หลังจากทำตลาดแบบ Limited Edition ตั้งแต่เจนที่แล้วทั้งในไทยและออสเตรเลียสำหรับ Ford Ranger Wildtrak X กระบะหล่อเหนือกว่ารุ่น Wildtrak เดิมๆ
กับชุดแต่งอัปเกรดความโหดน้องๆ Ford Ranger Raptor แต่พอมาในเจนใหม่นี้ แฟนๆค่ายวงรีสีน้ำเงินเรียกร้องอยากให้กลับมา จึงไม่รอช้าเปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วเรียกว่ามาครั้งนี้มาให้ดังกว่าเดิมด้วยชุดแต่งเก๋ๆรอบคันพร้อมช่วงล่างที่พัฒนาใหม่และขุมพลังที่รองรับกฎ EURO 6
ภายนอกเป็นการผสมผสานกันระหว่างรุ่น Wlidtrak รุ่น Platinum (Stromtrak เวอร์ชันไทย) และ Raptor เข้าไว้ด้วยกันรองรับการติดตั้งหรือขนย้ายอุปกรณ์ด้วยราวหลังคาดีไซน์ขนาดใหญ่และสปอร์ตบาร์แบบปรับได้ (Flexible Rack System) ปรับรูปแบบสปอร์ตบาร์ด้วยเลื่อนจุดล็อกได้ 5 ตำแหน่งด้วยมือเดียว
ภายนอกประดับประดาด้วย ตัวอักษร Wildtrak ติดตั้งบนชอบฝากระโปรง และกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมดีไซน์เฉพาะรุ่นแบบสีดำเงา ติดไฟ AUX Lamp (ทำงานเมื่อเปิดไฟสูง) เพิ่มทัศนวิสัยให้ดีขึ้นในทุกสภาพอากาศ และเพิ่มความปลอดภัยในการขับเวลากลางคืนในชุดกระจังหน้า แผ่นกันกระแทกใต้ห้องเครื่องใหม่ บันไดข้างอะลูมีเนียมสีดำดีไซน์ใหม่ และคิ้วช่องระบายอากาศสีส้มใต้กระจังหน้า
ล้ออัลลอยลายเข้มขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง AT จาก General Grabber AT3 All-Terrain ขนาด 265/70 โหดสุดกับคิ้วขอบล้อสีดำ แถมช่วงล่างพัฒนาใหม่ได้โช้คอัพโมโนทิวป์จาก Bilstein Position-Sensitive พร้อมเทคโนโลยี End Stop Control Valve (ESCV) รองรับการบรรทุกและโดยสารเกาะถนนเหนือใคร
รวมถึงการเปลี่ยนมาใช้ยาง AT ส่งผลให้มีการขยายพื้นที่ด้านหน้าและหลังกว้างขึ้น 30 มม. และความสูงจากใต้ท้องรถเพิ่มขึ้นเป็น 26 มม. เมื่อเทียบกับรุ่น Wildtrak แต่ยังคงความเด่นในการลากจูงได้สูงสุด 3,500 กก.
ภายในเพิ่มดีเทลความเข้มด้วยสัญลักษณ์ Wildtrak X บริเวณฝาเปิดบนชุดคอนโซลหน้าหุ้มหนังกลับ Terra suede เดินด้ายส้ม Cyber Orange เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ผสมหนังกลับMiko suede เดินด้ายส้ม อัปเกรดลำโพงมาใช้แบรนด์ Bang & Oulfsen ให้ถึง 10 จุด พร้อมหัวเกียร์อัตโนมัติแบบ E-Shifter หุ้มหนัง
ขุมกำลังดีเซลเทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร YN2Q ยังคงเป็นพระเอกที่เรียกร้องความสนใจให้มาสัมผัส โดยครั้งนี้ปรับกำลังลงเหลือ 204 แรงม้า แต่แรงบิดเท่าเดิม 500 นิวตันเมตร เป็นรุ่นแรกในตระกูล Ranger เพราะมีเรื่องกฎการปล่อยมลพิษไอเสีย หรือ EURO 6 เข้ามาเกี่ยวข้องแต่ความเร้าใจยังคงเช่นเดิมด้วย เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter 10R80 พร้อมดิฟล็อกหลังแบบไฟฟ้า กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full Time 4A
ส่วนโหมดการขับขี่น Terrain Management System เดิมเลือกได้ 6 โหมด คราวนี้เพิ่มมาอีกโหมดเป็น 7 โหมดนั่นคือโหมดหิน Rock Crawl จากเดิมจะมีทั้งโหมด Normal, โหมด Eco, โหมดลากจูงและบรรทุก Tow/Haul, โหมดทางลื่น Slippery, โหมดทราย Sand, และโหมดโคลน Mud/Ruts
ตอบโจทย์สายลุยเสริมการขับทางโหดได้ดีด้วยระบบช่วยให้การเลี้ยวบนทางแคบได้ดีขึ้นในทางโหดหรือ Trail Turn Assist ระบบควบคุมกำลังแรงบิดของล้อ แรงฉุด เบรก เร่งความเร็วเพื่อให้จำกัดความเร็วได้ต้องการ และระบบล็อกควาเร็วแปรผันอัตโนมัติแบบ Stop&Go ยังเพิ่มฟังก์ชัน ล็อกความเร็วในเส้นทางออฟโรดมาให้โดยสามารถปรับตั้งความเร็วสูงสุด 32 กม./ชม.
Ford Ranger Wildtrak X มาพร้อมโปรโมทสีส้ม Cyber Orange และสีอื่นๆทั้งสี สีขาว Arctic White, สีเทา Meteor Grey, สีดำ Shadow Black และ สีบอรนซ์เงิน ALUMINIUM ขายจริงที่ออสเตรเลียช่วงครึ่งปีหลังนี้