ด้วยตัวถังที่เข้าใกล้ช่วงปลายอายุการทำตลาดไปทุกที ทำให้ Mazda MX-5 ในแต่ละประเทศมักมีการทำร่างพิเศษเพื่อนับถอยหลังกันอยู่เรื่อยๆ และ MX-5 Kizuna Edition ที่ทุกท่านเห็นกันอยู่ในขณะนี้ ก็เป็นหนึ่งในรุ่นพิเศษที่พึ่งถูกเปิดตัวออกมา

Mazda MX-5 Kizuna มาพร้อมกับการตกแต่งพิเศษ ที่เน้นในเรื่องของการเล่นสีสันตามชิ้นส่วนต่างๆที่ดูสะดุดตามากกว่าตัวรถรุ่นปกติ โดยเริ่มจากเฉดสีตัวถัง ที่จะเป็นสีเฉพาะรุ่นอย่าง สีเทาเข้ม Machine Gray หรือ สีน้ำเงินเข้ม Deep Crystal Blue

จากนั้นยังมีการเล่นโทนแปลกตาเพิ่มขึ้นอีก ด้วยหลังคาที่ถูกเปลี่ยนสีผ้าหุ้มใหม่ จากสีดำธรรมดาๆ เป็นสีน้ำเงินเข้ม ด้านงานตกแต่งในห้องโดยสาร ก็จะเปลี่ยนมาเพิ่มความสะดุดตาด้วยเฉดสีทูโทน ขาว-ดำ ตามชิ้นส่วนต่างๆ โดยหากเป็นชิ้นส่วนที่ดั้งเดิม เป็นงานพลาสติก ก็จะยังคงใช้สีดำ แต่ชิ้นส่วนหุ้มหนังต่างๆ จะถูกเปลี่ยนไปใช้หนังแนปป้าสีขาว และมีการเดินตะเข็บด้ายสีเงินแทน

โดยแม้ตัวรถรุ่นนี้ ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Mazda MX-5 Exclusive-Line รุ่นบนสุดที่มีวางจำหน่ายในสหราชอาณาจักร แต่มันกลับมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 132 แรงม้า PS ซึ่งเป็นเครื่องยนต์สเป็ครองสำหรับลูกค้าในประเทศ และแน่นอนว่ามันจะใช้ระบบส่งกำลังแบบชุดเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เท่านั้น ไปยังชุดล้อคู่หลังตามฉบับโรดสเตอร์ขนาดเล็กสำหรับขาซิ่ง

นอกนั้นในด้านออพชันชันและลูกเล่นต่างๆ ก็ยังคงจัดให้อย่างครบครัน ทั้ง Cruise Con­trol,
De­ploy­able Hood Sys­tem (DHS), Driver At­ten­tion Alert (DAA), Dy­nam­ic St­a­b­il­ity Con­trol (DSC), Hill Launch Ass­ist (HLA), Lane De­par­ture Warn­ing Sys­tem (LDWS), Smart key­less entry, Smart key­less entry,
Tyre Pres­sure Mon­it­or­ing Sys­tem (TPMS), Ad­apt­ive Front light­ing Sys­tem (AFS) หรือไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ, ใบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, และ ระบบเสียงลำโพง 9 จุด จาก BOSE ทำงานร่วมกับหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 7 นิ้ว

2023 Mazda MX-5 Kizuna จะถูกผลิตขึ้นเพียง 250 คันเท่านั้น และมีการประกาศราคาสำหรับบการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว ว่าจะอยู่ที่ 30,265 ปอนด์สเตอร์ลิง หรือราวๆ 1.28 ล้านบาท