ทุกวันนี้ ต้องยอมรับว่ารถยนต์สุดหรูหลายรุ่น ต่างมีราคาไม่ได้ไกลเกินเอื้อมมากมายอย่างที่หลายคนคิด รถอย่าง Porsche Macan ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดี ที่ทำให้คุณเห็นว่า รถของแบรนด์ที่อดีต หลายคนทำได้แค่ชายตามอง มาวันนี้มันมีราคาน่าคบหา และ สามารถเป็นเจ้าของได้ เพียงคุณประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน หรือ อาจจะโชคดี ถูกล็อตเตอร์รี่รางวัลที่ 1 สักใบ ก็พอแล้ว

เรื่องราวของ Porsche Macan เกิดขึ้น จากความสำเร็จ ของ Porsche Cayenne จากรุ่นสู่รุ่น หลังปอร์เช่ ค่ายรถยนต์เยอรมัน อยู่รอดปลอดภัย ด้วยการนำเสนอ รถอเนกประสงค์สมรรถนะสูง พร้อมลุย และภายหลัง แตกไลน์มาทำเก๋งซีดานสมรรถนะสูง ร่วมวงรถสปอร์ต จากเดิม ที่มี เพียง 911, Cayman และ Boxster ทำให้ในวันนี้ ปอร์เช่ มีรถมากหน้าหลายตา ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

ทว่า บริษัท ก็ยังค้นพบว่า ลูกค้าที่ต้องการเข้าแบรนด์ บางคนยังรู้สึกว่า รถของพวกเขาอาจเกินเอื้อมไปบ้าง โดยเฉพาะ Cayenne เพราะบางครั้ง ลูกค้ามองว่าใหญ่กว่าความต้องการตัวเองไปมาก บางคนต้องการเพียงรถใช้ขับในเมือง และออกต่างจังหวัดบ้างเป็นบางเวลา Cayenne กลายเป็นรถดูจะใหญ่เกินไป แถมราคาดีดพุ่งไปมากขึ้น จากการพัฒนา จากรุ่นสู่รุ่น

ความต้องการของบางตลาดที่มีความสำคัญ อย่างประเทศ จีน ทำให้ ปอร์เช่ มองเห็น ช่องทางในการวางรถที่มีการตอบสนองตลาดกลุ่มใหม่ ในราคาเอื้อมถึงง่ายขึ้น เน้นกลุ่มลูกค้าซื้อรถแล้วขับเอง และสามารถใช้งานได้ทุกวัน

Porsche Macan เป็นคำมาจากภาษาอินโดนีเซีย แปลว่า “เสือ” มัน ถูกวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2014 และ นับตั้งแต่วางขายครั้งแรก ในปี 2014 เป็นต้นมา จนถึงการเปิดตัว รุ่นใหม่ในปี 2021 ที่ผ่านมา ปอร์เช่ อ้างว่า ได้ส่งมอบรถรุ่นนี้แห่ลูกค้าไปแล้วกว่า 600,000 คัน ในช่วงเวลา 7 ปี ตลาดที่นิยมรถรุ่นนี้ คือประเทศจีน ถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญ รวมถึงในกลุ่มตลาด ทางเอเชีย และนั่นรวมถึงไทยด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นี่คือ ปอร์เช่ ที่คุณสามารถขับต้องได้ง่ายที่สุด ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 4.79 ล้านบาท ก็สามารถเป็นเจ้าของกันได้แล้ว

ภายนอก ย่อส่วน 911

ด้วยความตั้งใจของปอร์เช่ ที่ต้องการสร้างรถรุ่นนี้ ให้เป็นแม่เหล็กดูดคนเข้าแบรนด์ ทางค่ายเยอรมันจึงวางแนวทาง คล้ายรถรุ่นอื่นของแบรนด์ต่างๆในการนำเสนอ เส้นสายงานออกแบบที่ประดุจเอาตัวท๊อป มาย่อส่วนเรียกลูกค้า

