เวลาจะหารถกระบะซักคันบางคนอาจชอบฟังก์ชั่นการใช้งาน หรือไม่ก็ราคาที่ไม่แพงจนเกินไปนัก  แต่สำหรับคนกลุ่มนึงอาจต้องการรถที่พร้อมลุย ขับเคลื่อนไปได้ทุกที่  ราคาสมเหตุสมผล  กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ ประเภทแคป ซึ่งทุกวันนี้มีน้อยมากในตลาดปัจจุบัน และวันนี้ เราจะมาสำรวจกันว่า ยังมีรุ่นไหนที่วางจำหน่ายอยู่บ้าง

Isuzu V-cross 3.0 DDi Z 2 Door

อิซูซุผู้นำตลาดกระบะปัจจุบัน ยังคงเป็นบริษัทที่มีตัวเลือกให้กับลูกค้ามากมาย ในรุ่น V-cross (ชื่อรุ่นสำหรับขับเคลื่อน 4 ล้อ) หนนี้ยังมีรุ่น กระบะ CAB  ขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นตัวเริ่มต้นเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า ดีไซน์ภายนอก เหมือนกับ V-cross รุ่นพี่ ให้ไฟหน้า Bi-LED และมัลติฟังก์ชั่นเดย์ไลท์ กระจังหน้าเป็นโครเมี่ยม พร้อมไฟท้าย Dual sonic LED ให้ความสวยงามและหล่อเหลา ภายในได้หน้าจอ Smart MID ขนาด 4.2 นิ้ว ให้เครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เบาะนั่งใช้วัสดุกึ่งหนังแท้สีดำ ระบบกุญแจเป็นแบบรีโมท

ทางด้านเครื่องยนต์ ติดตั้งขุมพลังดีเซลขนาด 3.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 190 แรงม้า สูงสุดที่กำลัง 3,600 รอบ / นาที ทำแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1600 – 2000 รอบ / นาที จับคู่มากับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการลุย และยังครบครันด้วยระบบความปลอดภัยหลายรายการ ได้แก่ ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ , ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว รวมถึง ยังมีระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน

รถรุ่นนี้สนนราคาจำหน่ายที่ 852,000 บาท และสามารถเลือกได้ทั้งหมด 4 สีในตระกูล V-cross ยกเว้นสีน้ำเงิน

Ford Ranger

กระบะพันธ์แกร่ง สำนักอเมริกัน ระยะหลังหันมาทำรถเอาใจลูกค้ามากขึ้น เปิดไลน์อัพใหม่  เพื่อพยายามเข้าถึงตลาดใช้รถเพื่อทำงาน ตระกูล CAB ของรถรุ่นนี้ใช้ชื่อว่า Open cab สามารถเปิดใช้งานได้ เป็นรายแรกๆของประเทศไทย

Ford ranger open cab 2.2 XLT 4×4 6 MT

เรามาดูกันที่รุ่นเพื่อการใช้งาน ตัวรถรุ่นนี้ออกแบบมาให้ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร รุ่นเดิม มันให้กำลัง 160 แรงม้า สูงสุดที่ 3200 รอบ / นาที และให้แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1600 – 2600 รอบ / นาที ถ้ามองให้ดีจะเห็นได้ว่า เป็นเวอร์ชั่นที่ในอดีตไม่เคยมีมาก่อน

โดยตัวเรือนร่างรถก็เฉกเช่นฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นแคปทั่วไป ช่วงล่างถูกยกสูงจนมีระยะต่ำสุดจากพื้น ถึงจุดต่ำสุดของรถ 230 มม. ลุยน้ำได้ 800 มม. ติดตั้งล้อขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 265/65/17 ซึ่งก็ไม่ได้หวือหวามากนัก

ด้านภายในห้องโดยสารเน้นความเรียบง่าย ด้วยเบาะนั่งคนขับปรับ 4 ทิศทาง พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง มีระบบ Cruise control มาให้ หน้าจอเรือนไมล์เป็นปกติ มีจอสีขนาด 4.2 นิ้วให้มาเพิ่มเติม ซึ่งโดยรวมแล้วรถรุ่นนี้ ก็เน้นสำหรับการใช้งานที่มีความสมบุกสมบันซักหน่อยก็เท่านั้น

