเป็นทรงนี้
ไฟหน้าถูกใส่เข้าไปในตัวรถด้านหน้า เชื่อว่าจะเป็นไฟหน้า LED เช่นเดียวกับด้านหลังที่ดู Ugly ไม่แพ้กับด้านหน้า ให้ไฟท้ายขนาดเล็กมาก จนคุณอาจรู้สึกว่า อิหยังวะ!!
2.กระบะท้ายขั้นเทพ
ถ้าสังเกตจากภาพให้ดี กระบะ Tesla คันนี้ไม่มีซุ้มล้อในกระบะ ผิดกับรถรุ่นอื่นในตลาดปัจจุบัน นับเป็นข้อดีของมันเลยก็ว่าได้
การไม่มีซุ้มล้อทำให้ในความเป็นจริงมันสามารถบรรทุกสิ่งของได้มากกว่ากระบะในปัจจุบัน เทสล่า เหมือนจะได้แนวคิดนี้มาจากรถบรรทุกขนาดเล็กประเภทกระบะเรียบที่ได้ความนิยมจากกลุ่มขนส่งสิงค้า การนำมาสู่รถปกติทั่วไป ถือว่าท้าทายมากับความคิดนี้
นอกจากนี้ ในส่วนกระบะท้าย Tesla มีแผนจะไม่ทำให้กระบะท้ายเปิดโล่งเมื่อไม่ได้ใช้งาน กระบะท้ายรถคันนี้ ถูกเรียกว่า Vault มันเป็นคำนิยามของแบรนด์กับแผงกระบะท้ายที่สามารถเลื่อนปิดหรือเก็บได้ เพื่อให้รถมีหลักอากาศพลศาสตร์ดีที่สุด เมื่อมันไม่ได้ใช้บรรทุก
แถมความยาวกระบะก็ไม่ธรรมดา มันยาวถึง 2 เมตร มีความสามารถในการบรรทุกของได้ทั้งสิ้น 2,831 ลิตร
3.ทนถึก
กระบะต้องการใช้งานได้ทนทาน Tesla จึงออกแบบให้รถกระบะของพวกเขามีความทนทานมหาศาล เริ่มจากโครงสร้าง Exoskeleton ที่มีความทนทานมาก มันพัมนามาจากสแตนเลส มีความแข็งแรงมากกว่า 30 เท่า เรียกว่าไม่พังกันง่ายๆ โดยเฉพาะถ้าเกิดขับไปชนอะไรก็ตาม อาทิ ต้นไม้
นอกจากนี้ยังออกแบบให้มันมีลักษณะเป็นรถหุ้มเกราะกลายๆ ด้วย Tesla Armor Glass ซึ่งมีการเปิดเผยว่าจะป้องกันการแตกได้ แม้ว่าตอนเปิดตัว อีลอน จะหน้าแตกเมื่อกระจกรถเกิดร้าวและเสียหายได้ก็ตามที
4.Tesla CyberTruck แรงดั่งใจ
เทสล่าตั้งใจวางขาย Tesla Cyber Truck เอาไว้ 3 รุ่น
- รุ่นเริ่มต้น เป็นรุ่นมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง มีความสามารถในการลากจูง 7,500 ปอนด์ ให้อัตราเร่ง 0-96 ก.ม./ช.ม. ใน 6.5 วินาที สามารถเดินทางได้ 400 ก.ม. ต่อการชาร์จ ราคาขาย 39,000 ดอล่าร์ หรือ ราวๆ 1.2 ล้านบาท
- รุ่นกลาง พัฒนาเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มีความสามารถในการขับเคลื่อนสี่ล้อ ตัวรถสามารถเร่ง 0-96 ก.ม./ช.ม. ได้ใน 4.5 วินาที มีความสามารถในการลางจูง 10,000 ปอนด์ เดินทางได้ 480 ก.ม. ต่อการชาร์จ ราคาขาย 49,900 ดอลล่าร์ หรือ ประมาณ 1.5 ล้านบาท
- รุ่นท๊อปสุด จะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว รุ่นนี้จึงถูกเรียกว่า Tri Motor สร้างความฮือฮาตั้งแต่เปิดตัวด้วยอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./.ช.ม. เท่า Porsche 911 0-96 ก.ม./ช.ม. ในเวลา 2.9 วินาที สามารถทำอัตราเร่ง 0-400 เมตร ได้ใน 10.8 วินาทีเท่านั้น เทียบเท่าความสามารถเดียวกับ Dodge Charger Hellcat มันสามารถเดินทางได้ 500 ไมล์ต่อการชาร์จ หรือ ราวๆ 800 กิโลเมตร เรื่องความเร็วสูงสุดทำได้ 209 ก.ม./ช.ม. เลยทีเดียว
5.ออฟโรดก็โดนใจ
รถกระบะหลายคนคงชอบใช้มันในการลุยทางป่าเขาลำเนาไรในวันว่า ง Tesla เข้าใจในเรื่องนี้ และตั้งใจทำรถออกมาให้พร้อมบุกตะลุยด้วย
Tesla Cyber Truck มีความสามารถในการลุยไม่ธรรมดา มันมีมุมไต่มากถึง 35 องศา และ มุมจาก 28 องศา รวมถึงยังมีระยะความสูงจากพ้นถึงจุดต่ำสุดใต้ท้องรถ สูงถึง 16 นิ้ว หรือ ประมาณ 406 มม. ซึ่งถือว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับกระบะปกติทั่วไป
ตลอดจนทาง เทสล่า ยังเผยว่า รถจะมาพร้อมระบบ Adaptive Suspension ซึ่งสามารถปรับตัวเองได้ในระหว่างการขับขี่ รวมถึงพร้อมเมื่อบุกตะลุย
นอกจากนี้ ตัวรถยังมาพร้อมความสามารถในการ Discharge หรือ ปล่อยประจุมาใช้งานอื่นๆ อาทิ ให้พลังเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่จำเป็นในระหว่างที่คุณตั้งแคมป์ในป่า นับว่าดีมากๆ
รวมถึงฝาท้ายกระบะยังติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ สามารถชาร์จไฟเข้าแบตเตอร์รี่ ให้การขับขี่สูงสุดได้ 15 ไมล์ ทางเทสล่าร์ยังมีแนวคิดอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าเสริมด้วยแสงอาทิตย์แบบพกพา สามารถให้พลังงานได้ วันละ 50 ไมล์ หรือ ราวๆ 80 กิโลเมตรโดยประมาณ
Tesla Cybertruck มีกำหนดการวางขายในปี 2021 โดยรายละเอียดเพิ่มเติมของรถจะมีการประกาศต่อไป