นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว เราก็ได้ยินข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับข้อเสนอการลดสัดส่วนผู้ถือหุ้นของ Renault ต่อ Nissan อยู่เสมอๆ และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะได้ข้อสรุปกันแล้ว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นการประกาศข้อมูลเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาเท่านั้น ว่าหลังการหารือกันกว่า 3 เดือน ท้ายที่สุด ทาง Renault บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่สัญชาติฝรั่งเศส ก็ได้ตัดสินใจว่าตนตกลงที่จะถอนสัดส่วนการถือหุ้นของตนเองกับทาง Nissan ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น เหลือเพียง 15% เท่านั้น หลังจากนี้ จากเดิมที่ในปัจจุบันมันสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ถึง 43%

โดยหุ้นกว่า 28% ที่จะถูกถอนออกไปนั้น จะยังไม่ได้ถูกส่งคืนให้กับทาง Nissan โดยตรง แต่จะนำโอนไปอยู่ในการดูแลของกองทรัสต์ประเทศฝรั่งเศสก่อน จนกว่าจะมีผู้ที่ให้ความสนใจมาเคาะซื้อหุ้นสัดส่วนดังกล่าวไปในภายหลัง ซึ่งอาจเป็นทาง Nissan เองก็ได้ ที่อาจจะอยากซื้อหุ้นของตนเองกลับมาเมื่อถึงเวลาอันสมควร เพียงแต่อาจจะไม่ใช่ทั้งหมดในคราวเดียว

และจากความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว นั่นจึงเท่ากับว่า หลังจากนี้ทาง Renault จะไม่มีอำนาจในการติดสินทิศทางในการบริหารบริษัทของทาง Nissan อีกต่อไปแล้ว จึงทำให้ฝ่ายหลัง สามารถจัดการบริหารบริษัทของตนเองได้อย่างมีอิสระมากขึ้น

แต่ทั้งนี้ทางฝั่งผู้ผลิตสัญชาติฝรั่งเศสเอง ก็อาจจะยังคงมีอำนาจในการโหวตทิศทางการบริหารบริษัท ในฐานะส่วนหนึ่งของบอร์ดบริหารอยู่ ซึ่งต้องว่ากันในเรื่องสัดส่วนการถือหุ้นกับผู้ถือหุ้นรายอื่นๆกันต่อไป

ทั้งนี้ ในส่วนของมูลค่าหุ้นที่ถูกถอนออกไปนั้น คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 4,100 ล้าน ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 134,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าทาง Renault จะนำเงินก้อนนี้ไปใช้ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ที่เป็นโปรเจ็กท์ใหญ่ของตนเองต่อไป โดยคาดว่าจะมีการสนับสนุนจากผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนอย่าง Geely และบริษัทเซมิคอนดักเตอร์เจ้าดังอย่าง Qualcomm Inc มาเป็นผู้ร่วมพัฒนาโปรเจ็กท์นี้ด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่ทาง Nissan เอง ก็ยังมีแผนที่จะนำเงินของตนเอง มาร่วมลงทุนในโปรเจ็กท์สร้างรถไฟฟ้าของ Renault เช่นกัน และมันอาจเป็นจำนวนเงินที่มากจนทำให้ผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นที่ว่านี้ สามารถออกสิทธิ์ ออกเสียง เพื่อโหวตทิศทางการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในโครงการนี้ได้เลยทีเดียว