แม้จะพึ่งปรับโฉมใหญ่ไปเพียงไม่นาน Yamaha MT-07 2023 กลับได้รับการอัพเดทสเป็คและออพชันใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ตัวรถยังคงทันสมัยอยู่เสมอ และที่สำคัญที่สุดคือเพื่อรับมือกับคู่แข่งที่พึ่งถูกเปิดตัวออกมาเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนอย่าง Honda Hornet 750 2023
หากมองเพียงผ่านตา Yamaha MT-07 2023 อาจจะดูเหมือนว่ามันไม่ได้มีความแตกต่างไปจากตัวรถรุ่นปีก่อนเท่าไหร่นัก เพราะทั้งไฟหน้าแบบโคมเดี่ยว ขนาบข้างด้วยแถบไฟ LED ให้อารมณ์ไซบอร์ก ชิ้นแฟริ่งกาบข้างที่ดูเฉียบคม และอื่นๆที่เป็นชิ้นแฟริ่งเปลือกนอกตั้งแต่หัวจรดท้ายล้วนยังคงเดิม
ไม่เพียงเท่านั้น แม้กระทั่งในส่วน ถังน้ำมันความจุ 14 ลิตร, ชุดเฟรมแบบโครงเหล็กถัก, ชุดระบบกันสะเทือนด้านหน้าโช้กตะเกียวคู่หัวตั้ง – ด้านหลังโช้กเดี่ยวปรับพรีโหลดได้ทำงานร่วมสวิงอาร์มแขนคู่พร้อมกลไกกระเดื่องทดแรง, ระบบเบรกด้านหน้าดิสก์คู่ขนาด 298 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับแอกเซียลเมาท์คาลิปเปอร์เบรก 4 พอท – ด้านหลัง ดิสก์เดี่ยวขนาด 245 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับโฟลทติ้งเมาท์คาลิปเปอร์เบรก 1 พอท, และชุดล้ออัลลอยด์ที่รัดด้วยยาง 120/70-17 กับ 180/55-17 ตามลำดับหน้าหลังก็ยังเหมือนเดิม
และถึงแม้คู่แข่งหน้าใหม่อย่าง Honda Hornet 750 จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่ากันถึง 65cc แล้วยังมีแรงม้ามากกว่ากันอีก 18 ตัว แต่ MT-07 รุ่นปีล่าสุด ก็ยังคงใช้เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง CP2 ความจุ 689cc ที่ให้กำลังสูงสุด 73.4 8,750 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดอีก 67 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด เท่าเดิม ยังไม่มีการปรับปรุงอัตราทดเกียร์ หรือเพิ่มชุดกลไกสลิปเปอร์คลัทช์มาให้ใดๆทั้งสิ้น
แม้แต่มิติตัวรถโดยรวมเองก็ยังคงเท่าเดิมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ความยาว 2,085 มิลลิเมตร, ความกว้าง 780 มิลลิเมตร, ความสูง 1,105 มิลลิเมตร, ความสูงเบาะ 805 มิลลิเมตร, ระยะฐานล้อ 1,400 มิลลิเมตร, ความสูงใต้ท้องรถ 140 มิลลิเมตร และน้ำหนักตัวรถรวมของเหลวอีก 184 กิโลกรัม ก็ล้วนคงเดิมทั้งหมด
แล้วจุดใดกัน คือส่วนที่มันถูกปรับเปลี่ยนไปจริงๆในเจ้า MT-07 คันนี้ ?
จุดแรกสุดที่ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของมันก็คือ ชุดหน้าจอมาตรวัดแบบใหม่ ที่ถูกเปลี่ยนจากจอ LCD หน้าตาดูเรียบง่าย ให้เป็นจอ TFT Full-Color ขนาด 5 นิ้ว ที่ไม่ใช่แค่สวยและทันสมัยยิ่งขึ้น แต่ยังรองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านสัญญาณบลูทูธเพื่อเข้าถึงการใช้งานระบบแจ้งเตือนสายเรียกเข้า, ข้อความ, และอื่นๆอีกมากมาย ผ่านแอพพลิเคชัน MyRide ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ เพื่อให้ลูกค้าสามารถสนุกสนานในการขับขี่ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น ในคราวนี้ทาง Yamaha ยังได้ทำการเพิ่มปลั๊กสำหรับติดตั้งระบบควิกชิฟท์เตอร์เสริมมาให้ตั้งแต่ออกโรงงาน โดยที่ลูกค้าจะได้ไม่ต้องไปดัดแปลงสายไฟให้เสียเวลา
ส่วนสองอย่างสุดท้ายที่ทางค่ายไม่ได้บอก แต่เราพอจะสังเกตได้ก็คือ ชุดไฟเลี้ยว LED ทั้งคู่หน้า และคู่หลังของมัน ได้ถูกเปลี่ยนใหม่ให้เป็นแบบที่สั้นลง และเนื่องจากหน้าจอมาตรวัดมีขนาดใหญ่ขึ้น แฮนด์บาร์ของมันจึงสูงขึ้นด้วย แต่มันจะมีผลถึงการใช้งานจริงแค่ไหน ก็ต้องรอการทดสอบรถตัวจริงกันต่อไป
โดยเบื้องต้น Yamaha MT-07 2023 ยังมีการเปิดตัวแค่เฉพาะในทวีปยุโรปเท่านั้น ณ ช่วงเวลานี้ ส่วนการเปิดตัวและวางจำหน่ายในไทย อย่างเร็วที่สุด ก็อาจจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนหน้า หรืออย่างช้าสุด ก็อาจจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปีหน้า หากนับตามรอบการวางจำหน่ายของ MT-07 ในช่วงขวบปีที่ผ่านมา