หลังจากที่หัวหน้าฝ่ายการตลาดของ AVATR ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษว่าพร้อมลุยกับการทำตลาดรถพวงมาลัยขวาโดยเริ่มที่ไทยเป็นที่แรกช่วงปีหน้า
ทำให้ชาวไทยที่สนใจแบรนด์ลูกของ Changan นั้นต่างใจจดใจจ่ออยากพบตัวจริงเสียทีทั้ง AVATR 12 เก๋งไฟฟ้ารุ่นใหม่กับ AVATR 11 เอสยูวีทรงสปอร์ตด้วยหน้าตาคล้ายกับ AVATR 12 หล่อทั้งคันตั้งแต่ ไฟหน้า LED ทรงสามเหลี่ยมล้อมกรอบไฟ DRL แบบ LED รูปตัวซี เหนืออีกมีไฟ DRL LED แบบเส้นแนวนอนสะท้อนความหรูอีกระดับกับโลโก้ของ AVATR ช่องระบายอากาศในชุดกันชนหน้าที่กลมกลืนดูดี ด้านข้างเด่นด้วยที่เปิดประตูเรียบเนียนกับตัวถัง กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงสปูน ด้านหลังเด่นชัดกับดีไซน์ของบานฝาท้ายที่มีตำแหน่ง Spoiler ค่อนข้างสูง ทำให้เหลือพื้นที่กระจกบังลมหลังอันน้อยนิด ไฟท้าย LED เส้นแนวนอนลากยาวถึงตัวถังด้านข้างรับกับกันชนหลังเสริมลิ้นสปอยเลอร์หลังสีดำเข้มมีครีบรีดอากาศ ภายในนั่งได้ 4-5 ที่นั่งหุ้มหนังแท้ Nappa มาพร้อมจอจอลอยสองจุดทั้งฝั่งคนขับที่เป็นมาตรวัดความเร็วแบบ LCD และฝั่งคนนั่งฝั่งละ 10.25 นิ้ว จอกลางระบบความบันเทิงขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว พร้อมลำโพงรอบคัน 14 จุด ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light 256 สี ที่ชาร์จมือถือไร้สายหน้าหลัง
มาพร้อมระบบเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงและชุดแบตเตอรี่แบบ Ternary Lithium Battery เริ่มที่รุ่นเริ่มต้น Standard Range ความจุแบตเตอรี่ 90.38 kWh แต่แบ่งเป็นสองรุ่นเริ่มที่รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลัง 313 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 600-630 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.6 วินาที
ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อให้กำลังรวม 578 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 555-580 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.98 วินาที ทั้งคู่ชารจ์ไดั้ทั้งแบบกระแสตรง DC กำลังสูงสุด 240 kW 0-80% ภายในเวลา 25 นาที และ 30-80% ภายในเวลา 15 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% กำลังไฟสูงสุด 11 kW น้อยกว่า 10.5 ชั่วโมง
ขยับมาเป็นรุ่น Extended Range ความจุแบตเตอรี่ 116.79 kWh เลือกไดั้ทั่งสองรุ่นเริ่มที่รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังให้กำลัง 313 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 705-730 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.9 วินาที
รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อให้กำลังรวม 578 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 680-700 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4.5 วินาที ทั้งคู่สามารถชาร์จได้ทั้งสองแบบทั้งชาร์จกระแสตรง DC กำลังสูงสุด 240 kW 0-80% ภายในเวลา 45 นาที และ 30-80% ภายในเวลา 25 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC 0-100% กำลังไฟสูงสุด 11 kW น้อยกว่า 13.5 ชั่วโมง
AVATR 11 ขายจีนในราคาเริ่มต้น 300,000-390,000 Yuan หรือราว 1,489,000-1,929,000 บาท ส่วนเมืองไทยดูความพร้อมทุกๆด้านว่าจะจริงจังกับแบรนด์รายนี้มากน้อยแค่ไหนติดตามในครั้งต่อไป