หลังประกาศข้อมูลยืนยันอย่างเป็นทางการไปเมื่อกลางเดือนก่อน ล่าสุด Volvo EX30 ก็ได้เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1.59 ล้านบาท เท่านั้น

Volvo EX30 ถือเป็นรถยนต์แนวครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก ที่อยู่ในกลุ่มถัดลงมาจาก Volvo XC40/C40 ลงมาอีกระดับ ด้วยขนาดตัวด้านยาวเพียง 4,233 มิลลิเมตร, ด้านกว้าง 1,837 มิลลิเมตร, ด้านสูง 1,549 มิลลิเมตร, และระยะฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร พร้อมความกว้างฐานล้อคู่หน้า 1,590 มิลลิเมตร กับความกว้างระยะฐานล้อด้านหลัง 1,595 มิลลิเมตร

ซึ่งหากเทียบกับ Volvo XC40 ซึ่งมีรูปทรงตัวถังแบบเดียวกัน ด้วยมิติตัวรถ กับขนาดตัวด้านยาว 4,440 มิลลิเมตร, ด้านกว้าง 1,910 มิลลิเมตร, ด้านสูง 1,651 มิลลิเมตร, และระยะฐานล้อ 2,702 มิลลิเมตร พร้อมความกว้างฐานล้อคู่หน้า 1,601 มิลลิเมตร กับความกว้างระยะฐานล้อด้านหลัง 1,615 มิลลิเมตร

ก็จะเห็นได้ว่า EX30 มีขนาดเล็กกว่า XC40 อยู่ 207 มิลลิเมตร ในด้านยาว, 73 มิลลิเมตร ในด้านกว้าง, 102 มิลลิเมตร ในด้านสูง, 52 มิลลิเมตร ในด้านระยะฐานล้อ, และ 11 มิลลิเมตร กับ 20 มิลลิเมตร ในส่วนความกว้างฐานล้อหน้า-หลัง ตามลำดับ

นอกนั้นในด้านงานออกแบบตัวรถ ก็ล้วนมาพร้อมกับเส้นสายใหม่ ที่อาจจะคล้ายรุ่นพี่ แต่ก็มีความโค้งมนมากกว่าที่จะดูเปลี่ยนเหลี่ยมสัน โดยเฉพาะกับเส้นสายด้านข้าง ทั้งเส้นรอบซุ้มล้อ, เส้นฝากระโปรงหน้า, และเส้นแนวหลังคา

เสริมความเรียบง่ายด้วย ชุดไฟหน้าที่ดูสะอาดตากว่าเดิม, กันชนหน้าที่แทบไม่มีการเว้นช่องดักลมไว้อีกต่อไป, แม้กระทั่งไฟท้ายกับสปอยเลอร์หลังเอง ก็ยังใช้เส้นสายที่เรียบเนียนไปกับตัวถัง แต่ยังคงความโดดเด่นตามฉบับ Volvo เอาไว้เช่นเคย

งานออกแบบภายในห้องโดยสารเอง ก็ยังคงเน้นความเรียบง่าย สะอาดตาเช่นเดียวกับภายนอก ทั้งชุดคอนโซลหน้าแบบไร้ปุ่ม เพราะแทบทุกการควบคุมลูกเล่นของตัวรถ ล้วนถูกยัดไปไว้ในหน้าจออินโฟเทนเมนท์แนวตั้งขนาด 12.3 นิ้วทั้งหมด ส่วนพวงมาลัยเป็นแบบสปอร์ต พร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชัน ช่วยให้รถไม่ดูน่าเบื่อจนเกินไป

นอกนั้นลูกเล่นต่างๆก็ยังคงมีมาให้ครบครัน ทั้งช่องวางแก้วน้ำ 2 แก้ว ตรงกลางระหว่างผู้โดยสารตอนหน้า, แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย, พอร์ทชาร์จไฟ USB-C 4 ตำแหน่ง, ระบบเสียงและลำโพงจาก Harman Kardon, หลังคากระจก, เบาะนั่งหุ้มผ้าและหนัง สังเคราะห์ขึ้นจากวัสดุธรรมชาติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งอาจจะต้องรอเจาะลึกรายละเอียด กับตัวรถที่มีการวางขายในไทยอีกที