ทางปอร์เช่ จัดหนัก ในรุ่นใหม่ ที่เพิ่งเปิดในปี 2021 ด้วยการนำเสนอ เส้นสายงานออกแบบตัวรถ ที่จับเอาความเป็น 911 มาผสานกับความเป็น 918 Spyder จนทำให้ นี่เป็นรถอเนกประสงค์ ที่ครบครัน ด้วยความสปอร์ตไว้อย่างลงตัว

ไฟหน้าใหม่ เปลี่ยนมาเป็น ไฟหน้า LED ตามยุคสมัย ทั้งยังไม่ทิ้ง เอกลักษณ์ไฟ Day Time Running Light – 4 จุด ตามสไตล์ ปอร์เช่ นิยมในยุคไว้อย่างเหนียวแน่น

ขณะที่ตัวรถ ยังมุ่งเน้น ทางด้านงานออกแบบภายนอก ที่มาพร้อม ช่องรับอากาศขนาดใหญ่ ทางด้านหน้า

ส่วนทางด้านข้าง เพิ่มชุดชิ้นส่วนพลาสติกสีดำ กันรอยสีตัวถัง ช่วงชายประตูล่าง และด้านหลัง ยังให้จุดเด่นกับ ท่อไอเสียคู่ขนาดใหญ่ และ ดิฟฟิวเซอร์ใหม่ขนาดใหญ่ ที่ดูลงตัวมากขึ้นกว่ารุ่นเดิม ยังผสานความลงตัว ผ่านงานออกแบบท้ายรถ ทรงท้ายลาด และ ดิฟฟิวเซอร์หลังขนาดใหญ่ และ ไฟท้ายแบบ Cross Tailight ให้ความโดดเด่นมากกว่าเดิม

เส้นสายตัวรถทั้งหมด แนะนำมาพร้อมล้ออัลลอยขนาดใหญ่ รุ่นเริ่มต้น ก็ให้ล้อขอบ 19 นิ้ว มาแล้วตั้งแต่ออกจากโรงงาน

แต่สำหรับตัวรถคันนี้ที่เรานำมารีวิวจากทาง Porche Thailand มีการติดตั้งแพ็คเกจ ตกแต่งพิเศษ Premium Plus Package เพียงเพิ่มอีก 4 แสนบาท จึงได้ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว และ หลังคาพาโนรามิค ติดตัวมาด้วย

ความพิเศษของรถคันที่เราขับ วันนี้ยังมีอีกอย่าง เพราะนี่คือ สีพิเศษ ที่เพิ่งออกมาให้ได้จับจองในปี 2021 กับ สี “Papaya Metallic” คุณอาจจะคิดขำว่า นี่ชื่อสีจริงๆ หรือ ..

ใช่ครับ ปอร์เช่ ตั้งชื่อสีแบบนี้จริงๆ ซึ่งถ้าอยากได้ ก็ต้องเพิ่มเงินอีก 94,000 บาท เป็นค่าตัว

นอกจากนี้ ยังมีอีกสีใหม่ คือ Gentian Blue Metallic ออกมาตอบโจทย์ลูกค้าชาวไทยที่ต้องการ และมองหารถรุ่นนี้ ส่วนใคร ซื้อรุ่น GTS ก็มีสี Pythone Green เพิ่มเข้ามาใหม่

ภายในปรับใหม่ หรูหรา มากขึ้นกว่าเดิม

ทางด้านในห้องโดยสาร ทางปอร์เช่ จัดการปรับ Porsche Macan ให้มีความลงตัวน่าใช้งานมากขึ้น โดยจุดหลักสำคัญ อยู่ที่การปรับภายในให้มาเป็นระบบ Touch ทั้งหมด ที่คอนโซลกลาง ตามพี่ใหญ่ เช่นเดียวกับคันเกียร์ ที่มีการปรับให้มีความสั้นลง เพิ่มความรู้สึกสปอร์ตในการใช้งานมากขึ้น

