แม้จะยังไม่มีการเปิดตัว Mazda CX-80 ออกมาให้ชาวโลกได้เห็นเลยสักครั้ง แต่ทางค่ายกลับให้ข้อมูลออกมาแล้วว่า มันคือตัวตายตัวแทนของ Mazda CX-8 ที่จะถูกยุติสานพานการผลิตในเร็วๆนี้
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 ตัวรถ Mazda CX-8 ได้ถูกเผยโฉมเป็นครั้งแรกสู่สายตาชาวโลก โดยมีจุดเด่นคือการเป็น Mazda CX-5 ซึ่งมาพร้อมกับตัวถังที่ยาวขึ้น จนสามารถใส่ที่นั่งภายในห้องโดยสารได้ 3 แถว และมีตัวเลือกทั้งแบบ 6 หรือ 7 ที่นั่ง พร้อมระบบส่งกำลังทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) และเครื่องยนต์ทั้งแบบดีเซลหรือเบนซิน แล้วแต่ตลาดที่วางจำหน่าย
อย่างไรก็ดี ด้วยอายุอานามตัวถังกว่า 5 ปี ประกอบกับการที่มันยังไม่มีเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปลดปล่อยมลพิษได้ดีมากพอ สำหรับการทำตลาดในอนาคตอันใกล้ ทำให้ทาง Mazda ได้มีการประกาศเตรียมยุติสายพานการผลิตของ Mazda CX-8 ในช่วงปลายเดือนธันวาคม ปี 2023 หรือก็คือภายในสิ้นปีนี้ หลังจากที่มันได้มีการขึ้นไลน์ผลิตในหลายๆประเทศ (รวมถึงไทย) และวางจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียมาโดยตลอดครึ่งทศวรรษที่ผ่านมา
แต่ทั้งนี้ แม้จะมีการประกาศยุติการผลิต แต่ทางค่ายจะยังคงวางจำหน่าย CX-8 ต่อไปในปี 2024 อย่างน้อยก็จนกว่าจะหมดสต็อค (หรือว่าง่ายๆก็คือจะขายเพื่อเคลียร์สต็อคนั่นเอง)
ส่วนตัวตายตัวแทนของ CX-8 คือ All-New Mazda CX-80 ที่แม้จะยังไม่มีการเปิดตัว แต่ทางค่ายก็ได้ให้ข้อมูลยืนยันไว้แล้วว่าพวกเขาจะเผยโฉมมันภายในช่วงปี 2024 และจะมาพร้อมกับขุมกำลังหลายแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น Skyactive-D (ดีเซล), Skyactive-X (เบนซิน) ที่ต่างได้เทคโนโลยีระบบ Mild Hybrid มาช่วยเสริมอัตราเร่งในช่วงความเร็วต่ำ และช่วยลดการปล่อยมลพิษ
และจะมีรุ่นขุมกำลัง Plug-In Hybrid ด้วย แต่อาจไม่ได้มีให้เลือกในทุกประเทศที่มันถูกส่งไปวางจำหน่าย ซึ่งต้องมารอติดตามกันต่อว่าประเทศไทยที่เป็นหนึ่งในตลาดเป้าหมายของตัวรถรุ่นนี้ จะมีออพชันขุมกำลังดังกล่าวให้เลือกซื้อหรือไม่ ?
นอกจากนี้ ทางค่ายยังระบุอีกว่า มันจะมาพร้อมกับความอเนกประสงค์และมอบความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารที่มากกว่า ด้วยการใช้แพลตฟอร์มโครงสร้างตัวถังที่ใหญ่ขึ้น แต่แน่นอนว่าจะยังคงไม่ถึงขั้น CX-90 พี่ใหญ่สุดที่มีไว้จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับร่างตัวถังสั้นอย่าง CX-70 เพราะ CX-80 จะใช้โครงสร้างร่วมกับ CX-60 ที่มีไว้จำหน่ายในทวีปยุโรป กับญี่ปุ่นเป็นหลักนั่นเอง
(แต่จากที่ผู้เขียนได้มีโอกาสสัมผัส Mazda CX-60 คันเป็นๆ ก็ต้องบอกว่า แค่นี้ตัวรถก็ใหญ่เกินพอแล้ว สำหรับการใช้งานโดยคนเอเชียอย่างเราๆ)