ด้านรายละเอียดขุมกำลังและระบบขับเคลื่อน ของ EX30 ที่วางจำหน่ายในไทย จะออพชันให้เลือก 2 รูปแบบ ดังนี้

• Single Motor – Extended Range
  มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อคู่หลัง กำลังสูงสุด 272 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตร พร้อมทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 5.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  
  แบตเตอรี่ NMC ขนาด 69 kWh รองรับระยะทางในการใช้งานสูงสุด 480 กิโลเมตร (รวม) และสูงสุด 662 กิโลเมตร สำหรับการใช้งานในเมือง และสามารถชาร์จไฟด้วยระบบ DC กำลังสูงสุด 175 kW (หัวชาร์จ CCS2) จากปริมาณแบตฯ 10%-80% ได้ภายในเวลา 25 นาที หรือหากเป็นการชาร์จไฟที่บ้าน ด้วยระบบ AC หัวชาร์จ Type2 กำลังสูงสุด 11 kW จากปริมาณแบตฯ 0%-100% จะใช้เวลาทั้งสิ้น ไม่เกิน 8 ชั่วโมง
  
• Twin Motor – Performance
  มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD กำลังสูงสุด 428 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 543 นิวตันเมตร พร้อมทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  
  แบตเตอรี่ NMC ขนาด 69 kWh รองรับระยะทางในการใช้งานสูงสุด 460 กิโลเมตร (รวม) และสูงสุด 635 กิโลเมตร สำหรับการใช้งานในเมือง และสามารถชาร์จไฟด้วยระบบ DC กำลังสูงสุด 175 kW (หัวชาร์จ CCS2) จากปริมาณแบตฯ 10%-80% ได้ภายในเวลา 25 นาที หรือหากเป็นการชาร์จไฟที่บ้าน ด้วยระบบ AC หัวชาร์จ Type2 กำลังสูงสุด 11 kW จากปริมาณแบตฯ 0%-100% จะใช้เวลาทั้งสิ้น ไม่เกิน 8 ชั่วโมง

ด้านเฉดสีจะมีให้เลือก 5 แบบด้วยกัน ได้แก่ สีเหลือง Moss Yellow, สีฟ้า Cold Blue, สีเทา Vapour Grey, สีขาว Crystal White, และ สีดำ Onyx Black

ขณะที่เฉดสีภายในจะมีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ สไตล์ Mist, Indigo, และ Breeze ซึ่งจะอยู่แตกต่างกันไปตามคู่สีตัวถังภายนอก

ด้านราคาสำหรับการวางจำหน่ายในประเทศไทยของ Volvo EX30 จะมีการแบ่งตามรุ่นย่อยดังนี้

• Volvo EX30 “Core” – Single Motor Extended Range : ราคา 1,590,000 บาท
• Volvo EX30 “Ultra” – Single Motor Extended Range : ราคา 1,790,000 บาท*
• Volvo EX30 “Ultra” – Twin Motor Performance : ราคา 1,890,000 บาท**

*สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมาจากรุ่นเริ่มต้นคือ เปลี่ยนชุดล้อจากขนาด 18 นิ้วเป็น 19 นิ้ว, เพิ่มระบบความปลอดภัยขั้นสูง, เพิ่มเบาะปรับไฟฟ้าคู่หน้า (เริ่มต้นมีเฉพาะฝั่งผู้ขับ), เพิ่มหลังคากระจก, เพิ่มกล้อง 360 องศา (เดิมมีแต่กล้องหลัง)

**สิ่งที่ได้เพิ่มมาจากรุ่นกลางคือ ขุมกำลังที่ขยับไปใช้แบบมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 428 แรงม้า PS

ทั้งนี้ทาง Volvo Thailand ระบุว่า จะพร้อมส่งมอบตัวรถภายในช่วงไม่เกินไตรมาสแรกของปี 2024 หรือต้นปีหน้า