หลังปล่อยให้ชาวอินเดีย ได้สัมผัสกับรถ Suzuki Ertiga Hybrid กันไปแล้วตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ล่าสุดตอนนี้มันก็ได้ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วเรียบร้อยในบ้านเรา ที่งาน Motor Expo 2022
อย่างที่เราได้ระบไว้ในข้างต้น ว่า Suzuki Ertiga Hybrid ได้ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกไปก่อนหน้านี้มาแล้ว ที่ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ MPV ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งการปรับโฉมในครั้งนี้ทางค่ายระบุว่าเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ในระดับ “All-New” เลยทีเดียว
โดยสาเหตุสำคัญที่ทาง Suzuki เลือกระบุว่ามันคือรถรุ่นใหม่ระดับ All-New แท้จริงแล้วก็เป็นเพราะ ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่รถยนต์ตระกูล Ertiga จะมาพร้อมกับขุมกำลัง Hybrid ซึ่งหลักการทำงานที่แท้จริงของมัน ก็คือการให้มอเตอร์ Integrated Starter Generator หรือมอเตอร์ ISG ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่ามอเตอร์ไดชาร์จธรรมดา ให้สามารถช่วยเสริมกำลังเครื่องยนต์ในจังหวะที่ผู้ขับต้องการเร่งแซงได้ด้วย
ซึ่งมันจะทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ขนาด 6 Ah 12 Volt ที่มีหน้าที่ช่วยส่งกระแสไฟมาให้กับมอเตอร์ที่ว่าเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ไม่ได้ไปรบกวนกระแสไฟของแบตเตอรี่สำหรับเลี้ยงระบบไฟของตัวรถแต่อย่างใด และด้วยคุณสมบัติของตัวมอเตอร์ลูกนี้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงทำให้มันมาพร้อมกับฟังก์ชันระบบ Auto Start Stop เพื่ออัตราสิ้นเปลืองที่ดีกว่าเดิม และแน่นอนว่าต้องมีระบบสร้างกระแสไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ เมื่อผู้ขับเบรกชะลอรถใส่มาให้ด้วย
อย่างไรก็ดี เนื่องจากสุดท้ายแล้วลักษณะการทำงานของระบบไฮบริดที่ว่านี้ แท้จริงแล้วคือการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ในลักษณะระบบ Mild Hybrid เพื่อช่วยในยามเร่งแซงบางจังหวะเท่านั้น จึงทำให้ตัวเลขพละกำลังสูงสุดของขุมกำลังในภาพรวมที่ได้จากมอเตอร์ไฟฟ้า กับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง รหัส K15B ที่ติดรถมา ยังคงมีตัวเลขเท่าเดิม คือ 105 แรงม้า PS ที่ 6,000 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุดอีก 138 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และระบบขับเคลื่อนด้วยชุดล้อคู่หน้า
ส่วนงานตกแต่งภายในเอง ก็มีการเปลี่ยนโทนสีงานตกแต่งภายใน เป็นแบบสีดำ, แผงคอนโซลเปลี่ยนวัสดุเป็นพลาสติกสีเปียโนแบล็ค ไม่ใช่ลายไม้, ปรับรายละเอียดการแสดงผลของหน้าจอมาตรวัดใหม่ เพื่อให้เข้ากับฟังก์ชันการทำงานของตัวรถที่ถูกเพิ่มเข้ามา และหากเป็นรุ่น SS ก็จะได้ชิ้นส่วนตกแต่งลายคาร์บอน รวมถึงพวงมาลัยหุ้มหนัง และเบาะนั่งเดินตะเข็บด้ายสีแดง เพิ่มเข้าไปอีก
นอกนั้นในส่วนรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆของตัวรถ ก็เรียกได้ว่าแทบจะเหมือนกันกับตัวรถ Ertiga รุ่นเครื่องยนต์ปกติแทบทั้งหมด ไม่เป็นแม้กระทั่งชิ้นส่วนและระบบความปลอดภัย ทั้ง โครงสร้างตัวถัง เทคโนโลยี HEARTECT, ระบบ Hill Hold Control, ระบบถุงลมนิรภัย 2 จุด Dual SRS Airbags, ระบบกระขายแรงเบรก Electronic Brake Force Distribution, ระบบควบรักษาการทรงตัว, และ ระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรก
แต่สิ่งที่ถูกเพิ่มขึ้นมาคือฟีเจอร์เสริมยิบย่อยอีกเล็กน้อย เช่น ระบบ ระบบ Cruise Control, กระจบข้างพับได้อัตโนมัติ, เสาอากาศแบบใหม่, และ ระบบกุญแจ Smart Key เป็นต้น
ทั้งนี้ สำหรับตัวรถ Suzuki Ertiga Hybrid ที่ถูกนำมาเปิดตัวในประเทศไทยของเรานั้น จะมีรุ่นย่อยให้เลือก 2 ระดับด้วยกัน ได้แก่
- Suzuki Ertiga Hybrid GL ราคา 783,000 บาท
- Suzuki Ertiga Hybrid GX ราคา 839,000 บาท
มีสีทั้งหมด 4 สีได้แก่ สีแดง (สีใหม่) Mellow Deep Red, สีขาว (Pearl Snow White) สีเทา (Metallic Magna Gray) และสีดำ (Cool Black Metallic) โดยตัวรถล็อตแรกที่พร้อมส่งมอบภายในไม่เกินสิ้นปีนี้ มีทั้งหมด 300 คัน