ตลอดจนยังอัพเดท ระบบความบันเทิง และการเชื่อมต่อที่คอนโซลกลาง ให้พร้อมสำหรับการใช้งาน ด้วยจอขนาด 10.9 นิ้ว ให้ความคมชัด ลื่นติดมือในการใช้งาน ในส่วนงานออกแบบตัวรถ ยังนำเสนอพวงมาลัยใหม่ เรียกว่า พวงมาลัย GT โดยมันถูกยกมาจากตัว Porsche 911 ช่วยให้ตัวรถตอบสนองในสไตล์มากขึ้น

จุดสำคัญอีกอย่างของรถคันนี้ อยู่ที่การปรับงานออกแบบภายใน แนะนำในรูปแบบ มาเป็นแพ็คเกจ เพื่อให้ความสอดรับกับการใช้งาน และสไตล์ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะมากขึ้น

ยกตัวอย่าง รถทดสอบของเรา ที่ภายนอกเป็น Papaya Metallic ภายใน คุณก็สามารถเลือกแพ็ค Papaya Premium Package โดยจะทำการตบแต่งเพิ่มความน่าใช้ให้กับ ตัวรถมากขึ้น อย่างการเดินด้ายสีส้ม รวมถึง เข็มขัดนิรภัย สีส้ม ที่ให้ความรู้สึกเป็นปัจเจกมากขึ้น ถ้าคุณ พร้อมจ่ายเงินอีก 323,000 บาท (แต่ที่เงินที่เพิ่มมาไม่ได้มีความพิเศษแค่การเดินตะเข็บด้าย หรือสีเข็มขัดนิรภัยเท่านั้น ยังมีฟังก์ชันหรือลูกเล่นยิบย่อยของตัวเบาะอีกมากมาย ที่พิเศษกว่าเบาะเดิมๆ)

การปรับปรุง ภายในห้องโดยสาร ยังทำได้มากกว่าที่เห็นอีก ด้วยการให้รายละเอียดตบแต่งด้วยชิ้นส่วนอลูมิเนียม อย่าง “Brush Aluminium Interior Package” เพียงเพิ่มอีก 46,000 บาท จากเดิมที เป็นของตบแต่งติดรถรุ่น GTS

ส่วนความบันเทิง ก็ตอบสนองด้วย ระบบเครื่องเสียง Bose Surround System ทีjทำออกมาได้น่าฟัง เพียงพอต่อการใช้งาน

ไม่หมดเพียงเท่านี้ ความสบายในการโดยสาร จาก Comfort Seat สามารถ ปรับได้ 14 ทิศทาง พร้อม บันทึกท่านั่งได้ 2 ตำแหน่งฝั่งคนขับ และ 3 ตำแหน่ง ในฝั่งคนนั่ง ก็จัดว่าเหลือเฟือ ในการใช้งานมากมาาย

สมรรถนะ และการทดลองขับ

ในวันนี้ที่เราได้ขับ เป็นเจ้า Porsche Macan ตัวธรรมดา ใต้เรือนร่างน้องเสือคันนี้ ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบแถว เรียง 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ทำกำลังขับสูงสุด 265 PS ที่ 5,000-6,500 รอบต่อนาที และ ทำแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ระนาบต่อเนื่องตั้งแต่ 1,800-4,500 รอบต่อนาที ส่งลงชุดเกียร์อัตโนมัติ Porsche PDK 7 สปีด

ทางปอร์เช่ เคลม ว่า สามารถให้อัตราเร่งเร้าใจ 0-100 ก.ม./ช.ม.​ในเวลา 6.2 วินาที ในล้อขนาด 19 นิ้ว ที่ติดตัว มาแต่กำเนิดในรถรุ่นนี้

ให้พูดแล้ว เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบ 265 แรงม้า ฟังตัวเลขพลังแล้วไม่เหมาะสม กับความเป็นปอร์เช่เท่าไรนัก นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่หลายคนรู้สึกได้ตั้งแต่ที่เราพูดถึงรถคันนี้

