หลังหายจากสารบบไปแล้วไม่น้อยกว่า 20 ปี ดูเหมือนว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ชื่อของ Honda Prelude อาจได้ฤกษ์ถือกำเนิดใหม่อีกครั้ง พร้อมเทคโนโลยีใหม่ที่ตรงยุคตรงสมัยมากขึ้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อมูลที่ถูกนำเสนอโดยสื่ออเมริกา Motor Trend ที่ระบุว่าพวกเขาได้บังเอิญไปพบกับหลักฐานชิ้นสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับรถสปอร์ตคูเป้ขับหน้ารุ่นตำนานคันหนึ่งของ Honda เข้า นั่นคือหลักฐานการจดทะเบียนการค้าคำว่า “Prelude” ที่ทางค่ายไม่ได้ใช้งานมันมานานกว่า 2 ทศวรรษเข้า
ซึ่งการจดทะเบียนเครื่องหมายครั้งนี้ ทาง Honda ก็ได้มีการระบุจุดประสงค์ไว้อย่างชัดเจนว่า “มีไว้เพื่อ การใช้กับยานพาหนะทางบก, เป็นชื่อ, ของยานพาหนะและชิ้นส่วนของยานพาหนะ” จึงทำให้เราหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะคิดว่า การยื่นจดข้อมูลในครั้งนี้ อาจเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ที่จะมาพร้อมกับชื่อโมเดลที่มีความเป็นมาตั้งแต่ปี 1978 รุ่นนี้
ส่วนความเป็นไปได้ที่มันอาจจะมาพร้อมกับตัวถังแบบรถคูเป้ 2 ประตู ดังเดิม ก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นอยู่ไม่น้อย เพราะแม้หากว่ากันตามตรง ว่าในปัจจุบัน ก็มีหลายค่ายที่เอาชื่อรถสปอร์ตที่เคยเป็นตำนาน กลับมาทำใช้ใหม่กับรถอเนกประสงค์ แต่ตอนนี้ Honda ไม่มีรถยนต์ที่มาพร้อมกับรูปทรงตัวถังดังกล่าวเลยแม้แต่รุ่นเดียว นับตั้งแต่ที่ Honda Civic Coupe ได้ยกเลิกการทำตลาดไปเมื่อต้นปี 2022
ดังนั้นการนำชื่อ Prelude ที่เป็นรถที่ใช้ตัวถังคูเป้ 2 ประตูโดยกำเนิด ตั้งแต่เจเนอเรชันแรก จนถึงเจเนอเรชันสุดท้าย กลับมาทำตลาดอีกครั้ง จึงเป็นอีกทางเลือกที่สามารถอุดช่องว่างได้อย่างน่าสนใจ
นอกจากนี้ หากอิงตามข้อมูลโดย Motor Trend พวกเขายังระบุอีกว่า ในตอนนี้ทาง Honda มีแผนที่จะทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ที่ไม่ใช่ร่าง SUV หรือ แฮชท์แบ็ค เพื่อขยายตลาดเพิ่มเติม
บวกกับความที่ดั้งเดิม Prelude ก็คือรถที่มักจะมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆของทางค่ายเสมอๆอยู่แล้ว ตั้งแต่ ระบบเลี้ยว 4 ล้อ (รุ่นแรกของโลก), ระบบวาล์วแปรผัน VTEC, และระบบเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป สำหรับรถขับเคลื่อนล้อหน้า จึงทำให้การเอาตัวรถตระกูลนี้มาเปิดตัวในฐานะรถยนต์คูเป้ 2 ประตูไฟฟ้าคันแรกของแบรนด์ ดูเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง
แต่ทั้งนี้ นอกจากข้อมูลเรื่องของการจดทะเบียนการค้าชื่อ Prelude กับการพิจารณาทำรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นอื่น ที่ไม่ใช่ร่าง SUV เราต้องเรียนตามตรงว่านอกเหนือจากนี้ ยังเป็นเพียงข้อมูลจากการวิเคราะห์โดยสื่อด้วยกันเองเท่านั้น มันจึงมีความเป็นไปได้ที่อาจเกิดความคลาดเคลื่อน หรือมีเซอร์ไพรซ์อื่นๆนอกจากนี้อีก ซึ่งเรามีแต่จะต้องคอยอัพเดทข้อมูลกันต่อไป