เรียกว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ Toyota Crown เจนที่ 16 ครั้งนี้เปิดตัวทีเดียวหลากหลายตัวถังทั้งแบบเก๋งซีดานและเอสยูวีถึง 3 รูปแบบ
ฉีกแนวจากความเป็นอนุรักษนิยมมาเป็นแบบโมเดิร์นทันยุคหลังจากเปิดตัว Toyota Crown Crossover ก็มาถึงคิวลำดับที่สองกับ Toyota Crown Sports ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ต่างกันแต่มีเอกลักษณ์พร้อมตรามงกฎที่ขอบฝากระโปรงหน้าพร้อมออปชันเด่นทั้งไฟหน้าเป็นแบบ LED 3ดวง และ Bi-Beam LED ดวงเดียวแบบ Characteristic daylight
กระจังหน้าขอบสีเดียวกับตัวรถพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ตคิ้วชายล่างกันชนหน้าสีดำ คิ้วขอบล้อสีดำ ล้ออัลลอยขนาดใหญ่สุด 21 นิ้ว ด้านท้ายติดตั้งไฟท้าย LED เส้นเดียวแนวยาวที่มีทั้ง ไฟเบรก ไฟท้ายหลัก ไฟเลี้ยว และไฟถอยในโคมเดียวกัน รับกันชนหลังสีเดียวกับตัวรถเสริมลิ้นกันชนหลังขนาดใหญ่สีดำ ตัวรถใหญ่โตสมฐานะจากพื้นฐาน TNGA-K
ภายในหรูหราตั้งแต่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านตกแต่งโลโก้ตรามงกุฎสำหรับสเปกญี่ปุ่นและโลโก้สามห่วงสำหรับทั่วโลก พร้อมจอทัชสกรีนคู่ 12.3 นิ้ว ที่มีทั้งมาตรวัดดิจิตอลและจอสัมผัสควบคุมระบบบันเทิงและการเชื่อมต่อในชุดจอเดียวกัน เชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlayไร้สาย Android Auto พร้อมลำโพง 6,10 และมากถึง 11 จุด จาก JBL เครื่องปรับอากาศแยกส่วน 3 จุดทั้งด้านหน้าซ้ายขวา และด้านหลังหนึ่งจุด
ขุมพลังจะมีทั้งแบบ Hybrid และ Plug In Hybrid เริ่มที่เบนซิน Dynamic Force Hybrid 2.5 ลิตร ให้กำลังรวมถึง 249 แรงม้า พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD E-Four Advanced คู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT เลือกได้สี่โหมดสำหรับการขับขี่ EV, Normal, Eco และ Sport พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า-หลังและแบตเตอรี่ Hybrid แบบ Nickel-Metal และขุมพลังเสียบปลั๊ก Plug In Hybrid Dynamic Force 2.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว แบบ Permanent Magnet Synchronous Motor และความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 18.1 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้ารวม 304 แรงม้า
วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า EV ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 85 กม. ตามมาตรฐาน NEDC โดยชาร์จกระแสสลับ AC แบบ Type 2 รองรับกำลังการชาร์จสูงสุด 6.6 kW ใช้เวลาเพียง 2.30 ชม. คู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT พร้อม Sequential Shift พร้อมโหมดการขับขี่ถึงสี่โหมดได้แก่ EV,EV/HEV,HEV และชาร์จแบตเตอรี่ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ e-Four มอเตอร์ไฟฟ้าแบบติดตั้งด้านหลังด้วยกำลังขับจากมอเตอร์กำลังสูง พร้อมระบบเลี้ยวที่ล้อหลังหรือ “DRS (Dynamic Rear Steering)
Toyota Crown Sports จำหน่ายที่ญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนกันยายนด้วยรุ่น Hybrid ส่วนรุ่น Plug In Hybrid จำหน่ายตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้
ที่มาภาพ Takeshi Yasuda