Home » อีโคซีดานตัวตึง Toyota Yaris Ativ vs Nissan Almera ใครคุ้มกว่าใคร ?
รถใหม่ เปรียบเทียบรถใหม่

อีโคซีดานตัวตึง Toyota Yaris Ativ vs Nissan Almera ใครคุ้มกว่าใคร ?

อาจจะจริงอยู่ว่ากระแสรถยนต์รูปทรงซีดานในปัจจุบันนั้นค่อนข้างซบเซา แต่หากเจาะจงไปที่รถยนต์ขนาดเล็กสายประหยัดอย่างอีโคคาร์ กลายเป็นว่ารถอีโคซีดานนั้นกลับสามารถทำยอดขายได้ดีไม่แพ้อีโคแฮชท์แบ็ค โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสองผู้นำในตลาดอย่าง Toyota Yaris Ativ กับ Nissan Almera

Toyota Yaris Ativ และ Nissan Almera ต่างก็เป็นรถซีดานในกลุ่มอีโคคาร์ที่ได้กระแสตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดีมาโดยตลอด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฝั่ง Yaris Ativ ที่เมื่อมันได้รับการปรับโฉมครั้งใหญ่ บนพื้นฐานแพลตฟอร์มใหม่ ที่ทำให้มันมีสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีกว่าเดิม พร้อมใส่ออพชันต่างๆที่จัดเต็มมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นรถที่มีความคุ้มค่ากับราคาในสายตาของผู้ใช้รถมือใหม่ ไปจนถึงมือเก่าหลายๆคน

ขณะเดียวกัน Almera เอง ดั้งเดิม นับตั้งแต่การเปิดตัวเจเนอเรชันที่สองของตัวรถออกมา มันก็ได้ความดีความชอบจากทั้งหน้าตาที่ดูทันสมัย ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง และที่สำคัญที่สุดคือเครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบ ที่มีสมรรถนะโดดเด่น ในเรื่องความแรง และความประหยัดที่เหลือเฟือสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

ไม่เพียงเท่านั้นตัวรถรุ่นใหม่ปี 2023 ยังมาพร้อมกับการแต่งหน้าทาปากใหม่ ที่ทำให้ตัวรถดูมีความทันสมัยยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับออพชันต่างๆของตัวรถ ที่ถูกใส่มาให้ครบครันกว่าเดิม แต่มันจะสูสีกับ Yaris Ativ คู่แข่งสายตรงมากแค่ไหน วันนี้ เรามาลองเทียบความเปรียบต่างไปด้วยกันดีกว่าครับ

(ข้อมูลทั้งหมดนี้ อ้างอิงข้อมูลตัวรถโมเดลปี 2023 ทั้งสองรุ่น ในไลน์อัพท็อปสุด คือ Nissan Almera VL และ Toyota Yaris Ativ Premium Sport)

มิติตัวรถ

Nissan AlmeraToyota Yartis Ativ
ความยาว4,495 มิลลิเมตร4,425 มิลลิเมตร
ความกว้าง1,740 มิลลิเมตร1,740 มิลลิเมตร
ความสูง1,460 มิลลิเมตร1,480 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ2,605 มิลลิเมตร2,620 มิลลิเมตร
ระยะห่างล้อหน้า1,525 มิลลิเมตร1,520 มิลลิเมตร
ระยะห่างล้อหลัง1,535 มิลลิเมตร1,510 มิลลิเมตร
ความสูงใต้ท้องรถ135 มิลลิเมตร160 มิลลิเมตร
รัศมีวงเลี้ยว5.2 เมตร4.8 เมตร
ความจุถังน้ำมัน35 ลิตร40 ลิตร

เครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน

Nissan AlmeraToyota Yartis Ativ
รุ่นเครื่องยนต์HRA03NR-VE
แบบเครื่องยนต์3 สูบเรียง DOHC เทอร์โบ4 สูบเรียง DOHC Dual VVT-iE
ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก72.5 x 81.3 มิลลิเมตร72.5 x 72.5 มิลลิเมตร
ความจุเครื่องยนต์999cc1,197cc
อัตราส่วนกำลังอัด9.5 : 113.5 : 1
แรงม้าสูงสุด100 PS ที่ 5,000 รอบ/นาที94 PS ที่ 6,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด152 นิวตันเมตร ที่ 2,400-4,000 รอบ/นาที110 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลังXTRONIC CVT พร้อม D-Step LogicSuper CVT-i พร้อม Sequential Shift
อัตราทดเกียร์เดินหน้า4.0062 – 0.45802.800-0.425
อัตราทดเกียร์ถอยหลัง3.77084.784 – 2.145
อัตราทดเกียร์เฟืองท้าย3.92475.105

ระบบกันช่วงล่าง และระบบบังคับเลี้ยว

Nissan AlmeraToyota Yaris Ativ
ระบบพวงมาลัยแร็ค แอนด์ พิเนียน พร้อมระบบเพาเวอร์ไฟฟ้าแร็ค แอนด์ พิเนียน พร้อมระบบเพาเวอร์ไฟฟ้า
ระบบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบกันสะเทือนด้านหลังทอร์ชันบีม คอยล์สปริงทอร์ชันบีม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบเบรกด้านหน้าดิสก์เบรก แบบมีช่องระบายความร้อนดิสก์เบรก
ระบบเบรกด้านหลังดรัมเบรกดิสก์เบรก
ขนาดวงล้อ15 นิ้ว16 นิ้ว
ขนาดยาง195/65 R15195/60 R16

ออพชันและลูกเล่นที่น่าสนใจ

Nissan AlmeraToyota Yaris Ativ
เบาะนั่งภายในห้องโดยสารปรับมือ หนังสังเคราะห์ สีดำ วัสดุ Qoule Modure ไม่สะสมความร้อนปรับมือ หนังแท้ สลับ หนังสังเคราะห์ สีแดง
งานตกแต่งชิ้นส่วนภายในห้องโดยสารโทนดำ เปียโนแบล็ค ตัดสีน้ำเงินที่ชิ้นงานคอนโซลหน้า หลังคาสีเบจโทนแดง/ดำ พร้อมไฟ Ambient Light ปรับได้ 64 เฉดสี และวัสดุสีเงิน หลังคาสีเบจ
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หุ้มหนัง แบบ D-Shape ปรับได้ 4 ทิศทางมัลติฟังก์ชัน หุ้มหนัง แบบกรอบกลม ปรับได้ 4 ทิศทาง
มาตรวัดวัดความเร็วแบบเข็มกวาด + จอ MID TFT ขนาด 7 นิ้ววัดความเร็วแบบดิจิตอลขาว/ดำ + จอ MID TFT ขนาด 7 นิ้ว
ระบบปลดล็อค และสตาร์ทเครื่องยนต์กุญแจรีโมท พร้อมปุ่ม Push Start และระบบสตารร์ทด้วยกุญแจรีโมทจากภายนอกกุญแจรีโมท พร้อมปุ่ม Push Start
หน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 8 นิ้ว พร้อมรองรับระบบ Apple CarPlay + Android Autoขนาด 7 นิ้ว พร้อมรองรับระบบ Apple CarPlay + Android Auto
ลำโพง6 จุด6 จุด จาก Pioneer
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เฉพาะตอนหน้า ยังไม่มีช่องแอร์หลังอัตโนมัติ พร้อมไส้กรองฝุ่น PM 2.5 และแอร์หลัง
โหมดการขับขี่ไม่มี3 แบบ ECO/Normal/Sport
เบรกมือธรรมดาไฟฟ้า พร้อมระบบ Auto Hold
ระบบควบคุมความเร็วธรรมดาAdaptive Cruise Control แบบ All-Speed
แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สายมีไม่มี