สนนราคาจำหน่ายรถรุ่นนี้อยู่ที่ 804,000 บาท

Ford ranger open cab 2.0 Turbo Limited 4×4 6MT

ถ้ารุ่นเริ่มต้นของกระบะแคปพร้อมลุย ฟอร์ดเรนเจอร์ยังไม่ถูกใจคุณ ค่ายวงรีสีน้ำเงินก็ยังมีรุ่นออฟชั่นมากกว่ามาให้เลือก

ตัวรถภาพรวมก็และจะคล้ายๆกับรุ่นเริ่มต้น แตกต่างที่ชุดล้อ มีขนาดใหญ่กว่า เป็นขอบ 18 นิ้ว มาพร้อมยางขนาด 265/60/R18

แถมเครื่องยนต์ยังเป็นขุมพลังรุ่นใหม่ ดีเซล 2.0 ลิตร 4สูบ พร้อมระบบเทอร์โบ VG อินเตอร์คูลเลอร์ ทำกำลังสูงสุดเพิ่มเป็น 180 แรงม้า ที่ 3500 รอบ / นาที และทำแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 1750 – 2500 รอบ / นาที ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด

ในเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานมีความแตกต่างจากรุ่นเริ่มต้นเล็กน้อย มันพกกล้องมองถอยหลัง , ระบบควบคุมเสถียรกาพการทรงตัว และ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีมาด้วย ส่วนของเล่นสำหรับสายออฟโรด อย่างระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HLA) และระบบลดความเสี่ยงจากความพลิกคว่ำ และระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขาก็ถูกติดตั้งเพิ่มเติมมาในรุ่นนี้

ถ้าเปรียบเทียบกับรุ่นเริ่มต้น รถรุ่นนี้จะมีราคาแพงกว่าประมาณ 85,000 บาท มีราคาขายอยู่ที่ 889,000 บาท

Toyota Hilux Revo

ค่ายผู้นำตลาดโตโยต้า เป็นบริษัทที่มีรถกระบะทุกประเภทตอบโจทย์ลูกค้า  Toyota Hilux Revo  เป็นรถเพียงไม่กี่รุ่นที่มีรุ่น กระบะ cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นทางเลือกสายลุยงบน้อย

Toyota Revo 4×4 2.4 E Plus

เริ่มต้นกันที่รุ่นพื้นฐาน สำหรับคนมองหารถใช้งาน   Toyota Revo 2.4 E Plus 4×4  มันมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลัง 150 แรงม้า สูงสุดที่ 3,400 รอบต่อนาที ตอบแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร สูงสุด ที่ 1,600-2,000 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนด้วยเกียรืธรรมดา 6 จังหวะ พร้อมเฟืองทย้ายดืล็อค พร้อมลุยด้วยระยะต่ำสุดจากพื้นถึงท้องรถ  216 มม.

ในแง่ตัวรถให้รายละเอียดด้วย ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางแบบ  All Terrain   ขนาด 265/65/R17 มันมาพร้อมไฟหน้า  LED   และ ไฟ Day Time Running Light รวมถึงไฟตัดหมอก LED

ภายในเบาะนั่งตัดเย็บด้วยผ้าคุณภาพสูง สีดำ ระบบปรับอากาศมือหมุนพื้นฐาน เครื่องเสียงจอสัมผัส พร้อมระบบ  T Connect  ส่วนเรือนไมล์เป็นเข็มปกติ พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่

รุ่นนี้ราคาขายอยู่ที่ 830,000 บาท

Toyota Hilux Revo 4×4 2.8 G -2.8 G Rocco

โดยรวมรถรุ่นนี้ออพชั่นคล้ายตัวรุ่นเริ่มต้น แต่มีการอัพเกรดในบางส่วน และหีวใจสำคัญ คือระบบขับเคลื่อนสามารถตอบสนองการขับขี่ได้ดีกว่ารุ่นเริ่มต้น

