Kia AD

Home » เผยโฉม 2023 Ford GT Mk IV ตัวแข่งร่างอัลติเมทของตระกูล สุดลิมิเต็ด ราคา 59 ล้านบาท ไม่รวมภาษี

Kia AD

รถใหม่ รถใหม่ต่างประเทศ

เผยโฉม 2023 Ford GT Mk IV ตัวแข่งร่างอัลติเมทของตระกูล สุดลิมิเต็ด ราคา 59 ล้านบาท ไม่รวมภาษี

แม้จะมีการเผยโฉมสั่งลา Ford GT LM Edition ไปแล้วเมื่อไม่กี่เดือนก่อน แต่ดูเหมือนตอนนี้ทาง Ford จะยังไม่จบกับตัวรถรุ่นนี้ ด้วยการเผยโฉม 2023 Ford GT Mk IV ตัวแข่งร่างอัลติเมทของตระกูลสุดลิมิเต็ด เพียง 67 คันบนโลกออกมา

2023 Ford GT Mk IV ถูกสร้างขึ้น เพื่อรำลึกถึงเจ้าตำนานในอดีตของรถซุปเปอร์คาร์ตระกูลนี้ อย่าง Ford GT40 Mk IV รุ่นปี 1967 ที่ทางค่ายได้ทำการส่งมันไปร่วมลงแข่งขันในศึก Le Mans 24 Hours ที่ประเทศฝรั่งเศส แล้วสามารถคว้าแชมป์กลับบ้านในสหรัฐอเมริกาได้อีกครั้ง หลังจากที่พวกเขาเคยคว้าชัยชนะในรายการนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปีก่อน ในปี 1966 ด้วยรถ GT40 Mk II (เหตุการณ์ในภาพยนต์เรื่อง Ford vs Ferrari)

และด้วยเหตุผลในข้างต้น จึงทำให้ไม่น่าแปลกใจนัก ที่เจ้า Ford GT รุ่นพิเศษคันนี้ จะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มันเป็นตัวแข่งสำหรับลงสนามโดยเฉพาะ ชนิดที่ว่าหมดสิทธิ์เอาไปวิ่งบนถนนสาธารณะเด็ดขาด ถ้าไม่ได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไว้ก่อน

ดังนั้น สิ่งที่เราจะเห็นได้ทันทีจากภายนอกของตัวรถรุ่นนี้ ก็คือการที่ มันมาพร้อมกับเปลือกนอกรอบคันงานคาร์บอน ที่ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อให้มันเหมาะสมที่สุดสำหรับการถูกนำไปใช้วิ่งในสนาม ทั้งชุดฝาครอบหน้ารถ พร้อมช่องรีดอากาศตรงกลาง โดยที่ถัดลงมานิด จะเจอกับช่องดักอากาศแบบ NACA Duct และเลื่อนลงไปอีก ก็จะพบกับช่องดักอากาศขนาดใหญ่สำหรับเอาลมไปเป่าหม้อน้ำ ขนาบข้างด้วยครีบคาร์นาร์ด และลิปสปอยเลอร์ชิ้นโตสำหรับลดอากาศที่อาจไหลเวียนเข้าสู่ใต้ท้องรถ

ไม่เพียงเท่านั้น ในฝั่งซุ้มล้อ นอกจากการถูกตีโป่งออกมาจากแนวตัวถังรถมากกว่าปกติ ช่วงครึ่งหลังของมัน ยังถูกเปิดว่างเอาไว้ เพื่อการระบายความร้อนของหน้ายาง และการระบายลมออกจากใต้ท้องรถทางด้านหน้า แม้แต่เส้นขอบประตูเอง ยังถูกดึงออกมา ให้ต่อเป็นแนวเดียวกับขอบซุ้มล้อ ทั้งนี้ก็เพื่อที่ทางวิศวกรผู้ออกแบบจะได้สามาารถใส่สเกิร์ตข้างตัวรถ ที่มีครีบรีดอากาศหลังซุ้มล้อชิ้นโตเข้าไปได้

แม้แต่ช่องดังลมหน้าซุ้มล้อทางด้านหลัง สำหรับเป่าหม้อน้ำอีกชุดเอง ยังมีความกว้างและใหญ่ขึ้นมากเมื่อเทียบกับตัวรถร่างปกติเพราะในคราวนี้ มันได้ถูกเปิดกว้างไปตามแนวตั้งของชุดล้อเลยทีเดียว

