บรรดารถ PPV ในปัจจุบัน ที่ขายดีที่สุดดูจะเป็นเจ้า Toyota Fortuner ที่ยืนหนึ่งมาดโดยตลอด โดยในปีนี้ ทางโตโยต้า ปรับตัวรถรุ่น Fortuner GR Sport ใหม่ ขลับภาพ จากการเป็นรถบ้านตบแต่งพิเศษ ทะยานสู่ภาพลักษณ์ความสปอร์ตอีกขั้น จนหลายคนต้องว้าว
ปรุงแต่ง ขุมพลัง จน เป็นราชาดีเซล
ท่ามกลางการแข่งขัน ใครจะคิดเลย ว่าทีมวิศวกร โตโยต้า จะบ้าดีเดือด จับเอา Fortuner GR Sport มาเพิ่มดีเอ็นเอ สปอร์ตเข้าไปอีกขั้น
ใต้เรือนร่างของรถรุ่นนี้ มาพร้อม เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร เทอร์โบชาร์จ เดิมที ใช้สเป็คเดียวกับ Legender รุ่นปกคิ ทำกำลังขับสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิด 500 นิวตันเมตร
งวดนี้ปรับเพิ่มพลัง บวกขึ้นอีก 20 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด เพิ่มขึ้นอีก 50 นิวตันเมตร ซึ่งต้องกล่าวกันตามตรงว่า นี่เป็นครั้งแรกของโตโยต้า ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ จะเป็นงาน เปลี่ยนเครื่อง แต่กำลังเท่ากับรถบ้านๆ แค่ยกเครื่องใหม่ ใส่ลงไป อะไรทำนองนั้น อย่างใน Hilux GR Sport ตัวเตี้ย เป็นต้น
การปรับปรุงนี้ เรียกง่ายๆ ว่าเป็นงานจูนเครื่องยนต์ใหม่ ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพระาในออสเตรเีลย Toyota Hilux GR Sport ใหม่ สายลุย พร้อมปะทะ แรพเตอร์ดีเซล นั้น ก็ได้เครื่องยนต์กำลังขับเดียวกันนี้ เพัยงแค่ในไทยนี่มันครั้งแรกเลยก็ว่าได้
นั่นทำให้ Ford Everest เสียรางวัดให้กับ Toyota หลังจากครองตำแหน่งมานาน แม้ว่า Fortuner GR Sport อาจจะไม่ใช่ รุ่นที่คนส่วนใหญ่เลือกซื้อก็ตามที
การเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ มีผลดีตามมาหลายอย่าง ไม่ใช่เพียงตัวเลขที่สวยงามเท่านั้น
อย่างแรก มันทำให้ รถ Toyota Fortuner GR Sport ไม่ใช่ รุ่นที่เป็นแค่เพียงสีพิเศษ ตบแต่งพิเศษ เท่านั้น แต่ยังพิเศษ ด้วยเครื่องยนต์ทรงพลัง และ ช่วงล่างที่ไม่เหมือนกับรุ่น Legender
ประการต่อมา พละกำลังของมัน มอบความเร้าใจในการขับขี่มากขึ้น อย่างชัดเจน จากการทดสอบของเรา พบว่า เพียงแต่คันเร่งเบาๆ รถก็เร่งแซง อย่างรวดเร็ว หรือ กระทั่งในความเร็วต่ำ ตัวรถก็ออกตัวง่ายขึ้นไม่ต้องเดินรอบเยอะมาก กระฉับกระเฉง ผิดหูผิดตา
โดยจากที่ลองวัดอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม.พบว่าสามารถเร่งเร็วสุด อยู่ที่ 10.73 วินาที (บนถนนลาดยาง) ตอบสนองเร็วกว่ารถรุ่นอื่นในกลุ่มเดียว
เมื่อขับจริงบนถนน พบว่า มันกลายเป็นไอ้อ้วนพริ้ว พุ่งทะยานได้ว่องไว ต้องการเร่งแซง กดเป็นมา ขับๆบางทีลืมมิงหน้าปัด รู้ตัวอีกที 130-140 ก.ม./ช.ม. กลายเป็นรถที่ต้องบันยะบันยัง เรื่องการใช้คันเร่งพอสมควร
แต่อารมณ์ การตอบสนองเครื่องยนต์ได้ความสปอร์ตนี่แหละ ที่ทำให้หลายคนน่าจะถูกใจ เรียกว่า ออกจากโชว์รูมจบเลย ไม่ต้องไปแต่งเพิ่มยังได้ เสียอย่างเดียว ไหนๆ จะเพิ่มพละกำลัง น่าจะปรับ ให้ความเร็วสูงสุด เพิ่มขึ้นไปด้วย อย่างน้อย ทะลุ 200 ก.ม./ช.ม. ก็น่าจะดีกว่าให้มันเท่าเดิม อย่างที่เคยเป็นมา
แต่ที่จับสังเกต ชุดเกียร์ออโต้ 6 สปรด มีการ รีจูนใหม่บางจังหวะ อาจะเพื่อพยายามให้ปราบฝูงมา้าบ้าง เช่น ในจังหวะทำความเร็ว ถ้าคุณเหยียบเบรกค่อนข้างแรง เกียร์จะมีอาการดึงเกียร์หรือเชนไว้ให้และรอรอบ นิดหนึ่งจะเห็นได้ในโหมดสปอร์ต เพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่มากขึ้น