เพราะกำลังขนาดนี้ คุณสามารถมองหาได้ในรถสปอร์ตทั่วไป จากประเทศญี่ปุ่น แต่ถ้าจะถามว่า มีค่ายไหน ทำรถอเนกประสงค์สมรรถนะขนาดนี้ออกมามาขายในเวลานี้ ในคลาสเดียวกับที่ Porsche Macan ก็คงจะมีแบรนด์ที่ใกล้เคียงที่สุด คือ Mercedes AMG GLC 43 เท่านั้น ในเวลานี้ที่เรานึกออก

แต่ Macan ตัวเริ่มต้น กลับน่าสนใจ ตรงที่มันคือรถซึ่งไม่ได้แรงแบบบ้าทะลุโลก แต่ก็ไม่ได้พลังน้อยจนเกิมงาม ขับแล้ว รู้สึกเหมือนรถบ้าน และยังมีความประหยัด อยู่พอตัว

ความจริง ผมต้องบอกว่า พลังขับของรถคันนี้มีมากพอสำหรับการขับขี่ใช้งานทั่วไป แต่ด้วยในวันนี้ รถทดสอบที่เรานำมาเป็นล้อขอบ 20 ที่ยังเพิ่มขนาดยางใหญ่โตมโหราฬ จนเหมือนในตัว Macan S ให้ยางหน้าขนาด 265/45R20 และ 295/40/ R20 ทางด้านหลัง (ซึ่งยางหน้าชุดใหม่นี้ ก็ใหญ่กว่ายางหลังของล้อ 19 เดิม ขึ้นมาอีกไซส์นึงแล้ว)

ทำให้ เวลาออกตัว จะรู้สึกหนึบๆ ไม่เร้าใจหวือหวาอย่างที่ควรจะเป็น ในแง่ความรู้สึกเป็นเช่นนั้น แต่เมื่อมองมาตรวัดความเร็วกลับพบว่า มันค่อนข้างเร็วพอสมควร จน 0-100 ก.ม./ช.ม.​ เพิ่มเป็นราวๆ 7.6-7.7 วินาที จากที่ลองจับดู ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าคุณใช้ล้อเดิมขนาด 19 นิ้ว ก็น่าจะทำเวลาได้ตามที่เคลมเอาไว้

อาการ เครื่องยนต์ลูกนี้ ออกแนวความรู้สึกคล้ายเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ไม่เหมือน ความรู้สึกเครื่องเทอร์โบ มันไม่เคยให้คุณรู้สึกหลังติดเบาะ ออกตัวเร้าๆ แต่เป็นความรู้สึกสบายขับสนุก ทุกย่านความเร็วกลาง อาจจะผิดหวัง ถ้าคิดว่า มันจะเป็นขุมพลังเร้าใจ

ทางด้านระบบส่งกำลัง Porsche PDK 7 สปีด ก็ตอบสนองในการใช้งานได้ค่อนข้างดีพอสมควร ในโหมด ปกติ มันขับค่อนข้างนุ่มนวลเน้นนั่งสบาย

ถ้าอยากสนุกสนานหน่อย แนะนำหมุนวงแหวนโหมด บนพวงมาลัย ระบบจะทำการปรับการตอบสนองของเกียร์ โดยในโหมด Sport และ Sport Plus ให้อารมณ์ ความบู๊ที่มีความแตกต่างกัน ช่วยเติมความเร้าใจมากขึ้น รถดูกระฉับกระเฉงเร่งไวมากขึ้น ทันอกทัน ใจ แม้ว่าจะม้าเพียง 265 ตัว ก็พร้อม สนุกสนานได้ ความสามารถเกียร์ค่อนข้างฉลาด รู้จักลาก รู้จักทอน รู้จักช่วยผู้ขับขี่ แต่ทั้งนี้ ความฉลาดอยู่ที่การตอบสนองในแต่ละโหมดการใช้งาน

