ท่ามกลางความนิยมรถยนต์ไฟฟ้า การมาของค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ในนาม BYD ได้รับการจับตาอย่างมาก แม้ว่า BYD จะซุ่มในไทย มานานแรมปี ผ่านตัวแทนจำหน่าย ที่มีทั้งรถยนต์ทั่วไป และ รถเพื่อการพาณิชย์ แต่การเปิดตัวแบรนด์อีกครั้ง ภายใต้การดันกลุ่มพรประภา เข้ามาเป็นหัวหอกในการทำตลาด ก็ได้รับความสนใจ เรียกกระแสได้ไม่น้อยเช่นกัน

BYD หรือ Build Your Dream เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า จากประเทศจีน ที่เข้ามาทำตลาดล่าสุด ก่อนอื่น BYD ประเทศไทย นั้น ได้ วางโครงสร้างตัวเองเป็นยี่ปั้ว หรือกล่าวคือ ส่งมอบรถให้กับ ทางบริษัท ผู้จัดจำหน่ายในประเทศไทย นั่นคือ Rever Automotive (เรเวอร์ ออโตโมทีฟ) ในการทำตลาดรถยนต์ให้กับแบรนด์

โดยทางบริษัท เรเวอร์นี่เอง ที่เป็นของตระกุลที่คร่ำวอดในวงการยานยนต์มายาวนาน ตระกูล พรประภา ที่เคยฝากผลงาน อย่างนิสสัน ในยุค นิสสันกลการ

การกลับมาทำแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า ในรุ่นนี้ ของคนรุ่นใหม่ จึงได้รับความสนใจไม่น้อย ถึงการกลับมาสู่ตลาดรถยนต์อีกครั้ง

เรเวอร์เอง จะถือสัญญาในการจัดจำหน่ายรถยนต์ BYD ในประเทศไทย 5 ปี และ จะมีการต่อสัญญาไปอย่างต่อเนื่อง ตามที่ทางผู้บริหารได้เปิดเผยกับทางเรา หรือ พูดง่ายๆ เรเวอร์ เป็นผู้นำรถมาขาย ซึ่งคล้ายกับ นิสสัน ในอดีตนั่นเอง

ตัวแทนจำหน่าย 32 แห่ง ปีนี้ 100 แห่งปีหน้า

ประการต่อมา เชื่อว่า ตั้งแต่ BYD ตกเป็นข่าว หลายคน คงจะnราบถึงผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาจำหน่าย นั่นคือ BYD Atto 3 นั่นเอง แต่นั่นไม่ใช่เรื่องเดียวที่หลายคน อยากทราบ เพราะ ซื้อรถ เรื่องบริการหลังการขายก็มีความสำคัญ

ในแผนงาน ของ เรเวอร์ ทางแบรนด์ จะเริ่มต้น ด้วยการเปิดตัว ผู้แทนจำหน่าย ทั้งสิ้น 32 แห่ง ทั่วประเทศไทย ในระยะแรก ในปีนี้

รายชื่อ ตัวแทนจำหน่าย BYD ในประเทศไทย ทั้งหมด ในปีนี้

ก่อน จะขยาย เป็น 100 แห่ง ภายในปี พ.ศ. 2566 หรือ มีอัตราเติมโต ราวๆ 200% นับจากปีแรก

โดยจาก รายชื่อ ผู้แทนจำหน่าย รถยนต์ทั้ง 32 แห่ง ที่เผยออกมา ในวันงานเปิดตัว จะพบว่า ทั้งหมด นั้นเป็นผู้จำหน่ายรายเดิม ที่มีอยุ่ในพื้นที่ ไม่ใช่ หน้าใหม่ เข้ามาทำตลาด แต่อย่างใด

นอกจากนี้ ศูนย์บริการ เป็นศูนย์แบบ 3S ทั้ง หมด เพื่อให้ บริการครวงจร ทั้งทางด้านการขาย การบริการ และ อะไหล่ซ่อมบำรุง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจ

ไม่ทำจุดชาร์จ เน้นขายอย่างเดียว

ช่วงที่ผ่านมา แบรนด์รถยนต์หลายยี่ห้อ ที่มีผลิตภัณฑ์ รถยนต์ไฟฟ้า ตัดสินใจจะสร้าง ระบบชาร์จไฟฟ้า หรือ จุดชาร์จของตัวเอง เพื่อ อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งาน

ในเรื่องนี้ ทางเรเวอร์ ออโต้โมทีฟ กล่าว อย่างชัดเจนว่า ทางบริษัท จะไม่สร้างจุดชาร์จเอง เหมือนแบรนด์อื่นๆ แต่จะใช้การจับมือกับพันธมิตร เพื่อให้ลูกค้าสะดวกในการใช้จุดชาร์จที่มีอยู่เดิม จากผู้ให้บริการ

หนึ่งในผู้บริหาร กล่าวว่า “เราเป็นผู้ขายรถ ไม่ใช่ ผู้ขายไฟฟ้า เป้าหมายของ้รา คือการนำเสนอ ผลิตภัณฑ์ ที่เหมาะสมกับเมืองไทย”

อย่างไรก็ดี , แม้ว่าจะไม่มีจุดชาร์จ เป็นของตัวเอง ทางแบรนด์ ก็ยืนยันว่า ที่ศูนย์บริการทุกแห่ง จะมีตู้ชาร์จให้บริการ แต่ไม่ได้ ทำเพื่อ เน้นการเป็นสถานีชาร์จ สำหรับผู้ใช้

พร้อมลุย 5,000 คัน แรก ส่งมอบปีนี้

ทางด้านการขาย ทางผู้บริการ ชี้ว่า ในปีนี้ ทางบริษัท จะพร้อมส่งมอบรถยนต์ จำนวน 5,000 คัน เข้าสู่ตลาดในประเทศไทย โดยในเวลานี้ รถได้มาถึงประเทศไทย เรียบร้อยแล้ว

การเปิดจองรถรุ่นนี้จะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ที่ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ทั้ง 32 แห่งที่เผยออกไป ในรูปแบบ การ Walk in เท่านั้น

โดยรถจะพร้อมส่งมอบทันที ที่ลูกค้าพร้อมรับรถ ซึ่งคาดว่า ปีนี้ น่าจะได้ยอดตามเป้าหมายดังกล่าว

ส่วนสาเหตุที่ไม่จองออนไลน์ เพื่อจะได้รู้จักลูกค้า และเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย ที่สนใจรถยนต์ไฟฟ้า

ในภาพรวม เรเวอร์ ออโต้โมทีฟ ค่อนข้างจะมีแผนการชัดเจน ในการวางจำหน่าย การบริการหลังการขาย แต่รถรุ่นนี้จะขายดีหรือไม่ ในเดือนหน้า เราคงจะได้ทราบกัน