และถึงรุ่นนี้จะเพิ่มแรงม้า แต่จากที่ขับใช้งานจริง ทั้งขับในเมือง เขต กทม. และวนรอบๆ ชานเมือง เราพบว่ าเจ้า Fortuner GR Sport ใหม่ คันนี้ ไม่ได้กินน้ำมันมากขึ้น มันซดเพียง 13 ก.ม./ลิตร ไม่ได้แตกต่างจากเดิม เท่าใดนัก
ช่วงล่างมั่นใจเหมือนเดิม
ทางด้านช่วงล่าง เท่าที่มีข้อมูลไม่ได้มีการปรับรายละเอียดใดๆ ยังเป็น Monotube จาก Kayaba เหมือนเดิมไม่ได้ปรับให้สอดรับกับแรงม้า
จริงๆ ช่วงล่างตัวนี้ รองรับการใช้งานความเร็วสูงอยู่แล้ว ต้องบอกตามตรง สำหรับใครที่สนใจว่า ช่วงล่างรุ่นนี้ ค่อนข้างจะติดแข็งแน่น มีความกระด้างอยู่พอสมควร มันไม่ใช่ช่วงล่างนั่งสบาย
ถ้าคุณมองหาช่วงล่างที่มีความนั่งสบาย เราแนะนำให้ผ่านลงไป Legender น่าจะตอบโจทย์มากกว่า หรือไม่ก็ต้องไปรุ่นอื่นแล้วล่ะครับ
เท่าที่ขับ ช่วงล่างกับกำลังเครื่อง เหมาะสมกันดี อย่างกับกิ่งทองใบหยก
เครื่องยนต์ พละกำลังน้องๆ รถสปอร์ต ต้องการช่วงล่างที่มั่นใจ กลับกัน ช๊อคอัพ Mono Tube ก็ต้องการเครื่องยนต์ที่มีความสามารถให้มันโชว์สมรรถรนะออกมาได้อย่างเต็มที่
ด้วยความลงตัวดังกล่าว ทำให้รถคันนี้กลายเป็นรถขับสนุก ทำเวลาได้ดี มีความมั่นใจมากพอสมควร ไม่หวั่นใจ ในทุกสภาพเส้นทาง
ออพชั่นที่ เพิ่มเข้ามาบ้าง
ถ้ายกเรื่องการขับขี่ออกไป ตัวรถมีอะไรปรุงแต่งเปลี่ยนไปไหม ต้องตอบว่า มีบ้าง
ภายนอก ยังคงมาพร้อม สีเพียง 3 สี คือ ขาวดำ , แดงดำ, และ สีดำล้วน 2 สีแรก ต้อง บวกเงินเพิ่มอีกนิดหน่อย ประมาณ 20,000 บาท
ส่วนรายละเอียดภายนอกนั้นไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย จริงๆ ส่วนตัว ผมรู้สึกว่าไหนๆจะแพงขึ้น ช่วยทำสีฝาหน้าดำมาให้ด้วยน่าจะดีมาก ลูกค้าอาจถูกใจ หรือ อย่างน้อย เป็นออพชั่น ซื้อเพิ่มก็ได้
ทางด้านในห้องโดยสารรวมๆ เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น เบาะนั่งหนังกลับ เจาะรู หรือจะเป็นการตัดเย็บหัวหมอน เครื่องเสียง JBL และอื่นๆ อีกมากมาย
สิ่งที่เปลี่ยนไป มี 2 อย่าง อย่างแรก จอเครื่องเสียง ปรับ ฟร้อนท์ใหม่ ให้ทันสมัยมากขึ้น รองรับการเชื่อมต่อ Apple Car Play และ Android Auto ไร้สาย อำนวยความสะดวกมากขึ้น
อีกอย่างที่เพิ่มเข้ามาก็คือ ระบบเตือนแรงดันลมยางอ่อน ให้ความมั่นใจ และปลอดภัยมากขึ้นในการเดินทาง
ด้านระบบความปลอดภัยอื่นๆ ก้มีเท่าที่จำเป็นมาค่อนข้างครบแล้ว จึงไม่ได้มีการเพิ่มเติม จากเดิมเท่าไรนัก
สรุป Toyota Fortuner GR Sport 2023 ปรับนี้เน้นสปอร์ต แต่คุ้มราคาไหม คิดเอา
หลังจากใช้ชีวิตอยู่กับ คุกกี้ตัวแรง มาตลอดหลายวัน ในภาพรวม พละกำลังเครื่องที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้รถมีความสามารถ ตอบสนองในการขับขี่ดีขึ้น ถูกใจสาวกคนชอบความแรงทั้งหลาย อย่างแน่อน
และด้วยรถที่มาพร้อมช่วงล่าง ความสามารถในการขับขี่และการใช้งานอยู่เป็นทุนเดิม ทำให้มันค่อนข้างจะลงตัวมากที่สุดในวันนี้
แต่ว่า ด้วยราคาของมันที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 1,939,000 บาท และ อาจสูงถึง 1,959,000 บาท สำหรับรุ่นสีทูดทน ทำให้หลายคนอาจคิดไม่ตก ที่จะซื้อรถที่มีราคาแพงขนาดนี้ ยิ่ง สายเดียวกัน มีกระบะราคาถูกกว่า และแรงกว่า ก็ทำให้น่าคิดว่า จะซื้อทั้งที น่าจะคิดหนัก
สิ่งที่ฟอร์จูนเนอร์ยังดีกว่า คือ ความอึดถึกทน ของมัน พร้อมกับความสามารถรอบด้าน และ อัตราประหยัดที่ดีกว่า
ดังนั้น จะซื้อหรือ ไม่ ลองตัดสินใจดูครับ