เผยหน้าตาความเท่ของ Toyota Prius เจนที่ 5 ใหม่หมดจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมแต่ยังคงเป็นเก๋งลูกผสมยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นและทั่วโลก
และ Toyota เปิดขายเป็นที่เรียบร้อยแล้วช่วงแรกจะจำหน่ายรุ่น Hybrid หรือ HEV ก่อนหน้าตาหล่อเหลาเอาเรื่องด้วยไฟหน้า LED รูปตัว C พร้อมไฟ DRL แบบ LED ในโคมเดียวกัน ล้อมรอบด้วยชุดกรอบไฟหน้าแปะตราโลโก้สามห่วงกลมกลืนกับชุดฝากระโปรงหน้าชุดกันชนหน้าออกแบบลงตัว
ด้านหลังมาในแบบไฟท้าย LED พาดเต็ม รูปตัว A โดยไส้ในของชุดไฟท้ายออกแบบมาเป็นแนวเรียวยาว พร้อมตราชื่อรุ่น Prius ติดเว้นช่องไฟดูสวยงามขึ้น รับกับชุดกันชนท้าย ตกแต่งกรอบป้ายทะเบียนสีดำตัวใหญ่ ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 19 นิ้ว กับขนาด 17 นิ้ว หลังคารถลาดลงขึ้นกว่าเดิมแถมที่เปิดประตูในส่วนผู้โดยสารตอนหลังออกแบบให้ที่จับติดกระจกเสา C
ภายในมีแผงคอนโซลหน้าพร้อมจอสัมผัสระบบความบันเทิงขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว มาตรวัดดิจิทัล TFT LCD อยู่ตำแหน่งเดียวกับ Head-Up Display ขนาด 7 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน พร้อมเบาะนั่งดีไซน์ทรงสปอร์ต เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 ปรับเอนได้หนึ่งระดับหุ้มวัสดุหนัง มีไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light มาให้ หลังคาพาโนรามิกคู่แบบตายตัว เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ Dual Zone ที่ชารจ์มือถือไร้สาย wireless charger
ขุมพลัง Hybrid มีสองแบบเริ่มที่เบนซินดั้งเดิม 1.8 ลิตร 2ZR-FXE พัฒนาใหม่ให้มีเรี่ยวแรงมากขึ้น 98 แรงม้า แรงบิด 142 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบ/นาที ภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ล้อหน้ารุ่น 1VM 95 แรงม้า แรงบิด 185 นิวตันเมตร และหลังสำหรับรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four รุ่น 1WM 41 แรงม้า แรงบิด 84 นิวตันเมตร ได้แรงม้ารวม 140 แรงม้า
เบนซินใหม่ Dynamic Force Hybrid 2.0 ลิตร M20A-FXS 151 แรงม้าแรงบิด 190 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า กำลัง 109 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตรและ มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังให้กำลังมากถึง 41 แรงม้า ในรุ่น E-Four พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน โดยทำงานร่วมกันให้พลังมากสุด 196 แรงม้า ทุกขนาดจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four พร้อมช่วงล่างอิสระสี่ล้อทั้ง แมคเฟอร์สันสตรัทหน้าและหลังแบบดับเบิลวิชโบนและความปลอดภัย Toyota Safety Sense และ Toyota Teammate รวมถึง Advanced Park
Toyota Prius เจเนอเรชันที่ 5 จำหน่ายรุ่น Hybrid 1.8 U, 2.0 Z และ 2.0 G ในราคาเริ่มต้น 2,750,000-3,920,000 Yen หรือราว 705,000-1,005,000 บาท ส่วนรุ่น Plug In Hybrid ขายจริงมีนาคม
