หลังการเปิดราคาตัวรถ Mercedes-Maybach S580e รุ่นประกอบไทยไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อกลางปี ล่าสุดทางผู้บริหารก็ได้มีการประกาศราคาสำหรับตัวรถที่มาพร้อมกับออพชันพิเศษอย่าง รุ่นประกอบไทย+ตัวถังสีทูโทน เพิ่ม ว่าจะถูกวางจำหน่ายด้วยราคา 11.2 ล้านบาท
Mercedes-Maybach S580e รุ่นประกอบไทย ตัวถังสีทูโทน ราคา 11.2 ล้านบาทนี้ จะอิงรายละเอียดทางเทคนิคเดียวกันกับ S 580 e รุ่น Premium ซึ่งเป็นตัวรถอีกหนึ่งรุ่นย่อย ที่มีการประกาศราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการไปแล้วก่อนหน้านี้ ด้วยตัวเลข 9,880,000 บาท
ดังนั้น หากเทียบกันตามตรง นอกจากเฉดสีตัวถังที่เห็นได้ด้วยตาแล้ว หน้าตาไม่ของมันจึงไม่ได้มีความแตกต่างจาก S 580 e ร่างต้นเท่าไหร่นัก ทั้งในส่วนของ กระจังหน้าโครเมียม Radiator grille ขนาดใหญ่ล้อมกรอบแปะตราตัวอักษร Maybach ไส้ในของกระจังหน้ามาในแนวตั้ง 27 ซี่โครเมียมสีเงิน พร้อมแนวเส้นตรงยาวบนฝากระโปรงหน้าหลังโลโก้ตราดาวแบบโครเมียมสีเงิน Hood Trim Strip ติดตั้งไฟหน้า LED แบบ Digital Light กันชนหน้าและช่องระบายอากาศโครเมียมดีไซน์พิเศษ
ด้านข้างมาพร้อมคิ้วโครเมียมที่ขอบกระจกทั้งหมดและกรอบเสาประตูที่เปิดประตูซ่อนรูปเนียบเพิ่มความกลมกลืนของเส้นสายทางด้านข้าง, ตราสัญลักษณ์ Maybach ตรงเสา C กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED มีไฟส่องใต้พื้นแบบตราโลโก้ Maybach
ด้านหลัง ให้ไฟท้าย LED แบบ Exclusive tail-light animation ครอบทับด้วยกรอบโครเมียมใต้ป้ายทะเบียน และยังคงใช้ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วพร้อมยางหน้า 255/40 R20 และยางหลัง 285/35R20
งานตกแต่งห้องโดยสาร เน้นภาพลักษณ์ความแกรนด์ด้วย คอนโซลหน้ารูปลักษณ์โมเดิร์นและสามารถเลือกลวดลายการตกแต่งได้ตามรสนิยมของผู้ใช้
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสปอร์ตหุ้มด้วยหนังผสมลายไม้หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ความละเอียดสูงแบบ Digital Instrument clusters ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานร่วมกับหน้าจอ MBUX7 (Mercedes-Benz User Experience) แบบทัชสกรีนขนาด 12.8 นิ้ว ซึ่งเป็นจอที่ไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์เท่านั้น แต่ยังมีไว้แสดงผลระบบควบคุมลูกเล่นต่างๆภายในตัวรถ
ด้านเบาะนั่งหุ้มหนังแท้ Exclusive Nappa Leather ลวดลายพิเศษ นอกจากนี้ สำหรับเบาะตอนหลัง ยังเป็นเบาะปรับไฟฟ้าที่สามารถปรับตำแหน่งที่นั่งพร้อมการนวด ซึ่งสามารถเลือกโปรแกรมการนวด Calf Massage ได้สูงสุด 6 โปรแกรม
พร้อมกันนี้ยังมีจอหลัง MBUX High-End Rear Seat Entertainment ทำงานร่วมกับ Rear Tablet หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วบริเวณที่ท้าวแขนเบาะหลัง ควบคุมความบันเทิงบนหน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว 2 หน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังโดยเฉพาะ
ตบท้ายด้วยระบบเสียง Burmester® 4D-Surround พร้อมชุดลำโพงรอบคันพร้อม ไฟสร้างบรรยากาศในตัวรถ Active Ambient Lighting พิเศษด้วยชุดแป้นเหยียบคันเร่งและเบรก Pedal Cluster และสครัพเพลตชายประตู Door Sills ติดตราโลโก้ Maybach
ด้านขุมกำลังของ Mercedes-Benz S580e ยังคงใช้ขุมกำลังไฮบริด PHEV แบบเบนซินเทอร์โบ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร 367 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ที่ให้กำลัง 150 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร
โดยเมื่อทั้งสองขุมกำลังทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ จะให้กำลังมากสุด 510 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตันเมตร เมื่อผนวกกับการทำงานของระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-TRONIC จึงทำให้มันสามารถเรียกอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลาเพียง 5.1 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
และด้วยความเป็นรถยนต์ไฮบริด PHEV ที่มาพร้อมกับชุดแบตเตอรี่ขนาดความจุ 28.6 kWh จึงทำให้มันสามารถวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าได้ไกลสุด 100 กม. ต่อการชาร์จเต็มประจุ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP ความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้าอยู่ที่ 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง