ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่า ในงาน Motor Expo 2022 ที่ผ่านมา ทั้ง Toyota GR Corolla และ Honda Civic Type R ต่างก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากชาวไทยที่เข้าร่วมงานกันไปอย่างล้นหลาม จนเกิดเป็นคำถามว่า ถ้าว่ากันที่สมรรถนะแล้วคันไหนมันจะแน่กว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกมันต้องมาวิ่งแข่งเข้าเส้นด้วยกัน ?
หากอิงตามรายละเอียดทางเทคนิคที่ผู้ผลิตให้เอาไว้ ตัวรถ Toyota GR Corolla จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบเรียง เทอร์โบ ขนาดความจุ 1.6 ลิตร ที่ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 303 PS (300 HP) กับแรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ในรุ่นเริ่มต้น หรือ 400 นิวตันเมตร ในรุ่นพิเศษ Morizo Edition ที่วางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา และส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ไปยังชุดล้อทั้งสี่แบบ AWD
ส่วน Honda Civic Type R แม้จะยังคงยึดมั่นด้วยระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า แต่ด้วยขุมกำลังที่มีทั้งจำนวนลูกสูบมากกว่า และความจุใหญ่กว่า นั่นคือเป็นบล็อค 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบ จึงทำให้ขุมกำลังลูกนี้สามารถเค้นแรงม้าสูงสุดได้มากกว่าที่ 320 PS (315 HP) กับแรงบิดสูงสุดอีก 422 นิวตันเมตร (สเป็คประเทศสหรัฐอเมริกา) ซึ่งก็มากกว่าเช่นกัน แต่ยังคงส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ตามฉบับขาซิ่ง
อีกสิ่งหนึ่งที่มีผลต่อการออกตัวไม่แพ้ขุมกำลังก็คือน้ำหนักตัวรถ ซึ่งหากเป็น GR Corolla ที่ถูกนำมาทดสอบโดยช่อง Throttle House ครั้งนี้ ที่เป็นตัวรถรุ่นพิเศษ Morizo Edition ก็จะมีน้ำหนักตัวที่เบาเป็นพิเศษ เพียง 1,445 กิโลกรัม (จากเดิมในตัวปกติมีน้ำหนัก 1,475 กิโลกรัม) แต่แม้ว่า Civic Type R จะไม่ได้มีชิ้นส่วนไล่เบาถูกใส่เข้าไปมากเท่ากับคู่แข่ง ทว่าด้วยความเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า ที่มีขนาดตัวไม่หนีกัน จึงทำให้มันมีน้ำหนักตัวที่ไม่ต่างกันนัก ด้วยตัวเลข 1,446 กิโลกรัม
และจากคลิปการทดสอบที่เราแนบเอาไว้ ทางสองหนุ่มที่รับหน้าที่เป็นทั้งพิธีกร และเป็นผู้ทดสอบครั้งนี้ ก็จะทำการทดสอบรถทั้งสองรุ่น ทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน นั่นคือแบบออกตัวจากหยุดนิ่งเพื่อให้เห็นถึงความรวดเร็วและแรงยึดเกาะในการออกตัวของรถอย่างเต็มที่ และออกตัวขณะรถกำลังเคลื่อนที่เพื่อลดความได้เปรียบเสียเปรียบในเรื่องระบบขับเคลื่อน และวัดกันที่การทำงานของเครื่องยนต์โดยตรง
แต่ต้องบอกก่อนว่าน่าเสียดายที่การทดสอบครั้งนี้ทางสื่อฯต้นทางไม่ได้มีการเปิดเผยว่าพวกเขาทดสอบรถแข่งวิ่งเข้าเส้นด้วยระยะทางเท่าใด แต่หากกะระยะโดยสายตาแล้ว คาดว่าจะอยู่ในระยะ 1/4 ไมล์ หรือ 402 เมตร ตามมาตรฐานพอดิบพอดี
โดยในส่วนของการทดสอบแรก จะเห็นได้ว่า ทันทีที่ได้สัญญาณ ฝั่ง GR Corolla สามารถกระโดดออกจากจุดสตาร์ทได้อย่างฉับไว ตามฉบับของรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ และทิ้งห่าง Civic Type R ไปราวๆ 1-2 ช่วงคันแทบจะทันที แต่หลังจากผ่านไปได้ครึ่งทาง ฝ่ายหลังที่มีพละกำลังเครื่องยนต์มากกว่ากลับสามารถไล่บี้ทอนระยะเข้ามาเรื่อยๆอย่างเห็นได้ชัด ทว่าก็ยังไม่ทันที่จะไปอยู่ในแนวกันชนท้ายของคันหน้าในท้ายที่สุดอยู่ดี
ขณะที่การทดสอบรอบที่สอง คราวนี้จะเห็นได้ว่าปัญหาในเรื่องการยึดเกาะพื้นถนนได้หายไปแทบจะสิ้นเชิง เพราะแม้ GR Corolla จะทำท่าดูเหมือนขึ้นนำได้ ในจังหวะให้สัญญาณเริ่มต้น แต่ก็นำไปได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น ก่อนที่ในจังหวะเกียร์ถัดมา (ซึ่งคาดว่าจะเป็นจังหวะขยับขึ้นเกียร์ 3) ฝั่ง Civic Type R จะเริ่มสามารถไต่ความเร็วได้ต่อเนื่องกว่า และกลายเป็นฝ่ายที่สามารถขึ้นนำและทิ้งห่างได้ในระยะที่ไม่หนีกันจากรอบแรกได้เมื่อเข้าเส้นชัยในท้ายที่สุด
ในตอนปิดท้ายคลิป ทางสื่อต้นทาง ยังได้มีการเผยให้เห็นตัวเลขสถิติเวลาต่อรอบในสนามทดสอบ(ซึ่งไม่ได้บอกว่าเป็นที่ใด) ของรถทั้งสองคัน เทียบกับรถคันอื่นๆที่พวกเขาเคยทดสอบมาเอาไว้ด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่า ท้ายที่สุดแล้ว Honda Civic Type R ยังคงเป็นรถแฮชท์แบ็กที่เร็วที่สุดในการทดสอบของสื่อนี้อยู่ดี โดยมันสามารถทำเวลาทิ้งห่าง Toyota GR Corolla ได้มากถึง 1 วินาทีกว่าๆเลยทีเดียว (แต่รุ่นรถที่ใช้ทดสอบของฝ่ายหลังนั้น คือรถ Circuit Edition ที่ไม่ได้มีออพชันเท่ากับตัวรถ Morizo Edition ที่ถูกนำมาทดสอบวิ่งเข้าเส้นในครั้งนี้)