หลังจากที่ Mazda 2 และ Mazda CX-3 ได้เปิดตัวโฉมปรับเล็กในไทยไปเพียงไม่นาน ล่าสุดตัวรถร่างขายในประเทศญี่ปุ่นเอง ก็ได้รับการปรับโฉมเช่นกัน และที่สำคัญคือดูเหมือนมันจะมีลูกเล่นบางอย่างที่น่าสนใจกว่าในบ้านเราด้วย
2024 Mazda 2 และ 2024 Mazda CX-3 ถูกเปิดตัวแล้วในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา ในประเทศญี่ปุ่น โดยสาระสำคัญของการปรับโฉมในครั้งนี้ หลักๆแล้วก็ไม่ได้มีความแตกต่างไปจากการเผยโฉมในบ้านเราเท่าไหร่นัก นั่นคือการเน้นปรับงานออกแบบชิ้นส่วนเปลือกนอกใหม่เล็กน้อย เพื่อให้ตัวรถดูมีความโดดเด่น ซุกซุน และทันสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝั่ง Mazda 2
และในส่วนของงานออกแบบภายในเอง ก็มีการปรับโทนสีกรอบช่องแอร์ และผ้าหุ้มเบาะใหม่เพียงเล็กน้อย แต่ที่น่าแปลกใจคือ ในคราวนี้ ชุดหน้าจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ที่คอนโซลกลางของมัน ดันได้รับการอัพเกรดใหม่ให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น จากขนาด 7 นิ้ว เป็นขนาด 8.8 นิ้ว เหมือนกันทั้งคู่ (สังเกตได้จากการที่หน้าจอใหม่นั้น จะกว้างกว่าเดิมจนล้นแนวฐานด้านล่างออกมาแล้ว)
ซึ่งนั่นถือว่าต่างจากบ้านเราอย่างชัดเจน เพราะตัวรถทั้งสองรุ่นร่างปี 2023-2024 ในประเทศไทย ยังคงใช้จอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 7.0 นิ้ว เหมือนเดิม แค่เพิ่มระบบเชื่อม Apple CarPlay เป็นแบบไร้สายเท่านั้น
ด้านตัวเลือกขุมกำลังเอง แม้จะไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงไปจากตัวรถโฉมปีก่อนหน้า แต่หากเทียบกับตัวเลือกที่วางจำหน่ายอยู่ในประเทศไทยแล้ว ก็ถือว่ามีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย ทั้งในฝั่ง Mazda 2 ที่นอกจากเครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร
ด้านเครื่องยนต์เบนซินเอง ก็ยังเป็นบล็อค Skyactiv-G ที่มีขนาดใหญ่กว่าของบ้านเรา นั่นคือ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 110 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร (ส่วนบ้านเราตัวรถขุมกำลังเบนซิน ได้แค่เครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร ตามกฏหมายรถอีโคค่าร์ และมาพร้อมกับกำลังสูงสุด 93 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร
ส่วนฝั่ง Mazda CX-3 ที่ขายในญี่ปุ่น ก็ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0 ลิตร เหมือนในบ้านเรา แต่ใช้เครื่องยนต์ Skyactiv-G 1.5 ลิตร และ Skyactiv-D 1.8 ลิตร แทน (ไม่มีการระบุตัวเลขกำลังสูงสุดเอาไว้)
ขณะที่ระบบส่งกำลังเอง ก็ยังคงเป็นแบบชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แต่ที่ต่างจากไทยคือลูกค้าชาวญี่ปุ่นสามารถเลือกออพชันระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AWD ได้ด้วย เผื่อจำเป็นต้องใช้งานรถในวันหิมะตกหนักนั่นเอง