ที่โดดเด่นไม่แพ้กัน ก็คือมุมมองทางด้านหลังของตัวรถ ที่แทบจะไม่มีอะไรเหมือนเดิมเลย นอกจากตำแหน่งและโคมไฟท้ายทรงโดนัท กับตำแหน่งของท่อไอเสียออกคู่ตรงกลาง ซึ่งตัวท่อไอเสียที่ว่า ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นแบบท่อกลมทรงเรียบๆ แต่ดูก็รู้ในทันทีว่ามันมาพร้อมกับสุ้มเสียงที่ดุดันแน่นอน

และหากมองไปที่รายละเอียดโดยรอบเพิ่มเติม เราก็จะเห็นอีกว่า ชิ้นงานบอดี้พาร์ทท้ายรถของมัน ก็ถูกออกแบบโดยเน้นหนักในเรื่องหลักอากาศพลศาสตร์ไม่แพ้ด้านหน้าตัวรถ ทั้งซุ้มล้อครึ่งหลัง ที่ถูกออกแบบให้มีครีบยาวปิดแนวกรอบไฟท้าย, ชุดดิฟฟิวเซอร์หลังขนาดมหึมา เช่นเดียวกับสปอยเลอร์หลังทรง GT ชิ้นเบิ้ม และตัวฝาครอบเครื่องยนต์ที่มีการทำช่องรีดอากาศระบายความร้อนเอาไว้ด้านข้าง และด้านบนก็มีสคูปดักอากาศเข้าสู่หม้อกรองเช่นกัน

ในส่วนรายละเอียดทางเทคนิคของตัวรถ ทาง Ford Performance ที่รับผิดชอบในโปรเจ็กท์ของรถคันนี้โดยตรง ไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเอาไว้มากเท่าไหร่นัก นอกจากการระบุเพียงคร่าวๆว่า เครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร เทอร์โบคู่ ของมัน จะได้รับการปรับปรุงใหม่ จนสามารถทำแรงม้าได้มากขึ้นมาอยู่ที่ราวๆ 800 ตัว

ระบบกันสะเทือนก็ถูกปรับเซ็ทใหม่ และยังใส่ระบบ Adaptive Spool Valve (ASV) โดย Multimatic เข้าไปอีก เพื่อการควบคุมตัวรถที่หนึบหนับบนผิวแทร็คที่สุด เช่นเดียวกับชุดล้อพร้อมแผ่นปิดดูดอากาศออกจากซุ้มล้อ ที่รัดด้วยยางสลิกขนาดใหญ่ กับระยะฐานล้อที่ยาวขึ้นก็ด้วย

และอย่างที่เราได้ระบุไว้ในข้างต้น ว่า Ford GT Mk IV รุ่นนี้ จะถูกผลิตขึ้นมาเพียง 67 คันบนโลกเท่านั้น โดยทางค่ายได้เปิดเผยว่า การจับจองตัวรถ จะไม่ได้เป็นการจับจองแบบตามคิว แต่เป็นการคัดเลือกคุณสมบัติ ว่าลูกค้าคนไหน เหมาะที่จะครอบครองตัวแข่งสุดพิเศษมากที่สุดต่างหาก

ซึ่งการประกาศชื่อลูกค้าผู้โชคดีทั้ง 63 คน ก็จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า ก่อนที่จะผลิตรถส่งมอบจริงๆในช่วงกลางปี (ส่วนรถอีก 4 คัน ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่มีการประกาศชื่อเจ้าของ แต่เป็นไปได้ว่าทาง Ford อาจเก็บไว้เอง เพื่อเอาไว้ลงแข่ง หรือเข้าพิพิธภัณฑ์ และจัดแสดงในงานโชว์ต่างๆของตน)

และนอกจากคุณสมบัติเจ้าของที่ต้องเพรียบพร้อมแล้ว คุณยังจะต้องเตรียมเงินสำหรับครอบครองมันเอาไว้ด้วย ที่ 1.7 ล้าน ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 59 ล้านบาท ซึ่งนี่เป็นราคาที่ยังไม่รวมภาษี และค่าดำเนินการขนส่งต่างๆใดๆทั้งสิ้น

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.