แม้จะมีการเผยโฉมมาตั้งแต่ปลายปี 2022 แต่เราก็แทบไม่เห็นข่าวคราวการวางจำหน่ายจริงของ Ford Mustang เจเนอเรชันที่ 7 สักที จนกระทั่งข้อมูลล่าสุดที่เราได้รับมาระบุว่า ตอนนี้รุ่นพี่ของมันได้ถูกยุติสายการผลิตไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย

Ford Mustang เจเนอเรชันที่ 6 รหัส S550 เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ปี 2023 และขายจริงในฐานะรถยนต์โมเดลปี 2015 เนื่องจากความนิยมของรุ่นพี่โฉมก่อนหน้ายังคงมีอยู่

แต่จากการเสริมทัพด้วยรุ่นย่อยที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นวางเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง เทอร์โบ EcoBoost ขนาด 2.3 ลิตร*, เครื่องยนต์ V6 3.7 ลิตร, เครื่องยนต์ V8 5.0 ลิตร*, เครื่องยนต์ V8 5.2 ลิตร ใน GT350, และ V8 5.2 ลิตร พ่วงซุปเปอร์ชาร์จ ใน GT500 ประกอบกับงานออกแบบที่ดูสวยงามในสายตาของใครหลายๆคนไม่แพ้รุ่นพี่

จึงทำให้มันสามารถสร้างยอดขายกับลูกค้าทั่วโลกได้เป็นอย่างดี จนทาง Ford กล้าประกาศว่ามันคือรถสปอร์ตที่ขายดีที่สุดในโลก โดยอ้างอิงจากข้อมูลโดยบบริษัท S&P Global Mobility ที่ระบุว่าเจ้า Mustang รุ่นนี้สามารถทำยอดขายรวมไปได้มากกว่า 70,000 คัน ในปี 2021

โดยแม้จะถูกแซงโดยคู่แข่งสัญชาติเดียวกันอย่าง Dodge Challengers ไปบ้าง สำหรับยอดขายประจำปี ในปี 2021-2022 แต่ล่าสุดในช่วงไตรมาสแรกของปีี 2023 Mustang ก็กลับมามียอดขายเหนือคู่แข่งอีกครั้งก่อนปิดสายการผลิต ด้วยตัวเลขยอดขาย 14,711 คัน เทียบกับคู่แข่ง 11,371 คัน

และตัวรถ Mustang S550 รุ่นสุดท้าย ถูกระบุโดยสื่อท้องถิ่นว่า มันได้ถูกประกอบและส่งออกจากสายการผลิตไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา โดยเป็นตัวรถที่วางขุมกำลัง 2.3 ลิตร EcoBoost รุ่นคูเป้ สี Oxford White** ซึ่งทางสื่อต้นทางเองก็ไม่ได้ระบุว่ามันตกไปอยู่ในมือของใคร แต่มั่นใจไไไได้เลยว่า ในอนาคตมันอาจมีราคาที่สูงขึ้นกว่าที่ถูกขายออกตอนแรกแน่นอน

*รุ่นที่ถูกส่งเข้ามาวางจำหน่ายในไทย

**คนละรุ่นกับภาพประกอบ แต่ใช้สีตัวถังเดียวกัน

ด้าน Ford Mustang เจเนอเรชันที่ 7 ซึ่งจะมาพร้อมกับรหัสประจำตัว S650 ก็ถูกระบุว่ามันจะพร้อมวางขายและส่งมอบจริงในประเทศสหรัฐอเมริกาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

โดย 3 รุ่นแรก ที่จะเปิดขายก่อน จะเริ่มด้วยรุ่นวางเครื่องยนต์ 2.3 ลิตร EcoBoost ลูกใหม่ ที่ถูกปรับจูนจนสามารถทำแรงม้าได้ 315 HP และแรงบิดสูงสุด 475 นิวตันเมตร, รุ่นวางเครื่องยนต์ V8 5.0 ลิตร ซึ่งก็ถูกปรับจูนใหม่เช่นกัน และสามารถทำแรงม้าได้ 480 HP กับแรงบิดสูงสุด 563 นิวตันเมตร, และสุดท้ายคือรุ่นพิเศษ “Dark Horse” ที่วางเครื่องยนต์ V8 5.0 ลิตร เช่นกัน แต่ได้รับการติดตั้งท่อไอเสียสมรรถนะสูงเข้าไป จึงทำให้พละกำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นอีก เป็น 500 HP และแรงบิดสูงสุดก็ขยับขึ้นเป็น 567 นิวตันเมตร

และนอกจากทั้ง 3 รุ่นที่เกริ่นไปแล้ว ในความเป็นจริง ยังมีข่าวลือของรุ่นพิเศษอีก 3 รุ่น ที่อาจจะถูกเปิดตัวตามมาในอีกไม่กี่ปีให้หลัง ไม่ว่าจะเป็นตัวแรง GT500 ตามด้วยร่างตัวแข่ง GT3 และล่าสุด กับร่างตัวลุย Raptor