ระบบความปลอดภัย

Nissan AlmeraToyota Yaris Ativ
กล้องมองรอบคันมีมี
กล้องบันทึกภาพหน้ารถไม่มีมี
สัญญาณเตือนกะระยะหน้า-หลังมีมี
ระบบป้องกันล้อล็อคมีมี
ระบบกระจายแรงเบรกมีมี
ระบบเสริมแรงเบรกมีมี
ระบบควบคุมการทรงตัวมีมี
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีไม่มีมี
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันมีมี
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตามีมี
ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถมีมี
ระบบเตือนก่อนการชน พร้อมระบบช่วยเบรกก่อนการชนมีมี
ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติมีมี
ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนมีมี
ระบบพวงมาลัยดึงกลับอัตโนมัติเมื่อออกนอกเลนไม่มีมี
ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดวิธีไม่มีมี
ระบบเซนเซอร์ตรวจจับแรงดันลมยางมีไม่มี
ถุงลมนิรภัย6 จุด6 จุด

เพิ่มเติม Nissan Almera 2023 มาพร้อมระบบ “Nissan Connect Services” ซึ่งมีฟังก์ชันยิบย่อยคือ

  • ระบบติดติดขอความช่วยเหลือ SOS พร้อมการระบุตำแหน่งรถยนต์
  • ระบบบติดต่อให้ความช่วยเหลืออัตโนัมติ พร้อมการระบุตำแหน่งรถยนต์
  • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกล ผ่านแอพพลิเตชัน
  • ระบบตรวจสอบสถายะการล็อคประตู สั่งล็อค หรือปลดล็อคประตูรถยนต์ระยะไกล ผ่านแอพพลิเคชัน
  • ระบบบค้นหาตำแหน่งรถ ผ่านแอพพลิเคชัน
  • ระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์และแจ้งเตือนหากพบความผิดปกติ
  • ระบบแจ้งเตือนเมื่อครบกำหนดการเข้ารับบริการ ผ่านแอพพลิเคชัน

โดยในส่วนการให้บริการเหล่านี้ ฝั่ง Toyota Yaris Ativ ยังไม่มีมาให้แต่อย่างใด

รุ่นย่อย และราคาวางจำหน่าย

Nissan AlmeraToyota Yaris Ativ
E : 549,000 บาทSport : 549,000 บาท
EL : 589,000 บาทSmart : 594,000 บาท
V : 659,000 บาทPremium : 669,000 บาท
VL : 699,000 บาทPremium Luxury : 699,000 บาท

สรุปจากข้อมูลในข้างต้น

จะเห็นได้ว่าราคาของตัวรถทั้งสองคันนี้ อยู่ในระดับที่เท่ากันแทบจะ 100% ในทุกรุ่นย่อย แต่ในขณะที่ Yaris Ativ ให้ระบบความปลอดภัยขั้นสูง ที่สามารถทำงานได้อย่างครบครันมากกว่า

ฝั่ง Almera แม้จะยังให้ระบบความปลอดภัยน้อยกว่าคู่แข่งไปบ้างในบางจุด แต่ก็มีระบบความปลอดภัยเสริม “Nissan Connect Services” ที่ดูน่าสนใจไม่แพ้กัน และเครื่องยนต์ของมันก็มีเรี่ยวแรงที่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในส่วนของแรงบิด

ซึ่งท้ายที่สุดนี้ก็คงขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานของทุกท่าน ว่ากำลังมองหาคุณสมบัติใด ในการใช้รถยนต์อีโค่ซีดานของตนเอง แต่ทั้งสองคันก็ล้วนมีคุณสมบบัติที่กินกันยากจริงๆ ไม่ได้มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกันจนมากเกินไปเลยสักนิด

ที่เหลือคือประเด็นในเรื่องการขับขี่ ซึ่งเราอาจจะต้องของลองนำมาเปรียบเทียบกันแบบ Head 2 Head กันอีกครั้ง และมันอาจเกิดขึ้นในอีกไม่นานหลังจากนีี้

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.