ในรุ่นนี้เครื่องยนต์ดีเซล ถูกอัพเกรดขึ้นมาเป็น 2.8 ลิตร ให้กำลัง 177 แรงม้าทำแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตรแถมระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ยังได้รับบ   Rev Matching  หรือ   iMT  เข้ามาตอบโจทย์ช่วยในการขับขี่อีกต่างหาก

รายละเอียดการตบแต่งภายนอก-ภายในเหมือนกับ รุ่นเริ่มต้น ไม่ผิดเพี้ยน  มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเพิ่มเติม อาทิเรือนไมล์เป็นแบบเรืองแสง และจอแสดงข้อมูลตรงกลางเป็นจอสี แบบ  TFT

ส่วนใครที่ต้องการรุ่นแต่งเสร็จจากโรงงานก็มีเวอร์ชั่น   Rocco   ให้เลือกคบหาด้วย ตัวรถแต่งดุดขึ้น เปลี่ยนกระจังหน้า ขยายล้อเป็นขอบ 18 นิ้ว ติด สปอร์ตบาร์พร้อมลายสติกเกอร์ พร้อมการตบแต่งซุ้มล้อ และชุดกันชนหลังใหม่

Toyota Hilux Revo 2.8 G  สนน ราคาขายที่ 909,000 บาท

Toyota Hilux Revo 2.8 G Rocco  สนนราคาขายที่ 953,000 บาท

เปรียบเทียบใครคุ้ม

จากการสำรวจข้อมูลของเราพบว่า   Mitsubishi  Chevrolet  และ  Nissan ไม่มีไลน์อัพ กระบะแคปขับเคลื่อนสี่ล้อ และรถกลุ่มนี้เหมือนจะแบ่ง 2 กลุ่มหลัก คือ เกิดมาเพื่อใช้งานจริงๆ และ สำหรับคคนใช้งานในวันว่าง
ในกลุ่มเพื่อใช้งานจริงๆ  Ford Ranger 2.2 XLT 4×4  จัดว่าน่าสนใจ ด้วยราคาถูกที่สุดในกลุ่ม แม้แรงบิดจะน้อยที่สุด แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานยิ่งเมื่อมาคิดว่าภาษีประจำปี ตลอดจนค่าดูลรักษา ก็ถือว่าต่ำที่สุดในคลาส จนเรียกว่า เป็นรถที่เหมาะในการทำธุรกิจ จริงๆ

ส่วนในกลุ่มสำหรับไลฟ์สไตล์ ที่มีราคา 8 แสนกว่าบาทกลางๆ ขึ้นมา ถ้าเอาสมรรถนะครบเครื่องคุ้มสุด คงต้อง  Isuzu D Max V-Cross 4×4 ด้วยทั้งงานออกแบบที่เข้าท่าและเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร มีการอัพเกรดใหม่ จนมีกำลังมากที่สุดในกลุ่ม 190 แรงม้า และให้แรงบิด 450 นิวตันเมตร

รองลงมาเป็น   Ford Ranger 2.0 Limited 4×4  รุ่นนี้มีการตบแต่งลงตัว และเครื่องยนต์ใหม่ก็ทรงพลังใช้ได้ เรื่องสมรรถนะการลุยก็หายห่วง  ราคายังไม่ทะลุ 9 แสนบาท แต่ถ้าเอาแค้งครบจบๆ ก็ต้อง   Revo Rocco 2.8 G  เสร็จสรรพจากโรงงาน ก็ถือว่าคุ้มค่า เพาะได้ ล้อ 18 ยางลุย พร้อมกับเครื่องยนต์ครบเครื่อง

ปัจจุบันตลาด กระบะ cab ขับเคลื่อน 4 ล้อ เริ่มจางหายไปเนื่องจาก คนส่วนใหญ่ไม่นิยม รวมถึงบริษัทรถยนต์มองว่า รถกลุ่มนี้ออกมาเพื่อเชิงพาณิชย์ จึงแทนที่ด้วยหัวเดี่ยวขับี่ ที่มีราคาขายถูกกว่าและตอบสนองได้เหมือนๆ กัน
ยังไงถ้าใครจะซื้อหาก็ลองศึกษาข้อมูลให้ดี …รถกลุ่มนี้ราคาถูกไม่แพงและพร้อมตอบโจทย์ทุกสถานการณ์