และคุณยังสามารถบริหารจัดการด้วยตัวเอง ผ่าน Paddle Shift ที่พวงมาลัยได้อีกด้วย หากการทำงานของชุดเกียร์โดยตัวสมองกลยังเร้าใจไม่มากพอ

ช่วงล่างที่มั่นใจ

ด้วยการที่รถคันนี้ มาพร้อมการตบแต่งพิเศษ ใน Porsche Premium Package

มันยังควบรวมเอา ระบบ ช่วงล่าง Adaptive Air Suspension มาตอบโจทย์ ช่วงล่างนี้สามารถปรับระดับสูง-ต่ำ และไม่แค่นั้น ยังปรับความแข็งและหนึบช่วงล่างได้ 3 ระดับ สามารถเปลี่ยนตามความต้องการ ในแต่ละโหมดการขับขี่ หรือ จะเลือกปรับแยก ที่คอนโซลกลางก็ทำได้ตามความต้องการ

ในระดับปกติ อาจจะด้วยการปรับการตบแต่งเป็นล้อ 20 นิ้ว ความกระด้างจากถนน จึงยังสัมผัสได้ค่อนข้างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับรถรุ่นอื่น ในล้อขนาดเดียวกัน และสำหรับใครที่มองหาความสบายในการโดยสาร อาจจะรู้สึกว่ามันไม่ค่อยสบายสักเท่าไร ออกไปรู้สึกกระด้างมากกว่า

เมื่อคุณต้องการ สมรรถนะในการขับขี่มากขึ้น จะพบว่าช่วงล่างระดับ 1 ตอบสนองดีลงตัว ในระหว่างการทำความเร็ว ไม่กระด้างจนเกินไปนัก และยังสบาย แถมยังทำให้พวงมาลัยเฉียบคมมากขึ้น

แต่ถ้าคุณต้องซิ่งจริงจังมากขึ้น ช่วงล่างระดีบ 2 จะเป็นคำตอบให้กับสายบู้ตัวจริง ช่วงล่างที่มีคุณลักษณะแบบรถสปอรืตตัวจริง เก็บรายละเอียดทุกเม็ด จนถนนอาจไม่ใช่ช่วงล่างที่ สบายนักกับการโดยสาร ในทางกลับกัน ถ้าคุณนั่งตำแหน่งหลังพวงมาลัย จะรักมันในยามทำความเร็ว

ระบบเบรก

ด้วยกำลัง 265 แรงม้า ไม่ได้มากกว่ารถสปอร์ตเท่าไรนัก ปอร์เช่ จึงติดตั้งเบรก 4 พอท โมโนบล็อกมาให้ทางด้านหน้า ให้จานเบรกขนาด 350 มม.​และ ด้านหลัง 330 มม. ในแง่การใช้งาน ถือว่าเพียงพอแล้ว

ถึงจะพูดแบบนั้น ในความจริง ยามขับด้วยความเร็วสูงจริงๆ การตอบสนองของเบรก ยังมีจังหวะพาเสียวอยู่บ้างเล็กน้อย ยิ่งยามคุณใช้ความเร็วเกิน 180 ก.ม./ช.ม​. แล้วพบว่า มีรถคันหน้าห่างจากคุณไม่กี่สิบเมตร ส่วนหนึ่งมาจากตัวรถที่มีน้ำหนักราว 1,845 กก. เมื่อรวมกับน้ำหนักผู้โดยสารและขับขี่ มันก็มีพิกัดราวๆ 2 ตัน

อันที่จริง เรารู้สึกว่า ประเด็นสำคัญ คือการไป วางเบรกหน้าใหญ่เพียงอย่างเดียว ทำให้ การชะลอความเร็ว ในช่วงแรก จากประสิทธิภาพ เบรกหลัง ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ไม่มั่นใจสมความเป็นปอร์เช่

