ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้น มีหลายคนมองว่าทาง Toyota ทุ่มกำลังในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าน้อยเกินไป แต่มันอาจไม่ได้เป็นแบบนั้นอีกแล้ว หลังการประกาศพันธกิจใหม่ ของว่าที่ผู้บริหารป้ายแดง Koji Sato
“เพื่อส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าอันมีสเน่ห์ให้กับลูกค้าได้มากขึ้น, เราต้องทำให้โครงสร้าง(การพัฒนา)ของรถเป็นกระแสหลัก ด้วยแนวคิด ‘BEV-First’ (รถไฟฟ้าต้องมาก่อน)” Koji Sato กล่าวในวานแถลงข่าวกับสื่อครั้งล่าสุด ก่อนรับตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของ Toyota อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 1 เมษายน นี้ “เราต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินธุรกิจของเราอย่างยิ่งยวด, จากบริษัทผู้ผลิต เป็นบริษัทที่เน้นการขายและบริการ”
“ในตอนนี้ มันถึงเวลาที่ควรแล้ว, เราจะเร่งการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าด้วยกลยุทธใหม่”, “หากให้เจาะจง, เราจะเริ่มพัฒนายานพาหนะไฟฟ้ายุคถัดไปสำหรับแบรนด์ Lexus ในปี 2026, ด้วยทุกอย่างทั้งแบตเตอรี่ และแพลตฟอร์ม ไปจนถึงวิธีการสร้างรถให้เหมาะกับการเป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่สุด ไปพร้อมๆกับการขยายไลน์อัพยานยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน”
ทั้งนี้ แม้จะมีการประกาศในลักษณะว่า หลังจากนี้ ทาง Toyota จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการทำรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้อย่างน้อย 30 รุ่นในปี 2030
แต่ก็ใช่ว่า Koji Sato จะทิ้งนโยบายเดิมก่อนลงจากเก้าอี้ผู้บริหารสูงสุด(เพื่อขึ้นไปเป็นประธานกรรมการบริษัท)ของ Akio Toyoda ไป นั่นคือ การยังคงพัฒนารถยนต์ที่ใช้ขุมกำลังรูปแบบอื่น ไม่ว่าจะเป็น รถไฮโดรเจน, รถไฮบริด, หรือรถที่ยังคงใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในล้วนๆอยู่ก็ตาม
เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้งานของลูกค้าที่หลากหลาย ตามแนวคิด “Toyota Multi-Pathway” เช่นเดิม เพียงแต่การลำดับความสำคัญในการพัฒนารถยนต์ขุมกำลังรูปแบบต่างๆได้ถูกเปลี่ยนใหม่ ให้รถยนต์ไฟฟ้าขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆของบริษัทก็เท่านั้น เพื่อให้พวกเขายังคงเป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์(ด้านยอดขาย)อันดับหนึ่งของโลกต่อไป