ยิ่งเราพูดถึง แค่ มาคาน ในรุ่นปกติ ในรุ่น S ที่หันใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ การตอบสนองตัวรถ ดูจะมีความเร้าใจในการขับขี่มากกว่านี้ด้วยเครื่องยนต์ V6 2.9 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังขับสูงสุด 380 PS

ระบบเบรก อาจจะมีการอัพเกรดเป็น จาน 360 มม.​ทางด้านหน้า ปั้มเบรกก็เพิ่มเป็น 6 พอท แต่เบรกหลังเท่ากัน นั่นอาจทำให้ ในยามใช้ความเร็ว ไม่รู้สึกดีเท่าเบรกหลัง ที่มีความมั่นใจได้มากกว่านี้ ยามใช้ความเร็วหรือไม่ ?

สรุป Porsche Macan เสือน้อยเด่นราคา แต่ถ้าไหวแนะนำไปเล่น 6 สูบ เลยจะดีกว่า

หลังจากใช้ชีวิต 1 วัน กับ Porsche Macan ส่วนตัว ผมอยากบอกว่า นี่คือรถ ปอร์เช่ในราคาคุ้มเงิน ที่มีสมรรรนถะที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆไป เท่านั้น

รถคันที่เราทดสอบ โดดเด่นด้วยตัวรถที่ถูกตบแต่งมาเป็นพิเศษ จากภายนอกจรดภายใน ช่วยให้รถมีเสน่ห์ดูเหมือนตัวท๊อป สำหรับคนที่พละกำลังเครื่องไม่ใช่ปัญหาในการซื้อรถในนาม ปอร์เช่

แต่เอาเข้าจริง หลังขับ Porsche Macan ผมอยากจะแนะนำ ใครที่สนใจว่าจะซื้อทั้งที ก็ซื้อเครื่องยนต์ V6 เลยจะดีกว่า ด้วยในรุ่นเริ่มต้น เครื่องยนต์ 4 สูบ 265 แรงม้า มันไม่เร้าใจเท่าที่ควร แม้ว่าจะพอกล้อมแกล้มได้ ในโหมด สปอร์ต แล สปอร์ตพลัส ก็ตามที

หากด้วยน้ำหนักตัวรถ ขนาดล้อและยาง เมื่อถัวกับกำลังขับที่ให้มา 265 แรงม้า ดูจะน้อยไปสักนิด กับ ศักดิ์ศรีความเป็น รถยี่ห้อปอร์เช่ และ ด้วยถ้าคุณมอง ตัว S อาจจะคิดว่า อีกนิดก็ได้ คาเยน จะไปเสียเงิน ซื้อรุ่นน้องทำไม คงเป็น ประเด็นที่ต้องตั้งคำถามต่อเช่นกัน

เจ้าเสื้อน้อยคันนี้ จะว่าไปก็มีดีในแบบของมัน เป็นรถสำหรับผู้บริหารนักเดินทาง ขับรถเอง ที่เน้นสมรรถนะทุกคร้งที่ย่ำเท้าบนถนน ความเป็นปอร์เช่ ยังมอบความเกรงขามให้ทุกครั้ง ที่คุณผ่านไปในทุกเส้นทาง

Porsche Macan อาจเป็นรถที่คนจำนวนมาก มองข้าม เมื่อจะซื้อปอร์เช่ หากการตอบโจทย์ของมันที่หลากหลาย มุ่งเน้นการขับขี่ เป้น สปอร์ต ครอสโอเวอร์ เร้าใจ ก็ยากจะหา คู่เปรียบที่เหมือน เพราะ ราคาไล่กัน อย่างน้อยที่สุด คุณได้แตะแบรนด์ อีกระดับ ที่ใช้ชื่อว่าปอร์เช่

เรื่องและขับทดสอบโดย ณัฐพิพัฒน์ วรโชติโกศล

รถทดสอบ Porsche Macan ในบทความนี้ มีการตบแต่งพิเศษ โปรดสอบถามรายละเอียดที่ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